รีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra

Samsung Galaxy S23 Ultra แม้ภายนอกไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่ความเก่งของกล้องหลัง 200 ล้านพิกเซล ซูมไกลมากถึง 100 เท่า ก็สร้างกระแสตอบรับได้ดี มาพร้อมจอใหญ่ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว Quad HD+ อัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 รุ่นใหม่ รองรับปากกา S-Pen ให้ขีดเขียนกันเช่นเคย ส่วนรายละเอียดต่างๆ จะเป็นอย่างไรไปดูกัน

สั่งซื้อคลิก!

Lazada : https://c.lazada.co.th/t/c.Y0GMbw

Shopeehttps://shope.ee/5fJ4WcUXAW

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Samsung Galaxy S23 Ultra มีดีไซน์ที่คล้ายรุ่นเดิม แตกต่างกันที่ขอบเครื่องซึ่งจะไม่มีความมนเท่า S22 Ultra และขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 163.4 x 78.1 x 8.9 มม. น้ำหนัก 234 กรัม เพราะฉะนั้นไม่สามารถใส่เคสร่วมกันได้

สีของตัวเครื่องผลิตจากสีย้อมธรรมชาติ ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยกระจกฟิล์ม PET รีไซเคิล มีให้เลือกถึง 4 เฉด ได้แก่ Green, Cream, Phantom Black และ Lavender (เครื่องรีวิว) นอกจากนี้ยังมีสีพิเศษอย่าง Lime, Graphite, Sky Blue และ Red แต่ต้องสั่งจองผ่านช่องทางออนไลน์ของ Samsung เท่านั้น

หน้าจอเป็นแบบขอบโค้ง มีขนาดใหญ่ที่สุดของซีรี่ย์ ความกว้าง 6.8 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ (3088 x 1440 พิกเซล) เป็นจอ Dynamic AMOLED 2X อัตรารีเฟรชเรทปรับได้ระหว่าง 1-120Hz รองรับอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 240Hz ในโหมดเกม ให้ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1750nits ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 ที่มีความแข็งแรงทนทาน ป้องกันรอยจากการขีดข่วนได้ดี

ส่วนบนของหน้าจอใช้ดีไซน์ Infinity-O แบบรอยเจาะตรงกลาง ติดตั้งกล้องหน้า ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ให้มุมมองการถ่ายภาพ 80 องศา เหนือขึ้นไปจะมีช่องของลำโพงเสียงที่เล็กมาก ซ่อนไว้ระหว่างจอกับกรอบเครื่องอย่างเนียนตา รวมถึงเซ็นเซอร์การตรวจจับต่างๆ ด้วย

สำหรับหน้าจอส่วนล่าง Samsung Galaxy S23 Ultra ยังคงมาพร้อมซอร์ฟแวร์ระบบ เพื่อใช้ในการควบคุมต่างๆ และรองรับการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคใต้จอ

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

ตัวเครื่องด้านขวาติดตั้งปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์ ส่วนทางด้านซ้ายไม่มีการใช้งานใดๆ

ด้านล่างของเครื่องมีช่องเก็บปากกา S Pen ทางซ้ายสุด ถัดมาเป็นลำโพงสเตอริโอ มีพอร์ต USB-C ประเภท 3.1 อยู่ตรงกลาง และถัดไปจะเป็นรูไมโครโฟนสนทนา สำหรับช่องใส่ซิมการ์ดของ Samsung Galaxy S23 Ultra เป็นแบบ Hybrid คือ รองรับการใส่ Nano SIM จำนวน 2 ช่อง หรือจะใส่หนึ่งซิมการ์ดและหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card สูงสุด 1TB อีกช่องก็ได้

วิธีการนำปากกาออกมาจากตัวเครื่อง Samsung Galaxy S23 Ultra ให้กดลงไปที่ปลายปากกา ปากกาก้จะเด้งออกจาตัวล็อค เราก็หยิบออกมา ส่วนการเก็บเข้าคืน ให้เสียบเข้าไปที่ช่อง โดยจะผลิกปากกาด้านใดก้ได้ แล้วกดเบาๆ ให้ได้ยินเสียงคลิ๊ก เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย

กล้องหลังถูกจัดวางให้อยู่ทางมุมซ้ายบนของเครื่อง ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 200MP เซนเซอร์ ISOCELL HP2 + เลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 12MP + เลนส์ Telephoto ความละเอียด 10MP รองรับการซูม 3x zoom และเลนส์ Periscope ความละเอียด 10MP รองรับการซูม 10x zoom พร้อมไฟแฟลช LED

สรุปสเปคเบื้องต้นของ Samsung Galaxy S23 Ultra

  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 ครอบทับ One UI 5.1
  • ขนาดตัวเครื่อง : 163.4 x 78.1 x 8.9 มม.
  • น้ำหนัก : 234 กรัม
  • หน้าจอ : ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 3088 x 1440 พิกเซล หน้าจอประเภท Dynamic AMOLED 2X อัตรารีเฟรชเรทปรับได้ระหว่าง 1-120Hz กับอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 240Hz ในโหมดเกม ให้ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1750nits ครอบทับกระจก Gorilla Glass Victus 2
  • ชิปเซ็ตประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • GPU : Adreno 740
  • RAM : 8GB/12GB LPDDR5X
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB / 512GB / 1TB (UFS 4.0)
  • มาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP68
  • ระบบเชื่อมต่อ : 5G SA/NSA, 4G VoLTE, Wi-Fi 6E 802.11ax (2.4/5GHz), Bluetooth 5.3, GPS + GLONASS และ NFC
  • พอร์ต : USB Type-C 3.1
  • แบตเตอรี่ : ความจุ 5000mAh
  • เทคโนโลยีชาร์จเร็ว : เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W
  • รองรับการชาร์จไร้สายและชาร์จให้อุปกรณ์อื่น ( Qi wireless charging, Wireless PowerShare)

 

 

 

 

 

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

กล้อง 200 ล้านพิกเซล ซูมเก่ง 100 เท่า

Samsung Galaxy S23 Ultra ชูจุดเด่นที่กล้องหลังความละเอียด 200 ล้านพิกเซล กับเซนเซอร์ ISOCELL HP2 ที่ทำการพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่ มีเทคโนโลยี Adaptive Pixel ที่รวม 16 พิกเซลเล็ก เป็น 1 พิกเซลใหญ่ โดยทางซัมซุงยังเคลมว่าจะช่วยให้การถ่ายภาพมีความคมชัดยิ่งขึ้น แม้จะถ่ายในที่แสงน้อย ซึ่งสเปคกล้องของ Samsung Galaxy S23 Ultra มีดังนี้

  • กล้องเลนส์หลัก : ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ ISOCELL HP2 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รูรับแสง f/1.7
  • กล้องเลนส์มุมกว้าง : ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมอง 120 องศา รูรับแสง f/2.2
  • กล้องเลนส์ Telephoto : ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รองรับการซูมภาพ 3x zoom รูรับแสง f/2.4 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
  • กล้องเลนส์ Periscope : ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ซูมภาพได้ 10x zoom รูรับแสง f/4.9 และโหมดซูมภาพแบบ 100x Space Zoom มี Laser autofocus
  • รองรับการบันทึกวิดีโอ ความละเอียด 4K 60 เฟรมต่อวินาที และ 8K 30 เฟรมต่อวินาที
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมอง 80 องศา รูรับแสง f/2.2

เมื่อถ่ายในสภาวะแสงปกติ ภาพที่ได้มีความละเอียดชัดเจนที่ดีมา สามารถนำมาครอป เพื่อปรับเป็นภาพอีกภาพได้โดยคงความชัดเจนได้อยู่ ส่วนการถ่ายภาพกลางคืนที่ยังไม่ได้เปิด Night Mode เก้บภาพได้สว่างดี พบนอยส์บ้างตามสถานการณ์ เช่น วัตถุหรือมือไม่นิ่ง แต่หากเปิดโหมดกลางคืน ความสว่างของภาพก็จะเพิ่มมากขึ้น แต่อาจน้องถือนิ่งๆ เพื่อให้กล้องประมวลภาพซักครู่

ซูม 100 เท่า เท่าไหร่กัน

Samsung Galaxy S23 Ultra สามารถเลือกระยะโฟกัสได้ตามต้องการ ตั้งแต่ 0.6, 1, 2, 3, 10, 30 ไปจนถึง 100 เท่า สำหรับการซูมที่เรียกว่ากำลังสวย ภาพชัด เอามาใช้โพสต์บนโซเชี่ยลได้ อยู่ที่ประมาณ 30x แต่ถ้าอยากซูมชัดทะลุดวงจันทร์หรือส่องวัตถุที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ความซูม 100x ก็ถือว่าใช้ได้ เห็นรายละเอียดข้อความได้อยู่ แต่ไม่ได้คมชัด ซึ่งต้องมีแสงสว่างเพียงพอ บวกกับถือกล้องให้นิ่งๆ ซึ่งหากไม่สามารถทำให้นิ่งได้จริงๆ กล้องก็มีฟังก์ชั่นล็อคโฟกัสมาให้ใช้งาน เพื่อเราจะได้ถ่ายง่ายขึ้น

 

 

 

 

โหมดถ่ายภาพมุมกว้าง

สามารถถ่ายเก็บภาพวิวมุมมองกว้าง 120 องศา ด้วยเลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2

กล้องหน้าเซลฟี่

กล้องหน้ามาพร้อม ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมอง 80 องศา อาจจะดูว่าให้ความละเอียดมาน้อยไป แต่เมื่อใช้งานจริงสามารถเก็บภาพได้สวยชัดเจนดี จะถ่ายรูปเซลฟี่หรือกรุ๊ปฟี่ได้ มีฟังก์ชันปรับใบหน้าสวย ปรับโทนสีผิว หรือเลือกฟิลเตอร์ เพื่อเพิ่มความเด่นของภาพเซลฟี่ให้มีมูทแอนด์โทนมากขึ้น

หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X สว่างชัด

Samsung Galaxy S23 Ultra มาพร้อมหน้าจอดีไซน์ Infinity-O Display Dynamic ใช้พาเนล AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว คมชัดระดับ Quad HD+ การแสดงผล ความสดของสี รวมไปถึงความสว่างของจอ สามารถสู้แสงสว่างกลางแจ้งได้ดีเช่นเคย รองรับอัตรารีเฟรชเรทที่ปรับได้ระหว่าง 1-120Hz และเมื่อเปิดโหมดเกม จะได้อัตราการทัชสกรีนสูงสุดที่ 240Hz ได้ เพราะฉะนั้น ความลื่นไหลของหน้าจอ รวมถึงการตอบสนองต่างๆ จึงมีความรวดเร็ว ไม่พบปัญหาการกระตุก แม้จะปรับค่าเฟรมเรทและกราฟฟิกเกมไปที่ระดับสูงสุด เสริมความแข็งแกร่งของหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 ทั้งด้านหน้าด้านหลัง เพื่อปกป้องจากการกระแทกตรงๆ รวมถึงรอยขีดข่วน และยังรองรับการใช้งานปากกา S-Pen เช่นเคย

ปากกา S-Pen

ปากกา S-Pen ถือเป็นฟังก์ชั่นที่ทางซัมซุงได้ยกจาก Note Series มาไว้ใน Samsung Galaxy S Series ตัวท็อปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งคุณสมบัติของ ปากกา S-Pen  ใน Samsung Galaxy S23 Ultra ยังคงมีเหมือนในรุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็น Air Actions, Screen Off Memo, S Pen Remote, กดที่ปุ่มบนปากกาเพื่อถ่ายรูป หรือฟีเจอร์แปลงลายมือเป็นตัวอักษร (White to Text) หน้าจอมีการตอบสนองต่อการจรดของหัวปากกาได้ดี การตอบสนองไวอยู่ที่ 2.8 ms. น้ำหนักเบา ควบคุมง่าย ถอดออกหรือเก็บเข้าไปในตัวเครื่องได้สะดวก เมื่อเก็บปากกาเข้าที่แล้วระบบจะทำการชาร์จแบตของปากกาให้เลยทันที ไม่ต้องนำมาชาร์จแยก

ชิปประมวลผล

ชิปประมวลผลที่ทาง Samsung Galaxy S23 Ultra นำมาใช้คือ Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ซึ่งเป็นชิปที่เร็วแรงที่สุดที่มีอยู่ในตอนนี้ เพิ่มความสามารถในการทำงานของ GPU ได้เร็วขึ้นถึง 41% เมื่อเทียบกับ Galaxy S22 Series รวมถึงช่วยในด้านของการประหยัดพลังงานด้วย ทำงานผสานกับหน่วยความจำสูงสุดด้วย RAM 12GB + ROM 1TB และสิ่งที่เห็นได้ชัดมากคือการควบคุมความร้อนของตัวเครื่อง ด้วยการออกแบบให้แผ่นระบายความร้อนมีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อซับความร้อนได้ดีกว่าเดิมนั่นเอง

แบตเตอรี่

Samsung Galaxy S23 Ultra มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ที่มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง จากการทดสอบการใช้พลังงานถือว่าลดลงไม่เร็ว แม้จะเปิดรับข้อมูลผ่านสัญญาน 5G แล้วดูสตรีมมิ่ง

ยังคงมีฟีเจอร์ Wireless PowerShare สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นที่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ช่วยเพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพียงแค่นำอุปกณ์ที่รองรับ เช่น สมาร์ทโฟน, สมาร์ทวอช หรือหูฟังไร้สาย มาวางบนตัวเครื่อง ก็จะทำการชาร์จให้เลย แต่มีข้อจำกัดว่าแบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy S23 Ultra ต้องมีเหลืออยู่ไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

เฉดสีที่รักษ์โลก

นอกจากประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่ให้มาแบบจัดเต็มแล้ว Samsung Galaxy S23 Ultra ยังมาพร้อมกับสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ (Inspired by Nature) คุมการให้เฉดด้วยสีเอิร์ธโทน ดูเรียบหรูเป็นธรรมชาติ คือ Green, Cream, Lavender และ Phantom Black พร้อมเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งกระจกรีไซเคิล, ฟิล์ม PET รีไซเคิล และเคสด้านในของ S PEN ซึ่งเป็นพลาสติกรีไซเคิลที่ได้มาจากท้องทะเล เรียกว่าผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีได้เข้ากับคอนเซ็ปต์รักษ์โลก โดยไม่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคนั่นเอง

นอกจากนี้ ซัมซุงยังมีสีพิเศษอย่าง Lime, Graphite, Sky Blue และ Red สำหรับการสั่งจองผ่านช่องทางออนไลน์ samsung.com ไว้ให้ผู้ที่สนใจสีจัดจ้าน ได้เข้าไปจับจองเป็นเจ้าของอยู่อีกด้วย

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

หน้าจอหลักและหน้าเมนูการใช้งาน

 

 

ธีม/วอลเปเปอร์/ไอคอน

สามารถปรับแต่งอินเทอร์เฟชสมาร์ทโฟนของคุณให้มีความหลากหลายไปกับวอลเปเปอร์และสไตล์ ซึ่งมีมาให้เลือกมากมายตั้งแต่แกะกล่อง หรือหากต้องการดาวน์โหลดเพิ่ม ก็มีให้เลือกทั้งแบบเสียเงินและแบบฟรีทางออนไลน์

 

 

นอกจากนี้ ความพิเศษของ One UI 5 ที่สามารถตั้งหน้าจอวอลเปเปอร์ในรูปแบบต่างๆ ไว้ จากนั้นเพียงแค่แตะหน้าจอล็อกแล้วกดค้างไว้ ก็จะตั้งค่าวอลเปเปอร์ สไตล์นาฬิกา และการแจ้งเตือนทั้งหมดได้ในที่เดียวได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องเข้าไปในการตั้งค่า เพื่อเลือกกำหนดค่าต่างๆ ให้ยุ่งยาก

 

การแสดงผล

เมนูสำหรับตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอ โดยสามารถปรับระดับความสว่าง, สี หรือเลือกโหมดการใช้งานได้ อาทิ โหมดอ่านทำให้โทนสีอุ่นขึ้น เพื่อความสบายตาในการใช้งาน และตั้งเวลาได้ด้วย นอกจากนี้ยังเปลี่ยนขนาดตัวอักษรภายในเครื่องได้ ถ้าใครต้องการตัวเล็ก ตัวใหญ่ก็เปลี่ยนในเมนูขนาดอักษรได้เลย รวมถึงการเปิดใช้งานแตะหน้าจอสองครั้งติดกันเพื่อปลุกหน้าจอ หรือเปิดใช้งานโหมดแสงทึบ, โหมดฟิลเตอร์แสงสีฟ้า, การซูมหน้าจอ เป็นต้น

 

 

 

 

AOD กับอิโมจติของเรา

One UI 5 ช่วยให้ Always on Display ของคุณสนุกกว่าที่เคย เพียงเข้าไปที่การตั้งค่าหน้าจอตลอดเวลา เลือกครีเอตอิโมจิ จากนั้นเลือกภาพของคุณมา ระบบจะทำการประมวลผลเพื่อจับคาแรคเตอร์ของคุณมาสร้างสรรค์ในรูปแบบอิโมจิ จากนั้นกดบันทึก ก็จะสามารถนำอิโทจินี้ ไปตั้งเป็น Always on Display สนุกๆ บนหน้าจอตลอดเวลาได้แล้ว

 

 

 

ตัวทำความสะอาด

ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนใหม่เสมอด้วยลูกเล่นการเคลียพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน, การตรวจสอบข้อมูลที่มีความสุ่งเสี่ยงต่อความเสียหายแก่สมาร์ทโฟนและข้อมูลส่วนตัว เป็นต้น

 

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง Samsung Galaxy S23 Ultra 5G 

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v9.4.4 ได้ 1,174,736 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 1521 และคะแนน Multi-Core ที่ 4478 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Wild Life Xtreme) ได้ 3 435 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

 

 

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
  • Pressure Sensor ตรวจวัดความดัน

ราคาวางจำหน่าย

Samsung Galaxy S23 Ultra มีมาให้เลือกทั้งหมด 4 สี ตามการจำหน่ายปกติ ได้แก่ Green, Cream, Phantom Black และ Lavender (เครื่องรีวิว) โดยมีราคาแตกต่างกันตามความจุภายใน ดังนี้

  • RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 43,900 บาท
  • RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 49,900 บาท
  • RAM 12GB + ROM 1TB ราคา 59,900 บาท

สามารถเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ samsung.com หรือหน้าร้านที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ

Samsung

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy S23 Ultra - ซัมซุง

ขอขอบคุณ : บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด โทร. 0 2689 3232

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : 

https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=468767

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : Samsung Galaxy S23 Ultra

https://www.siamphone.com/spec/samsung/galaxy_s23_ultra.htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปภัสสร อมรประสิทธิ์ ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน