ต้องบอกว่าเป็นหูฟังไร้สายที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและหลายๆ คนให้การยอมรับ หลังจากรุ่นก่อนแม้ฟีเจอร์จะน้อยหน้าคู่แข่งอื่นๆ อยู่มาก แต่ในประสบการณ์การใช้งานถือว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน กลับมารุ่นใหม่ครั้งนี้ มีอัพเกรดหลายฟีเจอร์ สำหรับหูฟังไร้สายรุ่นสานต่อความสำเร็จของ Apple อย่าง AirPods Pro (รุ่นที่ 2) อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสิ้นปีแบบนี้ใครหลายคนกำลังเล็งหาของขวัญให้กับตนเองและคนใกล้ตัว โดยหูฟังไร้สายรุ่นดังกล่าวถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ดังนั้นการรีวิวจะเปรียบเทียบข้อแตกต่างว่าคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนไหม ใช้รุ่นแรกไปก่อน หรือถ้าจะซื้อควรซื้อรุ่นไหนดี ระหว่าง Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) แตกต่างจาก Airpods Pro (รุ่นที่ 1) อย่างไร มีคำตอบให้
หลังจากทราบถึงข้อแตกต่างแล้ว อย่างที่เกริ่นข้างต้น Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) มีดีไซน์และขนาดไม่แตกต่างมากเท่าไหร่นัก เหมือนเดิมเลย น่าเสียดายที่ไม่มีสีอื่นๆ ให้เลือกเช่นกัน ดีไซน์ยังคงเป็นโค้งมน มีสีขาว พร้อมคุณสมบัติทนต่อละอองน้ำกับเหงื่อ IPX4 ทำให้มั่นใจในทุกสถานการณ์ขณะใช้งาน
ด้านเคสประกอบไปด้วยช่องลำโพง สำหรับใช้เป็นสถานะการแจ้งเตือนแบบเสียง อาทิ สถานะการชาร์จแบตเตอรี่, ฟีเจอร์ค้นหา Find My เป็นต้น ส่วนด้านล่างเคสเป็นพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
ก้านหูฟังอย่างที่เกริ่นข้างต้นมีน้ำหนักเบากว่า โดยมีการปรับแต่งออกแบบใหม่ทั้งช่องลำโพงและรูไมโครโฟน การใช้งานต่างๆ ยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมเข้ามาคือ การใช้นิ้วเลื่อนไปมาที่ก้านหูฟัง เพื่อเพิ่มเสียงและลดเสียง
สำหรับการควบคุมก้านหูฟังมีรายละเอียดดังนี้...
Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) ยกระดับประสบการณ์การฟังแบบเฉพาะบุคคลขึ้นไปอีกขั้น เป็นระบบเสียงตามตำแหน่งของศีรษะแบบไดนามิก เพื่อให้คุณดื่มด่ำอยู่ในภวังค์เสียงที่โอบล้อมรอบตัวคุณได้มากยิ่งขึ้น เช่น ขณะเอียงคอ, พับคอ, ก้มศรีษะ ในแต่ละกิจกรรม เป็นต้น
อุปกรณ์ภายในกล่องมีอะไรบ้าง
ความบันเทิงเสียงที่ดียิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อน
ด้วยชิปเซ็ต H2 พัฒนาใหม่ เสียงคมชัด เสียงเบสก็ดีระดับหนึ่ง ให้เสียงสมจริง แต่ไปในโทนใสและกว้าง พร้อมระบบเสียงถ่ายทอดตามตำแหน่งของศีรษะ เหมาะใช้ดูซีรีย์, เล่นเกม หรือประชุมก็คมชัด
เสียงก็ดี แต่ตัดเสียงรบกวนได้ดีกว่าเยอะ
บางท่านอาจรู้สึกชอบ หรือบางท่านรู้สึกไม่ชอบ แต่ขณะเดียวกันในช่วงราคาเดียวกัน ตัวเลือกที่โดดเด่นก็ยังมีคู่แข่งเยอะ และเสียงทำได้ดีกว่า ทว่าระบบตัดเสียงรบกวนต้องยอมให้เขาเลย Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) มันช่างเงียบจริง หรือถ้าเป็นโหมดรับเสียงภายนอกก็ปรับระดับการได้ยิน พร้อมให้คุณแยกแยะเสียงดียิ่งขึ้น
เน้นแฟชั่นยิ่งขึ้น พกพาไปกับคุณ
ครั้งนี้คุณสามารถห้อย ไปที่ไหนก็ได้ Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) เพราะมีช่องสำหรับเกี่ยวสายคล้อง เรียกได้ว่าคุณต้องมีหลายๆ สาย หลายๆ แบบ เพื่อความน่ารักและโดดเด่นในแต่ละวัน
สำหรับข้อแตกต่าง Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) แตกต่างจาก Airpods Pro (รุ่นที่ 1) มีอะไรบ้าง
1. ดีไซน์ไม่แตกต่าง แต่พัฒนาขึ้น : สำหรับ Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) มีดีไซน์ที่เหมือนกับรุ่นแรกทุกประการ เพียงแต่น้ำหนักของตัวเคสจะมีมากกว่าเล็กน้อย คือ 50.8 กรัม ขณะที่รุ่นแรกหนักเพียง 45.6 กรัม นั่นก็เพราะมีชิปเซ็ตใหม่เพิ่มเข้ามา ทว่าหูฟังกลับมีน้ำหนักที่เบากว่าเล็กน้อยแค่ 5.3 กรัมเท่านั้น
2. ระบบเซนเซอร์ตรวจจับลักษณะช่องหูกับจุกหูฟังที่มีมาให้ : สำหรับ Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) มีเซนเซอร์ตรวจจับผิวหนังโดยรอบ ทำหน้าที่ตรวจจับลักษณะช่องหูของแต่ละบุคคล ที่สำคัญคือ อัจฉริยะถึงขั้นที่ว่า ผู้ใช้งานควรเลือกใช้จุกหูฟังไซซ์ใดจึงเหมาะกับหูของเรา ด้วยฟีเจอร์ที่เรียกว่า Ear Tip Fit Test ในชุดประกอบด้วยจุกหูฟัง 4 ไซซ์ ได้แก่ XS, S, M และ L
3. ใช้งานได้มั่นใจในทุกสถานการณ์มากขึ้นด้วยคุณสมบัติป้องกันละอองน้ำและเหงื่อ : สำหรับ Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น ความบันเทิง, การออกกำลังกาย หรือพื้นที่ความเงียบสงบส่วนตัว ด้วยคุณสมบัติป้องกันละอองน้ำ IPX4 ทั้งหูฟังและเคส
4. เสียงไม่สุด แต่การตัดเสียงรบกวนสุดกว่า : ต้องบอกว่าหูฟังไร้สาย Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) เสียงจะออกแนวใส ไม่มีมิติเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในช่วงราคาเดียวกัน แต่การตัดเสียงรบกวนกลายเป็นสุดกว่า เงียบจริง เงียบมาก ส่วนโหมดรับเสียงภายนอกก็ปรับระดับความดังเสียงได้ และแยกแยะดีกว่าเดิม
5. ขี้หลงขี้ลืม หาเคสหรือหูฟังไม่เจอ แต่ครั้งนี้หาฉันเจอได้ง่ายๆ แล้วนะ : โดย Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) จะมีช่องลำโพงทั้งเคสและก้านหูฟัง ทำให้สามารถใช้ฟีเจอร์ค้นหา Find my เพื่อส่งสัญญานให้เสียงแจ้งเตือนขึ้น
6. แบตเตอรี่มากขึ้นเล็กน้อย ความบันเทิงก็นานกว่าเดิม : Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) อัพเกรดแบตเตอรี่ เดิมใช้งานได้ 4.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เมื่อรวมชาร์จจากเคสเพิ่มขึ้นอีก 24 ชั่วโมง ในหูฟังรุ่นที่ 2 ใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง เมื่อรวมชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีกเป็น 30 ชั่วโมง ที่สำคัญมีวิธีการชาร์จแบตเตอรี่หลายรูปแบบ อาทิ MagSafe, ที่ชาร์จสำหรับ Apple Watch, การชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi หรือผ่านพอร์ต Lightning เป็นต้น
7. การเชื่อมต่อเสถียรและประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น : ข้อแตกต่างของหูฟังไร้สายทั้งสองรุ่น Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) แตกต่างจาก Airpods Pro (รุ่นที่ 1) คือ รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 กับ Bluetooth 5.0 ตามลำดับ
สรุปถึงข้อแตกต่างและคุ้มไหมที่จะซื้อ
กรณีนี้ขอเจาะจงเฉพาะคนที่ต้องการซื้อหูฟัง Apple Airpods Pro (รุ่นที่ 2) เท่านั้น เพราะถ้าใครที่ใช้ Airpods Pro (รุ่นที่ 1) หากมีงบเหลือ เปลี่ยนได้ก็เหมาะสม เพราะมีการอัพเกรดหลายจุด แต่บางฟีเจอร์คือ ควรมีนานแล้ว ตั้งแต่รุ่นแรก ทว่าใครที่ไม่เคยใช้เลย ต้องการลองใช้ หากใจรักก็เลือกรุ่นสองแทนรุ่นแรก แต่หากเปรียบเทียบแบรนด์อื่นๆ ชื่อดัง ในช่วงราคาใกล้กัน ต้องบอกว่า มีหลายรุ่นที่ฟีเจอร์โดดเด่นกว่า
รีวิว vivo Watch 3 ฟีเจอร์ครบครัน สวยทันสมัย เอาใจคนรักสุขภาพ
vivo X200 Series เตรียมเปิดตัวในมาเลเซีย ส่วนไทยก็ผ่านการรับรอง กสท...
TECNO MEGAPAD 10 แท็บเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้ว แบตเตอรี่ขนาด 7000mAh
Roborock เปิดตัวไลน์อัพหุ่นยนต์ดูดฝุ่นและเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 4 รุ่...
รีวิวลำโพง Tronsmart Mirtune S100 สายปาร์ตี้พลูวิลล่าต้องมี กำลังขั...
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip 6 ครั้งแรกมือถือจอพับกันน้ำได้ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเฉดสีสไตล์มินิมอล สดใส เก๋ไก่ น่ารักเอามากๆ มี 4 เฉดสีใ...