รีวิว Samsung Galaxy Z Flip 4

Samsung Galaxy Z Flip 4 สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นใหม่ล่สุด ที่ผสานนวัตกรรมสุดล้ำ ให้เข้ากับแฟชั่นได้อย่างมีสไตล์ ลงตัวทุกการใช้งาน เริ่มตั้งแต่หน้าจอ คมชัดแบบฉบับ Dynamic AMOLED 2X พร้อมฟังก์ชั่นที่เหนือระดับกว่าเดิม ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 รองรับสัญญาณ 5G เชื่อมต่อรวดเร็ว กล้องหลังคู่ 12MP ที่มากับโหมด FLEX มอบประสบการณ์ใช้กล้องแบบใหม่ แบตอึด ชาร์จไว ดีไซน์บางลง

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ในตอนที่ Samsung Galaxy Z Flip 4 เมื่อกางหน้าจออยู่ จะมีขนาด 165.2 x 71.9 x 6.9 มิลลิเมตร และเมื่อพับปิดลงจะมีขนาด 84.9 x 71.9 x 15.9-17.1 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 187 กรัม

ตรงแกนพับทำจากวัสดุอะลูมิเนียม มีความเงาแวววาวต่างจากรุ่นก่อน และสลักคำว่า Samsung เอาไว้เช่นเคย

จอแสดงผลด้านในเป็นส่วนของหน้าจอพับ ใช้พาแนล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2640x1080 พิกเซล อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz เคลือบด้วยกระจก Gorilla Glass Victus และใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู หรือ Infinity-O

ส่วนบนหน้าจอ ในรอยแหว่งมีกล้องหน้า ความละเอียด 10MP และในขอบหน้าจอด้านบนจะมีลำโพงเสียง

ส่วนของหน้าจอด้านล่างเป็นการนำทางระบบแบบซอร์ฟแวร์

ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดรองรับ Nano SIM 1 ช่อง

ข้างขวาตัวเครื่อง มีปุ่มใช้งานมาตรฐาน ปุ่มยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง ส่วนปุ่มเล็กเป็นปุ่ม Power ซึ่งมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้วย

ด้านบนตัวเครื่อง มีเพียงรูไมโครโฟน

ด้านใต้ทางซ้ายเป็นรูไมโครโฟน 2 ช่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และทางขวาเป็นลำโพงเสียง

พลิกมาที่ด้านหลังตัวเครื่อง หรือจะเรียกว่าฝาหน้าก็ได้ สำหรับกล้องหลังมีการจัดเรียงเป็นแนวตั้ง ติดตั้งมาด้วยกัน 2 เลนส์คือ เลนส์ Wide ความละเอียด 12MP และเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP มีไฟแฟลชอยู่ใต้กล้อง

ถัดมาข้างขวาของกล้อง จะมีอีกหน้าจอนั้นคือหน้าจอด้านนอก ซึ่งมีไว้ใช้งาน Widget และดูการแจ้งเตือน เครื่องมือการใช้งานแบบด่วน  และยังใช้เป็นหน้าจอเพื่อใช้ถ่ายเซลฟี่ด้วยการใช้กล้องหลังได้อีกด้วย โดยหน้าจอนี้เป็นพาแนล Super AMOLED กว้าง 1.9 นิ้ว ความละเอียด 512x260 พิกเซล

สเปคพื้นฐานของ Samsung Galaxy Z Flip 4

  • ขนาดตัวเครื่อง :
    - (เมื่อปิด) 84.9 x 71.9 x 15.9-17.1 มิลลิเมตร
    - (เมื่อเปิด) 165.2 x 71.9 x 6.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 187 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล :
    - ด้านนอก Super AMOLED กว้าง 1.9 นิ้ว ความละเอียด 512x260 พิกเซล
    - ด้านใน Dynamic AMOLED 2X กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2640x1080 พิกเซล
  • ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 ขนาด 4 นาโนเมตร
  • RAM : 8GB
  • ROM : 128GB
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 3.1 บนพื้นฐาน Android 12
  • กล้องหลัง 2 เลนส์
    - เลนส์ Wide ความละเอียด 12MP
    - เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 10MP
  • เครือข่าย : 5G รองรับ Nano SIM 1 ช่อง และ eSIM
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4/5GHz, Bluetooth 5.1, GPS, NFC, พอร์ต USB Type-C
  • มาตรฐานกันน้ำ : IPX8
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo รองรับระบบ Dolby Atmos
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง, สแกนใบหน้า
  • แบตเตอรี่ : 3,700mAh รองรับชาร์จเร็วผ่านสาย 25W, และไร้สาย 15W

 

 

 

 

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ชิปเซ็ต และหน่วยความจำ

Samsung Galaxy Z Flip 4 ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 กระบวนการผลิตระดับ 4 นาโนเมตร ประสิทธิภาพสูง รองรับการเชื่อมต่อแบบ 5G ซึ่งในรุ่นนี้มาพร้อม RAM และ ROM เพียงหนึ่งตัวเลือก คือ RAM 8GB กับ ROM 512GB ไม่สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้ เมื่อเปิดการใช้งานเครื่องมาครั้งแรก ระบบจะมีการกินพื้นที่ไปประมาณ 24GB โดยที่ไม่ได้ติดตั้งแอพฯ ที่แนะนำ

 

ระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการจะรันบน One UI 4.1.1 บนพื้นฐาน Android 12 ซึ่งมีการอัปเดทให้สามารถปรับแต่งเพื่อตอบสนองการใช้งานได้ดีขึ้น หน้าจอด้านนอกมีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย และการใช้งานโดยรวมลื่นไหลดี

หน้าจอหลัก

สำหรับหน้าจอหลักมีความสวยงาม Luxury ตามแบบฉบับของ Samsung Galaxy มีความสวยงามและดูคลาสสิค เน้นการใช้งานง่าย สามารถปรับแต่ง Widget และเปลี่ยน Wallpaper ได้ตามความต้องการอย่างหลากหลาย

 

 

โหมดหน้าจอ

สำหรับโหมดหน้าจอของ Samsung Galaxy Z Flip 4 สามารถเลือกได้ 2 โหมด คือ "สดใส" ซึ่งจะทำให้สีสันสดขึ้น และ "ธรรมชาติ" ซึ่งจะลดแสงของหน้าจอให้เป็นโทนอุ่น รวมถึงเฟดสีลง แต่หากใครต้องการปรับมากกว่านี้ ก็มีแบบ Manual ให้ปรับได้เอง

 

โหมดมืด

โหมดมืดจะเป็นการเปลี่ยนธีมให้เป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือเป็นสีขาว ช่วยให้ใช้งานผ่านหน้าจอในที่แสงน้อยได้สบายตา และยังเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ไปในตัวอีกด้วย สามารถเข้าใช้งานโหมดมืดได้ที่ การตั้งค่า > จอภาพ > โหมดมืด นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าเวลาที่เปิดใช้งานได้ตามความต้องการได้ด้วย

 

หน้าจอด้านนอก

หน้าจอฝาเครื่องของ Samsung Galaxy Z Flip 4 ขนาด 1.9 นิ้ว สามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งดีไซน์ของนาฬิกา และมีพื้นหลังให้เลือกเยอะขึ้นด้วยวิดีโอ, ภาพถ่าย หรืออีโมจิ AR ของคุณ เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ตอนนั้น, สภาพอากาศ หรือชุดของคุณในวันนั้น โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอด้านนอก > รูปแบบนาฬิกา หรือ วิดเจ็ด

 

 

 

ในส่วนของวิดเจ็ด เพิ่มฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งสายโทรเข้า, การแจ้งเตือน, เพลง, ปฏิทิน หรือตัวตั้งเวลา เพื่อให้เข้าใช้แอปฯ หรือเครื่องมือได้ง่ายขึ้น ผ่านหน้าจอด้านนอกโดยไม่ต้องกางหน้าจอออก

 

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v9.4.4 ได้  657,164 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 1276 และคะแนน Multi-Core ที่ 3653 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Wild Life ได้คะแนน 1 823 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

 

 

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก
  • Pressure Sensor เซ็นเซอร์ความดัน

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

บางเบา สวยสะกดทุกสายตา

Samsung Galaxy Z Flip 4 มีสัมผัสที่รู้สึกได้ถึงความบางเบา ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด และมีขนาดพอดีเมื่อใส่กระเป๋ากางเกง มีน้ำหนัก 187 กรัม พื้นผิวมี 2 แบบ คือผิวกระจกสีดำที่ตัดกับฝาหลังเฟรมโลหะมันวาว ซึ่งมีให้เลือก 4 เฉดสีหลักๆ ได้แก่ Bora Purple, Graphite, Pink Gold และ Blue

นอกจากนี้ Samsung Galaxy Z Flip 4 ยังออกรุ่นพิเศษ คือ Galaxy Z Flip4 Bespoke Edition สามารถดีไซน์และใส่ความ้ป็นตัวคุณได้อย่างเต็มที่ ด้วยชุดคอมโบสีแบบกำหนดเองได้ ทั้งกระจกและกรอบ ให้มา Mix&Match กันได้สูงถึง 75 แบบเลยทีเดียว

ทนต่อน้ำและการตกหล่น

วัสดุที่นำมาใช้ใน Samsung Galaxy Z Flip 4 นับเป็นเกรดระดับพรีเมียม จอด้านในสามารถกางออกและแสดงผลอย่างสวยงามด้วย Ultra Thin Glass และสามารถทนทานต่อการพับได้ถึง 200,000 ครั้ง ส่วนบานพับเป็น Armor Aluminum ซึ่งเป็นเฟรมอะลูมิเนียมที่แข็งแกร่งทนทาน และยังมีมาตรฐานกันน้ำ IPX8 สามารถแช่อยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตรได้นานถึง 30 นาทีโดยไม่มีปัญหา

หน้าจอพับ Dynamic AMOLED 2X

สำหรับหน้าจอด้านในเป็น Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ที่สามารถพับได้ เมื่อกางออกให้การแสดงผลที่สวยงาม สีสันสวยสดและคมชัดมาก ส่วนตรงรอยพับเมื่อจับดูรู้สึกได้ถึงคลื่น แต่หากไม่สังเกตก็จะดูกลืนและเรียบไปเป็นแนวเดียวกัน มีอัตราส่วนภาพ 22:9 ที่ชินสายตามากขึ้น รองรับอัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz ที่ปรับได้อัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน ทำให้การแสดงผลมีความสมูทไม่สะดุด ทั้งยังประหยัดพลังงานไปในตัวด้วย การรับชมคอนเทนต์ต่างๆ เต็มสายตา สว่างชัดเจนดี ตรงรอยพับไม่รบกวนสายตา

 

จอด้านนอกปรับแต่งได้

หน้าจอด้านนอกบนฝาเครื่อง Samsung Galaxy Z Flip 4 พาแนล Super AMOLED ความกว้าง 1.9 นิ้ว ความละเอียด 512x260 พิกเซล สามารถแสดงผลการแจ้งเตือนต่างๆ รวมถึงปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งในส่วนของนาฬิกา และปัดซ้ายขวาเพื่อใช้งาน Widget หรือเครื่องมือแบบด่วน โดยไม่ต้องกางหน้าจอออก นอกจากนี้ยังใช้เป็นหน้าจอ เพื่อใช้ดูเฟรมภาพในการถ่ายภาพจากกล้องได้อีกด้วย

 

แบตเตอรี่

Samsung Galaxy Z Flip 4 มาพร้อมแบตเตอรี่ ความจุ 3,700mAh ด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 บนกระบวนการผลิตระดับ 4 นาโนเมตร และ AI อัจฉริยะ จึงช่วยให้การจัดการพลังงานดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพให้ใช้งานได้ยาวนาน รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Super Fast Charging 25W ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

กล้องถ่ายรูป

สำหรับกล้องถ่ายภาพ Samsung Galaxy Z Flip 4 ยังคงเป็นกล้องหลังคู่ โดยเป็นกล้องหลัก ความละเอียด 12 MP มีระบบกันสั่น OIS และกล้องอัลตราไวด์ ความละเอียด 12MP อยู่ข้างกับหน้าจอด้านนอกที่สามารถดูพรีวิวรูปภาพเพื่อใช้เซลฟี่จากกล้องหลังได้เลย

กล้องยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Flex Camera ให้การถ่ายภาพแบบแฮนด์ฟรีสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยการพับจอให้เครื่องวางตั้งได้ ใช้ในการถ่ายภาพหมู่, เซลฟี และวิดีโอ ซึ่งในโหมด Flex Camera ดูจะตอบโจทย์สำหรับการทำคอนเทนต์ของเหล่าบรรดา Vlogger และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่บางครั้งเราไม่สามารถแบกขาตั้งกล้องไป หรือไม่มีคนช่วยถือ เพียงแค่ตั้งกล้อง ก็สามารถเห็นมุมมองของตัวเองได้จากจอด้านนอกนั่นเอง

กล้องถ่ายรูป

สำหรับกล้องถ่ายภาพ Samsung Galaxy Z Flip 4 ยังคงเป็นกล้องหลังคู่ โดยเป็นกล้องหลัก ความละเอียด 12 MP มีระบบกันสั่น OIS และกล้องอัลตราไวด์ ความละเอียด 12MP อยู่ข้างกับหน้าจอด้านนอกที่สามารถดูพรีวิวรูปภาพเพื่อใช้เซลฟี่จากกล้องหลังได้เลย และนอกจากนี้ ยังมีกล้องหน้า ความละเอียด 10MP ให้ถ่ายภาพเซลฟี่แบบสวยๆ มาให้ด้วย

  • Flex Camera

กล้องยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Flex Camera ให้การถ่ายภาพแบบแฮนด์ฟรีสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยการพับจอให้เครื่องวางตั้งได้ ใช้ในการถ่ายภาพหมู่, เซลฟี และวิดีโอ ซึ่งในโหมด Flex Camera ดูจะตอบโจทย์สำหรับการทำคอนเทนต์ของเหล่าบรรดา Vlogger และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่บางครั้งเราไม่สามารถแบกขาตั้งกล้องไป หรือไม่มีคนช่วยถือ เพียงแค่ตั้งกล้อง ก็สามารถถ่ายตัวเองได้โดยไม่ต้องจับเครื่อง

  • QUICK SHOT

บางครั้งความละเอียดของกล้องหน้า อาจไม่ตอบโจทย์ความชัดของรูปที่เราต้องการ แต่ QUICK SHOT ที่มีอยู่ใน Samsung Galaxy Z Flip 4 จะช่วยให้เราสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหลังได้ และสามารถดูความพอดีของเฟรมผ่านหน้าจอด้านนอก ตรวจดูตัวคุณเองได้จากระยะไกล แบบเต็มจอหรือแบบเต็มตัวด้วยการแตะหน้าจอเพื่อรับชมในอัตราส่วนที่ต่างกัน โดย QUICK SHOT จะช่วยให้คุณเห็นเฟรมภาพได้ทั้งตอนที่กางเครื่องออกหรือพับลงได้

หูฟัง Samsung Galaxy Buds2 Pro

และนอกจากสมาร์ทโฟนจอพับแล้ว Samsung ยังเสริมทัพด้วย หูฟัง Samsung Galaxy Buds2 Pro หูฟังรุ่นใหม่ที่มีดีไซน์เข้ากับสรีระได้อย่างดี พร้อมมอบประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม

โดยหูฟัง Samsung Galaxy Buds2 Pro เป็นหูฟังไร้สาย TWS มีขนาดเล็กกระทัดรัด น้ำหนักข้างละ 5.5 กรัม มีขนาดเล็กลงถึง 15% สามารถสวมใส่ได้อย่างพอดีตามหลักสรีระศาสตร์ เพื่อให้เข้ากับสรีระได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สวมได้อย่างกระชับ ไม่ลื่นหลุดง่าย ด้วยการออกแบบเชิงวิศวกรรมให้ป้องกันการหมุนขยับตัว

ทั้งหูฟังและเคสมีโทนสีเดียวกัน มาพร้อมผิวสัมผัสแบบแมทที่ดูพรีเมี่ยม มีมาให้เลือกด้วยกัน 3 สี คือ Bora Purple, Graphite และ White

 

การเชื่อมต่อ

สามารถเชื่อมต่อ Samsung Galaxy Buds2 Pro กับสมาร์ทดีไวซ์ผ่านทาง Bluetooth 5.3 และยิ่งเป็นสมาร์ทโฟนของ Samsung ยิ่งจับคู่อุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เปิดเคสแล้วแตะหูฟัง จะมี Pop Up ขึ้นมาให้ทางหน้าจอเพื่อเริ่มการเชื่อมต่อทันที เรียกว่าสะดวกมากจริงๆ

อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Auto Switch เพื่อให้สลับอุปกรณ์ที่จับคู่อย่างอัตโนมัติ เช่น เมื่อคุณกำลังเชื่อมต่อกับทีวี Samsung อยู่ และมีสายเรียกเข้า Galaxy Buds2 Pro จะช่วยเปลี่ยนการเชื่อมต่อไปยังสมาร์ทโฟนทันที เพื่อให้คุณรับสายแล้วสนทนาได้เลย โดยไม่ต้องถอดหูฟังหรือเชื่อมต่อใหม่

 

ระบบเสียง Hi-Fi 24bit Audio อันทรงพลัง

Samsung Galaxy Buds2 Pro มาพร้อมเทคโนโลยี 24-bit Hi-Fi กับไดร์เวอร์คู่ Coaxial 2-way (Tweeter + Woofer) ลำโพง 2 ทิศทาง ช่วยให้เสียงมีทั้งเบสที่นุ่มลึกจาก Woofer และเสียงแหลมชัดเจนจาก Tweeter ทำให้เสียงที่ขับออกมาชัดเจนทุกมิติ บวกกับระบบเสียง Hi-Fi 24bit Audio มอบเสียงที่แม่นยำทุกเมโลกี้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเบา หรือการประสานเสียงอันไพเราะ

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ 360 Audio ด้วย Dolby Atmos ที่ให้เสียงลึกนุ่มคมชัดกระหึ่มรอบทิศทาง ช่วยให้ผู้ได้สัมผัสกับเสียงที่เสมือนจริงมากขึ้น เช่น การคอนเสิร์ตบน YouTube ก็เหมือนได้ไปชมไลฟ์คอนเสิร์ตท่ามกลางฝูงชนด้วยตัวเองจริงๆ ด้วยเทคโนโลยี Dolby Head Tracking อันชาญฉลาดซึ่งทำการตรวจจับการขยับศรีษะของเรา และทำการปล่อยเสียงมาอย่างสมจริง

ระบบตัดเสียง ANC (ACTIVE NOISE CANCELLING)

สำหรับระบบตัดเสียง ANC (ACTIVE NOISE CANCELLING) บน Samsung Galaxy Buds2 Pro ทำมาได้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพดีกว่าระบบเดียวกันในหูฟังรุ่นก่อนหน้าถึง 40% ไม่ใช่เพียงแค่การตัดเสียงที่เงียบขึ้น แต่ยังมีโหมดการทำงานให้เลือกหลายลักษณะ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม มีฟีเจอร์ Voice Detect ที่จะปิด ANC และเปิดรัะบเสียงรอบข้าง เพื่อช่วยให้คุณรับฟังบทสนทนาได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องถอด Galaxy Buds2 Pro ออก และกลับเข้าสู่โหมด ANC ได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งจะต้องตั้งค่าการทำงานไว้ก่อนนั่นเอง

แบตเตอรี่

Samsung Galaxy Buds2 Pro สามารถเล่นเพลงได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมง และใช้งานได้สูงสุดถึง 18 ชั่วโมง เมื่อรวมกับการชาร์จด้วยเคส รองรับชาร์จไว ที่ชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถฟังได้ถึง 1 ชั่วโมง จากการทดสอบการใช้งาน เปิดฟังเพลง ดูคลิป เป็นเวลาต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง แบตเตอรี่ลดลงไปประมาณเกือบ 10% จากการชาร์จเต็ม และใช้งานได้แบบตลอดทั้งวัน เมื่อรวมการชาร์จจากเคสด้วย

ราคาวางจำหน่าย 

Samsung Galaxy Z Flip 4 มีให้เลือก 4 สีหลักๆ ได้แก่ Bora Purple, Graphite, Pink Gold และ Blue โดยมีราคาต่างกันตามรุ่นความจุ ดังนี้

ส่วนหูฟัง Samsung Galaxy Buds2 Pro มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ Bora Purple, Graphite และสีขาว โดยสามารถเป็นจับจองเจ้าของนี้ได้แล้ววันนี้ ทางเว็บไซต์ Samsung, ผู้ให้บริการเครือข่าย รวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

Samsung

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy Z Flip 4 - ซัมซุง

ขอขอบคุณ : บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด โทร. 0 2689 3232

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : 

https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=467637

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : Samsung Galaxy Z Flip 4

https://www.siamphone.com/spec/samsung/galaxy_z_flip_4.htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปภัสสร อมรประสิทธิ์ ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 20 กันยายน 2565

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน