รีวิวโทรศัพท์มือถือ OnePlus 11 5G - วันพลัส

จากที่ได้ดูพรีวิวกันไปแล้ว สำหรับ OnePlus 11 5G สมาร์ทโฟนเรือธงจากค่ายๆ OnePlus ซึ่งเรื่องของดีไซน์อาจจะไม่มีเปลี่ยนอะไรมาก จะมีเปลี่ยนตรงดีไซน์โมดูลกล้องหลังที่เปลี่ยนเป็นวงกลม พร้อมร่วมพัฒนากับแบรนด์กล้องชั้นนำอย่าง Hasselblad ส่วนสเปคภายในยังคงคอนเซ็ปฉายาเดิม "นักฆ่าเรือธง" ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยขยับมาใช้ชิปเซ็ตตัวแรงใหม่ล่าสุด Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 จัด RAM มาให้สูงสุดถึง 16GB + ROM แบบ UFS 4.0 อ่านเขียนข้อมูลได้เร็วกว่าเดิมเยอะ และยังมีพลังในการชาร์จแบตเตอรี่แบบเร็วถึงใจระดับ 100W SuperVOOC ถือว่าเข้าขั้นเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงตัวเด่นในช่วงต้นปี 2023 ก็ว่าได้

สั่งซื้อคลิก!

Lazadahttps://shorturl.asia/Ee9Yv

Shopeehttps://shope.ee/3prQNYsc3U

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

OnePlus 11 5G มีขนาดตัวเครื่องที่ 163.1x74.1x8.53 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 205 กรัม ในการลองจับใช้งานก็ถือว่าเครื่องเป็นขนาดกำลังดี ส่วนน้ำหนักก็ไม่ได้มากจนเกินไป ถือว่าใช้งานได้แบบสบายๆ

หน้าจอแสดงผล Super Fluid AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3216x1440 พิกเซล) อัตราส่วน 20.1:9 อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz ใช้เทคโนโลยี LTPO และมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus

เหนือหน้าจอแสดงผล ใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรูอยู่มุมบนซ้าย ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 16MP และขอบหน้าจอด้านบนเป็นลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา

ล่างหน้าจอแสดงผล OnePlus 11 5G ไม่มีปุ่มใช้งานแบบฮาร์ดแวร์ โดยปุ่มนำทางจะเป็นรูปแบบซอฟแวร์ในหน้าจอแสดงผล

ข้างซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มแบบยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง

ข้างขวาตัวเครื่อง ส่วนบนเป็นปุ่ม Toggle และถัดลงมาด้านล่างเป็นปุ่มเพาเวอร์

ส่วนบนตัวเครื่องเป็นช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และลำโพงเสียง

ส่วนใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นลำโพงเสียง ถัดมาตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C ตามมาด้วยรูไมโครโฟน และช่องใส่ถามซิมการ์ด โดยถาดรองรับ Nano SIM 2 ช่อง

ทางด้านฝาหลังมีการปรับโฉมโมดูลกล้องใหม่เป็นแบบวงกลม ซึ่งทาง OnePlus เรียกว่า Starlight Dial Design และมีโลโก้แบรนด์ Hasselblad อยู่บนโมดูล ส่วนกล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว และเซนเซอร์อีก 1 ตัว

  • กล้องหลัก : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX890 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56 นิ้ว ประกอบด้วยชุดเลนส์ 6 ชิ้น มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 1.0 µm รูรับแสง f/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS+EIS มีระบบออโต้โฟกัส
  • กล้องสอง : เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มุมมอง 115 องศา เซนเซอร์ Sony IMX581 ขนาดเซนเซอร์ 1/2 นิ้ว รูรับแสง f/2.2 ประกอบด้วยชุดเลนส์ 6 ชิ้น มีระบบออโต้โฟกัส
  • กล้องสาม : เลนส์ Portrait Tele ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มุมมอง 49 องศา ขนาดเซนเซอร์ 1/2.74 นิ้ว รูรับแสง f/2.0 รองรับการซูมภาพแบบ 2X Optical ZOOM มีระบบออโต้โฟกัส
  • เซนเซอร์ : 13-channel multispectral sensor สำหรับใช้ตรวจจับสีและแสงให้เที่ยงตรงสมจริงเป็นธรรมชาติ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง OnePlus 11 5G
  • อะแดปเตอร์ 100W SuperVOOC
  • สาย USB Type-A To Type-C (สายสีแดง)
  • สติ๊กเกอร์ OnePlus
  • คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

สเปคสุดทาง ให้ความลื่นจากเทคโนโลยีรุ่นใหม่
OnePlus 11 5G ถูกขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตตัวแรงล่าสุด พร้อมทำงานร่วมกับกับ RAM 16GB LPDDR5X และ ROM 256GB แบบ UFS 4.0 (ในรุ่น 256GB) ทั้งหมดทำให้การทำงานต่างๆ มีความลื่นในระดับสุดทาง เปิดปิดแอพฯ ได้รวดเร็วมากๆ แถมยังเปิดแอพฯ หลายแอพฯ ได้ลื่นๆ พร้อมรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ประสบการณ์การเล่นเกมก็สามารถเปิดระบบ Ray Tracing ช่วยให้ภาพออกมาสวยงามถึงอารมณ์ในการเล่นเกมมากขึ้น แบบไม่ต้องไปเล่นใบเครื่องคอนโซล

หน้าจอเทพๆ สีสันความละเอียดครบถ้วน รีเฟรชเรต LTPO รุ่น 3
หน้าจอจัดเต็มแบบพาแนล Super Fluid AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2K (3216x1440 พิกเซล) เพิ่มความละเอียดมากขึ้น 4 เท่าจากเทคโนโลยี image enhancement ความลึกสี 10bit แสดงสีสันได้กว่า 1.07 พันล้านสี พร้อมระบบ Dual Color Calibration แสดงสีได้อย่างแม่นยำทุกสภาพแสง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนจอเทพๆ ที่ให้ความละเอียด และสีสันแบบครบมาก

ทั้งนี้ยังเป็นหน้าจอเทคโนโลยี LTPO รุ่นที่ 3 ซึ่งสามารถปรับอัตรา Refresh Rate ได้แบบอัตโนมัติ จาก 1-120Hz โดยเทคโนโลยีใหม่นี้จะมีความแม่นยำในการปรับ ตรงตามสิ่งที่ผู้ใช้งานกำลังใช้งานอยู่อย่างแม่นยำ เพื่อเป็นการประหยัดแบตเตอรี่อีกทาง โดย OnePlus 11 5G มีอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz

ความบันเทิงครบเครื่องทั้งภาพ และเสียง
นอกจากความเทพของสเปคหน้าจอ ยังถูกตีบวกด้วยระบบ Dolby Vision HDR, HDR 10+ เพื่อเปิดประสบการณ์การดูคอนเทนด์สตรีมมิ่งอย่างสมจริงมากขึ้น พร้อมกับระบบเสียง Dolby Atmos จากลำโพงคู่ Stereo เพิ่มคุณภาพของเสียงสมจริงรอบทิศทาง ซึ่งรองรับสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มหลัก เช่น Netflix, Disney+, Paramount+, Amazon Music, Tidal, Apple Music เป็นต้น และยังมีระบบสั่น

ทดสอบการเล่นเกม
การเล่นเกมกราฟฟิกสูงๆ ต้องการภาพแบบสวยๆ ก็สามารถใช้ OnePlus 11 5G เล่นได้ทันที เพราะสเปคที่จัดมาให้ถือว่ามาเต็มระดับท็อปๆ ด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 และรองรับการใช้งานเทคโนโลยี Ray Tracing ให้ประสบการณ์การเล่นเกมแบบเครื่องคอมพิวเตอร์ แน่นอนว่าเรื่องการเล่นเกม OnePlus 11 5G เป็นอีกสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ส่วนนี้ สำหรับการทดสอบได้ใช้เกม Apex Legend Mobile ด้วยกราฟฟิกปรับสุดทุกอย่าง เปิดลบรอยหยัก และคุณภาพการหักเหของแสง ก็ยังทำเฟรมเรตได้ 59-60fps จนจบแมตช์

ระบบระบายความร้อน Cryo-velocity VC Cooling รุ่นใหม่
การควบคุมความร้อนก็ทำได้ดี แต่ก็ยังมีอุ่นๆ หากปรับกราฟฟิกแบบขั้นสุดเหมือนกับที่ทดสอบเกมทางด้านบน แต่ก็เป็นอาการปกติเกิดขึ้นได้กับสมาร์ทโฟน ซึ่งระบบระบายความร้อนเป็น Cryo-velocity VC Cooling รุ่นใหม่ ใช้โครงสร้างแบบหกเหลี่ยม กับวัสดุคริสตัลผลึกกราฟีน ทำให้ควบคุมความร้อนได้ดีมากขึ้น

 

ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก
ด้านระบบความปลอดภัย ก็มีให้ใช้งานทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และสแกนใบหน้า โดยอย่างแรก สามารถสแกนบนหน้าจอได้อย่างรวดเร็ว สามารถปลดล็อกได้แม้พึ่งล้างมือมา และจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ส่วนอย่างที่ 2 การสแกนใบหน้าก็มีความรวดเร็ว สแกนได้ไม่มีปัญหา แม้ว่าอยู่ในที่แสงน้อย เพราะใช้แสงของหน้าจอช่วยให้เห็นใบหน้าได้ชัดขึ้น

ชาร์จเร็วระดับ 100W SUPERVOOC
OnePlus 11 5G จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh แต่ความโดดเด่นจะอยู่ที่คุณสมบัติการชาร์จเร็ว ซึ่งสามารถชาร์จผ่านสายได้สูงถึง 100W SUPERVOOC สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 1% ถึง 100% ในระยะ 25 นาทีเท่านั้น ตามที่ OnePlus ได้เคลมไว้ อีกทั้งยังปลอดภัยจากระบบ AI และผ่านมาตรฐานการชาร์จจาก TÜV Rheinland ส่วนการทดสอบชาร์จจริง จากแบตเตอรี่ 25% ใช้เวลาแค่ 20 นาที แบตเตอรี่ก็กลับมาเต็ม 100%

กล้องพัฒนาร่วมกับ Hasselblad โดดเด่นตามสูตร
กล้องถ่ายรูปถูกร่วมพัฒนากับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Hasselblad ซึ่งช่วยให้ภาพมีสีสันแบบเป็นธรรมชาติ ด้วยสีสันมากกว่าพันล้านสี ยกระดับภาพด้วยข้อมูลสีมากกว่า 64 เท่า อีกทั้งฮาร์ดแวร์ Accu-spectrum assistance ทำให้มั่นใจถึงความแม่นยำ และความคมชัดของสี ทั้งนี้การถ่ายภาพในโหมด Portrait ยังมีความสวยงามใกล้เคียงกับกล้อง DSLR อีกด้วย

ทดสอบใช้งานกล้องถ่ายรูป
แม้ว่าสเปคเครื่องจะรุนแรงใช้งานแบบลื่นสบาย แต่เรื่องของกล้องถ่ายรูปก็ยังไม่ทิ้ง โดย OnePlus 11 5G ให้กล้องหลังมา 3 ตัว + 1 เซนเซอร์ ซึ่งแต่ละกล้องก็ให้เซนเซอร์ขนาดใหญ่รุ่นใหม่ และความละเอียดที่สูงมากทีเดียว ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP เมื่อกล้องทั้งหมดรวมกับเทคโนโลยีที่ให้มา และร่วมพัฒนากับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Hasselblad ทำให้การถ่ายรูปค่อนข้างดูดีมากทีเดียว ซึ่งโหมดต่างๆ ก็มีให้ใช้งานครบทั้ง AI จดจำซีน, โหมดกลางคืน, มุมกว้าง, โหมดรูปคน และบันทึกวิดีโอได้สูงสุดระดับ 8K

 

 

OnePlus Buds Pro 2 หูฟังไร้สาย TWS พลังเสียงบริสุทธิ์
เติมเต็มหลังเสียงให้กับ OnePlus 11 5G ด้วยหูฟังไร้สาย TWS รุ่นใหม่จากแบรนด์ OnePlus นั้นก็คือ OnePlus Buds Pro 2 ซึ่งเป็นหูฟังพลังเสียงแบบบริสุทธิ์ ขนเทคโนโลยีชั้นนำมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Spatial Audio ให้เสียงรอบทิศทาง ผสมกับเทคโนโลยี Dolby head tracking ช่วยให้ความรู้สึกอยู่ตรงกลางเสมอเมื่อใส่หูฟัง เปิดประสบการณ์การฟังเพลงแบบเหนือชั้น นอกจากนี้ยังให้คุณภาพเสียงระดับสูง เสียงดูเป็นธรรมชาติ พร้อมกับระบบ Dolby Atmos เพิ่มคุณภาพของเสียงได้อีกทาง

 

การเชื่อมต่อก็ง่ายมากๆ เพราะเป็นการเชื่อมต่อผ่านระบบไร้สาย Bluetooth และหากเชื่อมต่อไปแล้วครั้งแรก ครั้งต่อไปก็ง่ายยิ่งขึ้น เพราะเพียงเปิดฝาเคส ระบบจะมีการเชื่อมต่อแบบ Pop-Up ขั้นมาให้

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ OnePlus 11 5G

  • ระบบปฏิบัติการ : OxygenOS 13 บนพื้นฐาน Android 13 การันตีการอัปเดต OS นาน 4 ปี และแพทช์ความปลอดภัยนาน 5 ปี
  • ขนาดตัวเครื่อง : 163 x 75.4 x 8.75 มม.
  • น้ำหนัก : 203.5 กรัม
  • หน้าจอ : Super Fluid AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 3216x1440 พิกเซล ความหนาแน่นต่อพิกเซล 525ppi หน้าจออัตรารีเฟรชเรท 1-120Hz มีโหมดถนอมสายตา และโหมดอ่านหนังสือ รองรับมาตรฐานสี SRGB, DCI-P3, 10 bits Color, HDR10+ โดยครอบทับกระจก Gorilla Glass Victus
  • ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • GPU : Adreno 740
  • RAM : 8GB/16GB LPDDR5X
  • กล้องหลัง 3 ตัว + 1 เซนเซอร์
    - กล้องหลัก : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX890 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56 นิ้ว ประกอบด้วยชุดเลนส์ 6 ชิ้น มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 1.0 µm รูรับแสง f/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS+EIS มีระบบออโต้โฟกัส
    - กล้องสอง : เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มุมมอง 115 องศา เซนเซอร์ Sony IMX581 ขนาดเซนเซอร์ 1/2 นิ้ว รูรับแสง f/2.2 ประกอบด้วยชุดเลนส์ 6 ชิ้น มีระบบออโต้โฟกัส
    - กล้องสาม : เลนส์ Portrait Tele ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มุมมอง 49 องศา ขนาดเซนเซอร์ 1/2.74 นิ้ว รูรับแสง f/2.0 รองรับการซูมภาพแบบ 2X Optical ZOOM มีระบบออโต้โฟกัส
    - เซนเซอร์ : 13-channel multispectral sensor สำหรับใช้ตรวจจับสีและแสงให้เที่ยงตรงสมจริงเป็นธรรมชาติ
  • กล้องหน้า ความละเอียด 16MP
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128GB UFS 3.1 / 256GB UFS 4.0
  • MicroSD Card : ไม่รองรับ
  • ถาดซิมการ์ด ประเภท Dual-Slot
  • การเชื่อมต่อ : 5G, 4G, WiFi 7, Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax/be 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.3+aptX HD, aptX, LDAC, LHDC, AAC, SBC, Wi-Fi Direct, GPS, GLONASS, NFC
    พอร์ต USB Type-C 2.0
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
  • ลำโพงสเตอริโอ มีรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 100 วัตต์ (100W SUPERVOOC)

ระบบปฏิบัติการ
OnePlus 11 5G รันบนระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด OxygenOS 13 บนพื้นฐาน Android 13 การทำงานยังคงเป็นไปตามฉบับ OxygenOS อย่างต่อเนื่อง โดยระบบยังเน้นไปที่ความรวดเร็ว ดูสะอาดคลีนๆ เข้ากันได้ดีกับฮาร์ดแวร์ และยังสามารถปรับแต่งได้มากมาย เพื่อความเหมาะสมกับผู้ใช้งาน

หน้าจอหลัก
หน้าจอหลัก เน้นคลีนตามเดิม ไม่มีแอพฯ จากโรงงานติดตั้งมาเยอะๆ และสามารถปรับแต่งให้เข้าสไตล์ของผู้ใช้งานได้ด้วย โดยการตั้งค่าเบื้องต้น แอพฯ ทั้งหมดจะอยู่ในหน้าจอหลัก และมีถาดแอพฯ เก็บไว้อีกชั้นหนึ่ง ส่วนถาดเครื่องมือด่วน และการแจ้งเตือน ก็สามารถปัดหน้าจอจากด้านบนลงมาได้ปกติ

ปรับพื้นหลัง และสไตล์ได้ตามใจ
อย่างที่บอกไปว่า OxygenOS 13 รองรับการปรับแต่งได้หลากหลาย ซึ่งตัวภาพพื้นหลัง ไอคอน UI ต่างๆ สีสัน อะนิเมชั่นสแกนลายนิ้วมือ และตัวอักษร ก็สามารถปรับแต่งได้ด้วยตัวเอง โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > ภาพพื้นหลัและสไตล์

 

โหมดมืด
OnePlus 11 5G ไม่พลาดนำโหมดมืดมาให้ใช้งานตามเคย โดยระบบจะเป็นการปรับธีมสีเป็นสีดำ ตัวหนังสือสีขาว ช่วยให้ใช้งานในที่แสงน้อยได้สบายตา และหากเปิดใช้งานยังเป็นการประหยัดแบตเตอรี่อีกทาง เพราะหน้าจอเป็นพาแนล AMOLED ไปเปิดใช้งานโหมดมืดได้ที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลและความสว่าง > โหมดกลางคืน

โหมด Always-On Display
หน้าจอของ OnePlus 11 5G จะรองรับการใช้งานโหมด Always-On Display ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นๆ ได้ในขณะพักหน้าจอแสดงผล เช่น วัน, เวลา, การแจ้งเตือน, และเครื่องเล่นเพลง (สามารถควบคุมแอพฯ เพลงสตีมมิ่งได้ด้วย) ทั้งนี้ยังมีดีไซน์ให้เลือกมากมาย ปรับได้ตามใจจุกๆ ไปเลย

ระบบสั่น O-HAPTICS
การสั่นจะเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า O-HAPTICS โดยมีมอเตอร์ Haptics Motor ช่วยสั่นให้สมจริง โดยการสั่น O-HAPTICS เป็นการเพิ่มความรู้สึกตอบโต้ระหว่างสมาร์ทโฟน และผู้ใช้งาน ซึ่งให้การตอยสนองด้วยกาสั่นอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อประสมการณ์ที่เหมือนจริงเวลาสัมผัสหน้าจอ สามารถไปเปิดใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > เสียงและการสั่น > การตอบสนองและโทนเสียง

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 1,044,426 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core : 929 คะแนน และ Multi-Core : 489 คะแนน
  • ผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK (Wild Life Extreme) : 3605 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor ตรวจวัดความเอียง
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor ตรวจวัดการทรงตัว
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

ราคาและการวางจำหน่าย 

  • OnePlus 11 5G (8GB + 128GB สีดำ Titan Black) วางจำหน่าย ราคา 29,990 บาท
  • OnePlus 11 5G (16GB + 256GB สีเขียว Eternal Green) วางจำหน่าย ราคา 32,990 บาท

 ช่องทางการจัดจำหน่าย OnePlus Experience Zone, AIS, Shopee, Lazada และ OPPO Brand shop รายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสั่งซื้อ : https://www.oneplus.com/th 

ขอขอบคุณ : บริษัท วันพลัส ประเทศไทย

https://www.siamphone.com/spec/oneplus/11.htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน