OPPO Pad Air แท็บเล็ตรุ่นใหม่บางเพียง 6.94 มิลลิเมตร ดีไซน์โฉบเฉี่ยว หน้าจอถนอมสายตา 2K HD eye care พร้อมลำโพง 4 ตัว กับระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมมอบความบันเทิงเต็มรูปแบบ รองรับการใช้งานกับปากกา OPPO Smart Life Intelligent Stylus ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680 Mobile Platform อันทรงพลัง ทำงานลื่นไหล ปรับแต่งได้โดนใจบนระบบ ColorOS สำหรับ OPPO Pad Air แบตเตอรี่ความจุ 7,100 mAh มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charge ให้ใช้งานได้ยาวๆ ตลอดทั้งวัน

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่อง OPPO Pad Air มีขนาด 245.08 x 154.84 x 6.94 มม. น้ำหนักเบา ประมาณ 440 กรัม ถือใช้งานในเวลานานได้ไม่ค่อยเมื่อยมือ ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก

หากคุณวางเครื่องในลักษณะแนวนอน ด้านบนของเครื่องมีปุ่มสำหรับเพิ่ม-ลดระดับเสียงอยู่ทางฝั่งซ้าย พร้อมไมโครโฟน

ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นจะเป็นถาดใส่ MicroSD Card ซึ่งสามารถเพิ่มได้สูงสุด 512GB และมีไมโครโฟนอีกตัวหนึ่งอยู่ด้วย

หน้าจอแสดงผลเป็น LCD มีขนาด 10.36 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K (2000 x 1200 พิกเซล) รองรับการแสดงผลสีแบบ 10-bit ให้สีสันที่สมจริง สวยงาม มองได้เต็มตา อัตราการรีเฟรชหน้าจอมาตรฐาน และอัตราความไวหน้าจอสัมผัส 120Hz

ส่วนบนของหน้าจอ ได้ติดตั้งกล้องหน้า ความละเอียด 5MP (f/2.2) อยู่ตรงกลาง ขอบจอใหญ่ แต่ก็ให้อัตราส่วนหน้าจอถึง 83.5%

ตัวเครื่องทางขวามีลำโพงเสียง 2 ตัว ขนาบอยู่ระหว่างพอร์ต USB Type C ที่ใช้สำหรับชาร์จ หรือเชื่อมต่อผ่านสาย

ตัวเครื่องทางซ้ายมีปุ่ม Power ที่ใช้เปิด-ปิด และล็อคหน้าจอเครื่อง ถัดลงมาจะเห็นลำโพงอีก 2 ตัว ซึ่งใน OPPO Pad Air จะมีลำโพงมาให้รวมแล้ว 4 ตัว รองรับระบบเสียง Dolby Atmos อีกด้วย

ตัวเครื่องด้านหลัง ตรงมุมของเครื่องจะพบกับกล้องหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.0) ฝาหลังมีการดีไซน์ที่แบ่งเป็น 2 ส่วนอย่างเห็นได้ชัด พื้นผิว Sunset Dune ส่วนบนของฝาหลัง ด้วยกระบวนการ Reno Glow พร้อมการเคลือบ 5 ชั้น และเทคโนโลยี 3D finishing ให้เปรียบเสมือนคลื่นของทะเลทราย สร้างมิติที่สวยงามให้กับรูปลักษณ์ อีกส่วนที่เรียบลื่นมีความระยิบระยับด้วยกระบวนการ Reno Glow ให้สัมผัสที่ดีเมื่อสัมผัส ลดการเกิดรอยนิ้วมือ

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคเบื้องต้นของแท็บเล็ต OPPO Pad Air

  • ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 12 บนพื้นฐาน Android 12
  • ขนาดตัวเครื่อง : 245.08 x 154.84 x 6.94 มม.
  • นํ้าหนัก : 440 กรัม
  • หน้าจอ : พาเนล LCD ขนาด 10.36 นิ้ว ความละเอียด 2000X1200 พิกเซล ความสว่างสูงสุด 360 นิต
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680 Mobile Platform
  • GPU : Adreno 650
  • RAM : 4GB LPDDR4X
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 64GB UFS 2.2
  • MicroSD Card : สูงสุด 512GB
  • ระบบเชื่อมต่อ : Wi-Fi 5 (802.11ac), WiFi 802.11b/g/n/ac (2.4GHz+5GHz), Bluetooth 5.1, GPS, GLONASS
  • พอร์ต USB Type-C
  • กล้องหลัง : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • ระบบเสียง : ลำโพง 4 ตัว ระบบเสียง Dolby Atmos, ไมโครโฟน 2 ตัว
  • แบตเตอรี่ : ความจุ 7,100 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charge

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์บางโฉบเฉี่ยว เล่นเลเยอร์

OPPO Pad Air มีดีไซน์และรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวแปลกตา ด้วยการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากทะเลทรายยามพระอาทิตย์ตก จึงได้นำเอาเทคโนโลยี 3D finishing มาใช้เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมนี้ ให้ฝาหลังแบบ Sunset dune มีการนูนขึ้นมาแบบ 3 มิติดั่งเนินทราย มอบพื้นผิวที่ดูมีเลเยอร์มากขึ้น พร้อมใช้เทคนิคการตกแต่งพื้นผิวแบบ Reno Glow ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ OPPO เติมความระยิบระยับให้กับพื้นผิวอีกส่วน มีผิวสัมผัสที่เรียบลื่น ทั้งยังช่วยลดการเกิดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี โดย OPPO Pad Air มาพร้อมกับสีเทาที่เรียบหรูและน่าค้นหา ผสานความงดงามกับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว

นอกจากรูปลักษณ์ที่สวยงาม OPPO Pad Air ยังเน้นให้ผู้ใช้งานสามารถถือเล่นและพกพาอย่างสะดวกขึ้น กับตัวเครื่องที่มีความบางเพียง 6.94 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าบางกว่าสมาร์ทโฟนบางรุ่นเสียอีก น้ำหนักเบา 440 กรัม มีการออกแบบอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยการออกแบบตัวเครื่องตามลักสรีรศาสตร์ระดับมืออาชีพ ทำให้การจับถือ OPPO Pad Air มีความกระชับสบายมือมากขึ้น

หน้าจอกว้าง 2K HD eye care ที่ถนอมสายตา

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแท็บเล็ต สิ่งสำคัญที่ต้องการก็คือหน้าจอที่ใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน เพื่อการใช้งานที่ตอบโจทย์มากขึ้น ซึ่ง OPPO Pad Air มาพร้อมกับจอ LCD กว้าง 10.36 นิ้ว ขอบจอทั้งสี่ด้านบางเพียง 8 มม. ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 83.5% ช่วยให้การรับชมเต็มตา มีมุมมองที่กว้างกว่า มีความละเอียดของจอสูงถึง 2K อีกทั้งรองรับการแสดงผลสีแบบ 10-bit การแสดงผลจึงค่อนข้างคมชัด สีสันสวยงามสมจริง ตอบสนองต่อการทัชได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก TÜV Rheinland ว่าเป็นจอที่ช่วยกรองแสงสีฟ้า ช่วยถนอมสายตาให้กับผู้ใช้งาน มอบความสบายตาเวลารับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้ดี

ลำโพง 4 ตัว กับระบบเสียง Dolby Atmos

จัดเต็มความบันเทิงทั้งการมองและการฟัง กับลำโพงที่จัดเต็มมาให้ถึง 4 ตัว รอบตัวเครื่องของ OPPO Pad Air ที่มาพร้อมกับ sound chamber ขนาดใหญ่ 0.8cc และกำลังไฟ 1W ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเสียงให้ครบทุกมิติมากขึ้น สร้างเสียงสเตอริโอที่สมจริง และยังรองรับเทคโนโลยี Dolby Atmos ที่มอบประสบการณ์เสียงได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อทดสอบพลังเสียงในห้องขนาด 4 x 4 เมตร เพียงเปิดเสียงในระดับกลาง ก็สามารถรับเสียงที่ดังกระหึ่มได้ทั่วห้องแล้ว

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,100 mAh

ถึงแม้ OPPO Pad Air จะมีตัวเครื่องที่บางเพียง 6.94 มม. แต่ก็มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ด้วยความจุ 7,100 mAh สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานต่อเนื่อง เช่น ดูคลิปความละเอียดสูงได้นานถึง 12 ชั่วโมง หรือวิดีโอคอลได้ยาวนาน 15 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเต็ม ไม่เพียงเท่านี้ ยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วผ่านชาร์จไว 18W Fast Charge ผ่านสายชาร์จแบบ USB C ที่เสียบใช้งานสะดวก ใครที่จะใช้ทำงาน หรือเรียนออนไลน์ รับรองว่าการชาร์จเต็มเพียงครั้งเดียว สามารถใช้งานได้ตลอดวันแบบสบายๆ

กล้องถ่ายรูป

OPPO Pad Air มีกล้องถ่ายรูปมาให้ใช้งานแบบพอดีๆ ด้วยกล้องหลัง ความละเอียด 8MP และกล้องหน้า ความละเอียด 5MP ทำงานร่วมกับ Ai ช่วยให้ภาพมีความละเอียดชัดเจน ใช้งานในการประชุมออนไลน์ หรือถ่ายภาพเพื่อส่งรายงานได้ การบันทึกวิดีโอก็ทำได้สูงสุดที่ 1080p ทั้งกล้องหน้าและหลัง

ประสิทธิภาพการใช้งาน

OPPO Pad Air มอบการทำงานที่ทรงประสิทธิภาพ ด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680 Mobile Platform พร้อม 8 CPU Core ขนาด 6nm พร้อมช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่า ทำงานร่วมกับ RAM แบบ LPDDR4x ขนาด 4GB และ RAM แบบ UFS 2.2 ขนาด 128GB เพิ่มหน่วยความจำภายนอก microSD card ได้สูงสุดถึง 512GB ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะการทำงานพื้นฐานใดๆ หรือการเล่นเกมเพื่อผ่อนคลาย

ColorOS สำหรับ OPPO Pad Air

สามารถใช้งานบน OPPO Pad Air ให้ง่าย และลื่นไหลกว่าเดิม เปิดประสบการณ์การทำงานที่สะดวกสบาย บนหน้าจอที่กว้างขึ้น ด้วยระบบ ColorOS สำหรับ OPPO Pad Air ที่ปรับแต่งได้ตามสไตล์ มาพร้อม UI ที่ชาญฉลาด กับฟังก์ชั่นใหม่ที่หลากหลายของ ColorOS 12.1

UI ที่ชาญฉลาด

  • Two-finger split screen

สามารถแบ่งหน้าจอออกเป็น 2 หน้าต่างได้ง่ายๆ เพียงใช้ 2 นิ้วปัดลงที่กึ่งกลางของหน้าจอ ซึ่งจะปรากฏเส้นแบ่ง เพื่อให้เห็นว่าระบบมีการตอบสนองต่อการสัมผัสสั่งการแล้ว เรียกว่าใช้งานง่ายมากๆ แต่จะรองรับในขณะที่เราวางตัวเครื่องในแนวนอนเท่านั้น

  • หน้าต่างคู่

ฟังก์ชั่นนี้จะทำการแบ่งหน้าจอเป็น 2 หน้าต่าง เพื่อให้คุณสามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นที่แตกต่างกัน 2 แอปฯ พร้อมกันได้ในหน้าจอเดียว เพื่อความสะดวกสบายและการทำงานแบบ Multitasking ที่มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

  • หน้าต่างลอย

เพียงแค่ใช้สี่นิ้วลากหน้าจอในขณะเปิดแอปพลเคชั่นที่ใช้งานอยู่ ก็จะปรับให้เป็น "หน้าต่างลอย" เพื่อลดขนาดของหน้าต่าง ช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้น

การเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์

เมื่อสมาร์ทโฟนของคุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายแล้ว สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดบนสมาร์ตโฟนเพื่อเชื่อมต่อกับ OPPO Pad Air เพื่อจับคู่กับเครือข่ายโทรศัพท์ ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ใช้เชื่อมต่อการใช้งาน OPPO Pad Air กับสมาร์ทโฟนของ OPPO นั่นเอง

  • Multi-Screen Connect

การเชื่อมต่อหลายหน้าจอ จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมและป้อนข้อความบนอุปกรณ์ทั้งสองเครื่องได้ เพื่อการทำงานแบบ Multitasking ในระดับสูง เช่น ในขณะที่เราเรียนออนไลน์บนแท็บเล็ต ก็พิมพ์ข้อความตอบแชทในสมาร์ทโฟนได้เลย

  • Clipboard sharing

สามารถคัดลอกข้อความไปวางยังอีกอุปกรณ์หนึ่งได้ โดยเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสองอุปกรณ์ หลังจากเชื่อมต่อหน้าจอของสมาร์ทโฟนขึ้นไปบน OPPO Pad Air แล้ว

  • ลากและวางไฟล์

สามารถลากและวางไฟล์จากเครื่องหนึ่งสู่อีกเครื่อง ด้วยการแตะค้างไฟล์ที่ต้องการจนมันลอยขึ้น จากนั้นลากไปสู่แอปพลิเคชันอื่น หรืออุปกรณ์อื่น

OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Cancelling Earbuds

ไม่เพียงแค่แท็บเล็ต OPPO Pad Air แล้ว OPPO ยังได้ส่งหูฟังรุ่นใหม่ OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Cancelling Earbuds หูฟังไร้สายดีไซน์โดดเด่น ดึงดูดทุกสายตา
ที่มาพร้อม Titanized Diaphragm Drivers ขนาด 12.4 มม. ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ที่ให้คุณภาพเสียงระดับแฟล็กชิพ ระบบตัดเสียงรบกวน Active noise cancellation (ANC) กับไมโครโฟนคู่ AI อัจฉริยะ ตัดเสียงรบกวนขณะโทร ให้ทุกเสียงมีความชัดเจน คมกริบทุกเสียง แบตเตอรี่สุดอึดให้ใช้งานได้ยาวนานตลอด 28 ชั่วโมง

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ดีไซน์โดดเด่น ดึงดูดทุกสายตา

ตัวเคสและหูฟังของ OPPO Enco Air2 Pro มีดีไซน์ออกไปทางมินินอล ดูเรียบหรู แต่สวยงามโดดเด่น พร้อมกับสีสันที่แตกตต่างจากหูฟังทั่วไป

เคสชาร์จทรง Refractive Bubble Case มีความโค้งมนเพรียวบาง เป็นที่นิยมของผู้ใช้งาน ด้วยความโดดเด่นของดีไซน์ และขนาด 66.84 x 51.45 x 25.04 มม. น้ำหนัก 50.4 กรัม (รวมหูฟัง) ซึ่งกะทัดรัด พกพาง่าย ใส่ในกระเป๋ากางเกงไม่ตุงออกมา ตัวเคสมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่อยู่ที่ด้านหน้า ด้านหลังเป็นโลโก้ OPPO ส่วนพอร์ตการชาร์จเป็น USB Type-C อยู่ที่ด้านล่าง

เปิดเคสชาร์จออกมา ทาง OPPO บอกว่าเคสจะมี Smiling Curve Design ลักษณะโค้งมนเหมือนรอยยิ้ม ซึ่งทำให้เห็นหูฟังที่เสียบไว้ถึง 77% แทนแบบเดิมที่มองเห็นที่ 50% และหูฟังมีสีเดียวกันกับตัวเคสด้วย

ตัวหูฟังเป็นแบบไร้สาย True Wireless มีก้าน โดยมีน้ำหนัก 4.3 กรัมต่อข้าง สวมใส่ได้สบาย แต่ไม่หลวมจนลื่นหลุดง่าย หรือหากใครรู้สึกว่ายังไม่พอดี เขาก็มีจุกซิลิโคนอีก 3 ขนาด มาให้เปลี่ยน เพื่อความเหมาะสมของแต่ละคน

เชื่อมต่อลื่นไหลผ่าน Bluetooth 5.2

การเริ่มต้นใช้งาน OPPO Enco Air2 Pro กับสมาร์ทโฟน สามารถเชื่อมต่อได้อย่างลื่นไหลผ่าน Bluetooth 5.2 โดยทำการดาวน์โหลดแอปฯ HeyMelody ลงบนสมาร์ทโฟน ทั้งในระบบ Android และ iOS และหากเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของ OPPO ยิ่งง่ายขึ้น เพียงแค่เปิดฝาเคส OPPO Enco Air2 Pro ขึ้น จะมี Pop-Up เด้งขึ้นมาเพื่อให้เชื่อมต่อ หลังจากนั้นทำการเชื่อมต่อ ก็สามารถใช้งานได้แล้ว เรียกได้ว่าสะดวกสบายยิ่งขึ้น

สำหรับการทดลองใช้งานหูฟัง OPPO Enco Air2 Pro เมื่อเดินออกห่างจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อไว้ในระยะประมาณ 10 เมตร ยังคงรับส่งสัญญานได้ดี ไม่ขาดการเชื่อมต่อ ส่วนการเล่นเกมพบว่ามีภาพกับเสียงมีความตรงกันมากขึ้น ด้วยค่าความหน่วงต่ำ Latency เพียง 94 ms ช่วยให้เล่นได้เพลินขึ้น

ไดรเวอร์ Titanized Diaphragm Driver ขนาด 12.4 มม.

OPPO Enco Air2 Pro มาพร้อมกับไดรเวอร์ Titanized Diaphragm Driver ขนาด 12.4 มม. ที่ให้พลังเสียงคุณภาพ คมชัดทุกมิติเสียง ขับเสียงเบสออกมาได้ทุ้มนุ่มแน่นได้ตามต้องการ จากเอฟเฟกต์เสียง Enco Live ที่ได้รับการปรับแต่งโดย OPPO ยังมาพร้อมไดนามิกสูงและเสียงกลางที่สมดุล เสียงแหลมที่ละเอียดอ่อน รองรับระบบเสียงระดับสูงอย่าง AAC (Advance Audio Coding) ทำให้ใช้ฟังเพลงบนแพลตฟอร์มหรือสตรีมมิ่งต่างๆ ได้เพลินขึ้น

จากการทดสอบ เมื่อปรับระดับเสียงเป็น 50% - 60% ก็พบว่าดังแล้ว สามารถฟังได้อย่างชัดเจนเมื่อนั่งอยู่ในห้องทำงาน การฟังคลิปหนังที่มีทั้งเสียงพูดและดนตรีประกอบ รับเสียงต่างๆ ได้ดีขึ้น แม้จะแยกไม่ชัดมาก ส่วนการฟังเพลงถือว่าทำได้ดี เบสมีความแน่นหนักขึ้น โดยรวมคือดีมาก

ระบบตัดเสียงรบกวน Active noise cancellation (ANC)

เมื่อเปิดระบบตัดเสียงรบกวน Active noise cancellation (ANC) ของ OPPO Enco Air2 Pro จะพบว่าเสียงรอบข้างถูกตัดออกไปเกือบสมบูรณ์ ช่วยให้เสียงที่เราได้รับฟังมีความดังและชัดเจนขึ้น ในเวลาที่เราต้องการดื่มด่ำกับเสียงเพลง หรือคลิปโปรด แต่ไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่เงียบสงบพอ ก็เปิดระบบตัดเสียงรบกวน ANC เพียงแตะข้างที่หูฟัง OPPO Enco Air2 Pro ตามที่ได้ตั้งค่าไว้เท่านั้น และในเวลาที่ต้องการฟังเสียงภายนอกบ้าง เพื่อไม่ให้พลาดบางอย่างที่สำคัญ เช่น เสียงเรียกขึ้นเครื่อง หรือเสียงบอกสถานีที่ BTS จะลงจอด ก็เปิดเป็นโหมด Transparency ได้ โดยไม่ต้องถอดหูฟัง

นอกจากนี้ OPPO Enco Air2 Pro ก็มีไมโครโฟนคู่ AI อัจฉริยะที่ตัดเสียงรบกวนขณะโทรได้ ช่วยปรับปรุงให้เสียงพูดระหว่างการโทรหรือการประชุมมีความชัดเจนขึ้น และยังได้ยินเสียงคู่สนทนาอย่างชัดเจนตลอดเวลาด้วย

ใช้งานต่อเนื่องยาวนาน

สามารถฟังเพลงผ่าน OPPO Enco Air2 Pro ได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม และเมื่อชาร์จพร้อมเคส จะสามารถฟังเพลงได้ยาวนานสูงสุดถึง 28 ชั่วโมงกันเลย อีกทั้งใช้เวลาน้อยลงในการชาร์จ ใช้เวลา 90 นาที (เอียร์บัด) หรือ 120 นาที (เอียร์บัด + เคสชาร์จ) ซึ่งเมื่อชาร์จ OPPO Enco Air2 Pro เต็ม และนำออกไปข้างนอก รับรองว่ามีพลังงานพอเพียงต่อการใช้งานทั้งวันอย่างแน่นนอน

ราคาวางจำหน่าย

OPPO Pad Air จะมาในสีเทา ราคาวางจำหน่าย 9,999 บาท และหูฟังไร้สาย OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Cancelling Earbuds มาพร้อมกัน 2 สี คือ สีเทาและสีขาว ราคา 2,499 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม เป็นต้นไปที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3z5FlB9 

ขอขอบคุณ : OPPO

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : OPPO Pad Air

https://www.siamphone.com/spec/oppo/pad_air.htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน