รีวิวสมาร์ทวอช Apple Watch Series 8 - แอปเปิ้ล

ปลายปี 2565 แล้ว เชื่อว่าหลายคนกำลังมองหาของขวัญให้ตนเองหรือคนใกล้ตัว ถ้าเป็นเรื่องสุขภาพก็เป็นของขวัญที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะแสดงถึงความห่วงใยและเป็นห่วง สอดคล้องกับยุคสมัยปัจจุบันที่การใช้สมาร์ทวอชสามารถเป็นผู้ช่วยด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งมีความพรีเมียมโดดเด่นแสดงถึงความหรูหราอีกด้วย ดังนั้น Apple Watch Series 8 ก็เป็นตัวเลือกที่คุณต้องคิดถึงอยู่ในใจ เพราะเขาไม่ใช่แค่นาฬิกา แต่คือผู้ช่วยส่วนตัวในทุกเรื่อง

สั่งซื้อคลิก!

Lazada : https://shorturl.at/lwyNR

Shopee : https://shope.ee/6fBbpkFWeA

แตกต่างอย่างไรระหว่าง Apple Watch 7 vs Apple Watch 8 มีอะไรอัพเกรด

เริ่มจากเรื่องของดีไซน์ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เดิมๆ มาเลยตั้งแต่รุ่นก่อน อีกทั้งมีสีให้เลือกน้อยกว่าด้วย ทว่าเป็นเรื่องของวัสดุตัวเรือน โดย Apple Watch 7 จะมีตัวเลือก Aluminium, Stainless steel และ Titanium แต่น่าเสียดายที่วัสดุเรือนไทเทเนียมของ Apple Watch 8 จะมีให้เลือกเฉพาะโมเดล Ultra เท่านั้น

จุดเด่นเพิ่มเติมขึ้นมาคือ การมีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ (Temperature Sensor) ประโยชน์ของเซนเซอร์ดังกล่าวจะเพิ่มประสิทธิภาพการวัดผลลัพธ์การมีรอบเดือนของผู้หญิงแม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้การคาดเดาต่างๆ เป็นไปได้ด้วยดี เผื่อว่าใครกำลังวางแผนมีน้อง...

เงื่อนไขสำหรับผลลัพธ์ความแม่นยำดังกล่าวมีดังนี้...

  • ต้องใช้สมาร์ทวอช Apple Watch 8 หรือ ‌Apple Watch Ultra‌ เท่านั้น
  • เปิดโหมดนอนหลับและโหมดติดตามการนอนหลับ
  • เพื่อประสิทธิภาพการวัดค่าจะต้องสวมใส่อย่างน้อย 4 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลา 5 วันติดต่อกัน

หนึ่งไม่พอ สองดีกว่า สำหรับฟีเจอร์ Car Crash Detection ต้องเกริ่นก่อนว่าจะใช้งานกับ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max เท่านั้น เดิมทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำงานอัตโนมัติทันที เช่นเดียวกันเมื่อคุณสวมใส่ Apple Watch อยู่ วิธีการทำงานก็จะเหมือนกัน เพียงแต่ นี่เป็นอุปกรณ์ที่ติดตัวคุณ ต่างจากโทรศัพท์มือถือที่อาจกระเด็น หรือวางไว้ที่ใดในรถ พอชนก็หาไม่เจอ แต่การตอบสนองผ่าน Apple Watch นี้จะช่วยให้คุณควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น

โหมดประหยัดพลังงานที่ไม่ได้มีแค่บน iPhone แต่ Apple Watch 8 ก็มีโหมดนี้มาให้เหมือนกัน มีชื่อเรียกว่า Low Power mode กล่าวคือ หากใช้งานปกติ แบตเตอรี่จะใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 18 ชั่วโมง ถ้าเปิดโหมดดังกล่าวจะใช้งานได้สูงสุด 36 ชั่วโมง

จุดแตกต่างข้อสุดท้ายคือ ชิปเซ็ตประมวลผลอัพเกรดเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด S8 SiP ขณะที่รุ่นก่อนหน้าใช้ชิปเซ็ต S7 SiP นอกจากนี้ด้าน Bluetooth ยังเสถียรและประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้นด้วยเวอร์ชั่น 5.3 แทนที่เวอร์ชั่นเดิม 5.0 ใน Apple Watch 7

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

อย่างที่เกริ่นข้างต้น ดีไซน์ไม่มีเปลี่ยนแปลง แต่วัสดุตัวเรือนเริ่มต้นมีให้เลือกแต่อะลูมิเนียมกับสเตนเลสเท่านั้น และมีสีที่ลดลงด้วย แบ่งเป็น....

  • เรือนอะลูมิเนียม : Starlight, Midnight, Silver และ PRODUCT(RED)
  • เรือนสเตนเลสสตีล : Graphite, Silver และ Gold

ตัวเรือนและน้ำหนักไม่ได้มีขนาดแตกต่างจากรุ่นก่อน ส่วนหน้าปัดยังมีขนาดเหมือนเดิมคือ 41 และ 45 มม. ด้วยหน้าจอประเภท LTPO OLED Retina ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต หมดปัญหาเรื่องใช้งานกลางแจ้ง สว่างพอแน่นอน

  • ขนาดหน้าจอ : 41 มม. ความละเอียด 352 x 430 พิกเซล มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 904 ตร.มม.
  • ขนาดหน้าจอ : 45 มม. ความละเอียด 396 x 484 พิกเซล มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 1,143 ตร.มม.

กระจกหน้าจอของ Apple Watch 8 ยังใช้วัสดุคุณภาพสูงเหมือนเดิม ทนทานต่อรอยขีดข่วน ไม่เกิดรอยนิ้วมือ และไม่สะท้อนแสง เมื่อใช้งานกลางแจ้ง ทำให้มองเห็นรายละเอียดชัดเจน นอกจากนี้มีฟีเจอร์ Always On Display ทำให้เห็นทุกการแจ้งเตือนโดยที่ไม่ต้องปลุกหน้าจอขึ้นมา ...

  • กระจกหน้า Ion‑X สำหรับตัวเรือนอะลูมิเนียม และกระจกจากผลึกแซฟไฟร์สำหรับตัวเรือนสเตนเลสสตีล

ยังไม่หมดแค่นี้ ตามที่เกริ่นข้างต้น Apple Watch 8 จะมีเซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ (Temperature sensor) แบ่งเป็นสองจุด คือ ใต้แผงหน้าจอและใต้ตัวเรือน ซึ่งใต้แผงหน้าจอ จะทำหน้าที่ป้องกันและวัดผลจากอุณหภูมิแวดล้อมภายนอก เพื่อประมวลผลให้เที่ยงตรงที่สุด

อย่างไรก็ตามด้านหลังตัวเรือนไม่ได้มีแค่เซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิเท่านั้น ยังมีเซนเซอร์ตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือดและเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัล รุ่นที่ 3

ด้านข้างตัวเรือนมีปุ่ม Digital Crown มีดีไซน์หรูหราตามเอกลักษณ์ของแอปเปิ้ล โดยจะตอบสนองแบบสั่นเล็กน้อยเมื่อถูกหมุน ถัดลงมาเป็นรูไมโครโฟนสำหรับรับเสียงสนทนา อีกฝั่งเป็นช่องลำโพงสามารถได้ยินการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ง่าย

อย่างไรก็ตามปุ่มด้านขวาตัวเครื่องคุณยังสามารถตั้งค่าเป็นกดเพื่อเรียกใช้งานเมนูหรือแอปฯ ด่วน หรือตั้งค่าเพื่อเรียกใช้งาน Siri

สำหรับสายนาฬิกาสามารถสวมใส่สบาย ไม่ระคายเคืองผิวหนัง แม้สวมใส่ตลอดทั้งวัน และถอดล้างทำความสะอาดได้ ทว่าประเด็นสำคัญคือ ตัวเรือนขนาด 41 และ 45 มม. จะไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้

Apple Watch 8 รองรับมาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่นระดับ IP6X เป็นระดับป้องกันฝุ่นสูงสุด โดยมาตรฐานป้องกันน้ำ WR50 ป้องกันที่ระดับความลึก 50 เมตร

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

Crash Detection ระบบตรวจจับการชนเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ สามารถตรวจจับการชนที่รุนแรงมากถึง 256G ประมวลผลผ่านเซนเซอร์ High G Force Sensor และ 3 Gyroscope โดยประมวลผลและจับลักษณะการชนได้หลายแบบ

วิธีการคือเมื่อตรวจจับว่าเกิดเหตุชนอย่างรุนแรง อุปกรณ์จะขึ้นข้อความเพื่อตรวจสอบกับผู้สวมใส่ หากไม่มีการตอบสนองเป็นระยะเวลา 10 วินาที จะมีการโทรหาบริการฉุกเฉินทันที พร้อมส่งตำแหน่งของเราให้หน่วยฉุกเฉินได้รู้ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ จะถูกแชร์ไปยังเบอร์ SOS ด้วยเช่นกัน ส่วนรายละเอียดการติดต่อพูดคุยสามารถโต้ตอบผ่าน Apple Watch ได้เลย

watchOS 9 มาพร้อมการออกแบบ UI ใหม่ พร้อมความลื่นไหลลงตัวมากยิ่งขึ้น ให้คุณอยู่ในความรู้สึกมินิมอล แต่มีอิสระมากยิ่งขึ้น สามารถปรับแต่ง Watch Face, วิตเจด, ฟอนต์, รูปแบบไอคอน หรือสีสันของตัวอักษรต่างๆ อย่างอิสระ นอกจากนี้โหมดออกกำลังกายก็มีการประมวลผลแม่นยำเที่ยงตรง มีให้ใช้งานหลากหลายโหมด

 

 

ฟีเจอร์ติดตามการนอน สามารถวัดจากการเคลื่อนไหวและเหล่าเซนเซอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจและตรวจวัดอุณหภูมิ สามารถเรียกดูข้อมูลในแต่ละวันหรือรายเดือนได้บน Apple Watch นอกจากนี้ยังตั้งการแจ้งเตือนเกี่ยวกับชีวิตประจำวันได้อีกด้วย อาทิ การเตือนให้ทานยาที่ต้องกินประจำ หรือวิตามินเสริม

สรุปความน่าสนใจของ Apple Watch 8 ควรค่าแก่การครอบครองหรือไม่

คงต้องบอกว่าถ้าเน้นใช้งานก็ตอบโจทย์ ถ้าเน้นแฟชั่น ความหรูหรา โดดเด่นสะดุดตา Apple Watch ก็เป็นตัวเลือกที่ใช่ หากใครที่ไม่เคยใช้งาน และมีงบ ถือว่าตัดสินใจซื้อได้เลย ไม่ใช่แค่เฉพาะจุดเด่นและสเปค ต้องบอกว่าการมาของ wacthOS 9 คือความกลมกล่อมที่ลงตัวมากยิ่งขึ้น ด้วยอิสระในการใช้งานและความสวยงามที่คุณเลือกได้หลากหลายจากการตั้งค่า เรียกได้ว่าไม่จำเจเลย

ทว่าหากใครใช้งาน Apple Watch 7 อยู่ อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีนักในการอัพเกรดขึ้นมา เพราะยังไม่มีอะไรแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ตามข้อแตกต่างที่สรุปข้างต้นไว้

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลนาฬิกา

รีวิวโดย: อภิศักดิ์ อาจนันท์ ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน