เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในประเทศไทยสำหรับ Xiaomi 13T Pro สมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่จาก Xiaomi 13T Series ขับเคลื่อนด้วยชิปเซตเรือธงตัวท็อปเอาใจสายเล่นเกมอย่าง Dimensity 9200+ โดดเด่นไม่หยุดด้วยชุดเลนส์กล้องที่ออกแบบร่วมกับ Leica โดยเฉพาะ ช่วยให้ภาพถ่ายออกมาสวยงดงามเสมือนถ่ายโดยนักถ่ายมืออาชีพ รองรับ HyperCharge 120W เต็ม 100% ภายใน 19 นาที โดยสีที่ทาง Siamphone จะมารีวิวในวันนี้คือ สี Alpine Blue

สั่งซื้อคลิก!

Shopee : https://shope.ee/3AfMQFLuPC

Lazada : https://s.lazada.co.th/s.P0KdP?cc

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Xiaomi 13T Pro สี Alpine Blue มีขนาด 162.2 × 75.7 × 8.62 มม. น้ำหนัก 200 กรัม มาพร้อมหน้าจอแสดงผล CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K FHD+ รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz และครอบทับด้วยกระจก Corning® Gorilla® Glass 5 

บริเวณส่วนบนของหน้าจอใช้ดีไซน์แบบ Punch-Hole Display กล้องหน้า ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 เหนือขึ้นไปบริเวณขอบจอเป็นลำโพงเสียง 

 

ด้านบนของตัวเครื่อง ทางซ้ายเป็นรูไมโครโฟน ตรงกลางเป็นเลเซอร์ IR และขวาสุดเป็นช่องลำโพง

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มยาวสำหรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power สำหรับล็อคหน้าจอและเปิด-ปิดเครื่อง

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง Xiaomi 13T Pro ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ

ด้านล่างของตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด รองรับ Nano SIM แบบ Dual-Slot ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนตัดเสียง พอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง และช่องลำโพงเสียงอยู่ถัดไปทางขวา

ด้านหลังของตัวเครื่อง Xiaomi 13T Pro สี Alpine Blue ดีไซน์ทำจากหนังระดับพรีเมี่ยมอย่างหนัง Xiaomi BioComfort Vegan ลวดลายหนังละเอียดสวยงาม ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มละมุน จับถือสบายไม่ลื่นมือ เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย

โมดูลกล้องจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบนูนลอยตัว ติดตั้งมาด้วยกัน 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เลนส์กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และเลนส์กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล บริเวณด้านบนกล้อง Ultra Wide เป็นไฟแฟลช LED และด้านล่างขวาโมดูลมีคำว่า Leica

สเปคเบื้องต้นของสมาร์ทโฟน Xiaomi 13T Pro

  • ขนาดตัวเครื่อง : 162.2 × 75.7 × 8.62 มม.
  • น้ำหนัก : 200 กรัม
  • หน้าจอ : CrystalRes AMOLED 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2721 x 1220 พิกเซล), รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz, ความสว่างสูงสุด 1200/2600nits, ตอบสนองต่อนิ้วสัมผัสสูงสุด 480 Hz, แสดงผลช่วงสีแบบ DCI-P3 100%, Dolby Vision®, HDR10+, PWM dimming 2880Hz และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 9200+
  • GPU : Arm Immortalis G715
  • RAM : LPDDR5X 12GB / 512GB
  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน : UFS 4.0 16GB / 1TB
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 30 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่
    • กล้องหลัก : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 เซนเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว, จุดพิกเซล 2.44µm แบบ 4-in-1 Super Pixel, รูรับแสงขนาด f/1.9, รองรับระบบกันสั่น OIS, บันทีกวิดีโอได้สูงสุดระดับ 8K
    • กล้อง Telephoto : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9
    • กล้อง Ultra Wide : ความละเอียด  12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi7, Bluetooth, NFC
  • พอร์ต USB : Type-C
  • ระบบเสียง : รองรับ Dual speakers, Dolby Atmos®
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh  HyperCharge 120W

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

จอแสดงผล CrystalRes AMOLED 144Hz

มอบประสบการณ์ในการรับชมและเล่นเกมที่ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอแสดงผล CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2712 x 1220 พิกเซล) ความสว่าง 1200 nits สูงสุดถึง 2600 nits รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz รองรับการแสดงผลคอนเทนต์ Dolby Vision® และ HDR10+ แบบ end-to-end และครอบทับด้วยกระจก Corning® Gorilla® Glass 5

 

ขับเคลื่อนด้วย MediaTek Dimensity 9200+

Xiaomi 13T Pro ใช้ชิปเซ็ตระดับเรือธงตัวท็อป MediaTek Dimensity 9200+ กระบวนการผลิต 4nm พร้อม CPU Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.35GHz, GPU ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการประมวลผลภาพโดยเฉพาะอย่าง Arm Immortalis G715 ช่วยประหยัดพลังงานอย่างมาก ภายในมีแผ่นแช่ (soaking plate) VC ที่ออกแบบด้วยเหล็กสแตนเลส ขนาด 5,000 มม. เพื่อให้สมาร์ทโฟนคงความเย็นไว้อยู่เสมอ

ป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68

เต็มเปี่ยมไปด้วยความทนทาน หมดห่วงทุกสภาพการใช้งานด้วยมาตรฐานรองรับการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 สามารถอยู่ในน้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตร ภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที

ชารจ์ไวเต็ม 100% เพียง 19 นาที

รองรับการชาร์จไว HyperCharge 120W สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ในเวลาเพียง 19 นาที และชาร์จได้ถึง 36% โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น

เล่นวิดีโอได้ยาวนานสูงสุดถึง 17 ชั่วโมง

ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้มาถึง 5000mAh และชิปเซ็ตที่ Xiaomi พัฒนาขึ้นเองอย่าง Xiaomi Surge G1 จึงทำให้ใช้งานได้ยาวนานอย่างต่อเนื่อง ไม่พลาดทุกโมเม้นที่สำคัญในแต่ละวัน

ระบบกล้องระดับมืออาชีพจาก Leica

Xiaomi 13T Pro มาพร้อมออปติคัลเลนส์ระดับมืออาชีพจาก Leica ด้วยเลนส์ LEICA VARIO SUMMICRON 1:1.9-2.2/15-50 ASPH ประกอบไปด้วย

  • กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/1.9 ที่มีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 24 มิลลิเมตร
    • พร้อมเลนส์ Aspherical 7P ที่ออกแบบมาเพื่อให้จับแสงได้มากยิ่งขึ้น มีการเคลือบ ALD หลายชั้นที่เลนส์กล้อง รวมถึงเคลือบบริเวณขอบกล้อง ช่วยลดการสะท้อนของแสงได้เป็นอย่างดี ให้ภาพที่ออกมามีความคมชัดเมื่อถ่ายในที่ย้อนแสง
    • รองรับการบันทึกวิดีโอที่ 10-bit LOG 4:2:0 H.265 ด้วย Rec.709 LUT ที่เมื่อก่อนมีแค่ในกล้องถ่ายวิดีโอระดับมือโปรเท่านั้น แต่ Xiaomi ติดตั้งมาให้ในตัวแล้ว สามารถกดใช้งานได้ในโหมด Pro > เลือก LOG > Rec. 709 LUT
    • รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K ความละเอียดระดับ Ultra-high เทียบเท่ากับโรงภาพยนต์ ที่เสริมด้วยการรองรับ OIS และ EIS ทำให้วิดีโอที่ถ่ายออกมานั้นมีความนิ่ง ไม่สั่นแม้ในขณะเดินหรือในวันที่เร่งรีบ
  • กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/1.9 ที่มีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 50 มิลลิเมตร
  • กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 ที่มีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 15 มิลลิเมตร

ดื่มด่ำกับ 2 สไตล์การถ่ายภาพอันเป็นเอกลักษณ์จาก Leica ที่จะเข้ามาช่วยปรับภาพต่างๆ ตามสภาพแสงอัตโนมัติให้ออกมาเป็นในแบบฉบับของ Leica แท้ๆ โดยที่เราไม่ต้องปรับแต่งอะไรเลย

1) Leica Authentic Look ภาพที่ได้ออกมาจะมีความเข้มของสี มีความคมชัด สมจริง เน้นไปทางธรรมชาติมากขึ้น

2) Leica Vibrant Look ภาพที่ได้ออกมาจะมีความสว่างมากขึ้น เน้นไปทางสีสันที่สดใส

 

ภาพเปรียบเทียบ

Leica Authentic Look และ Leica Vibrant Look

 

 

 

 

โหมด Pro ที่สามารถกำหนดสไตล์การถ่ายภาพ (แบบโปรๆ) ได้เองอย่างอิสระ โหมดนี้เป็นฟังก์ชั่นระดับพรีเมียมที่เปิดตัวครั้งแรกบน Xiaomi 13 Ultra  ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนโทนสี (Tone), การไล่สี (Tonality) และพื้นผิว (Texture) เองได้ ซึ่งช่วยให้สามารถรักษารายละเอียดและสีได้มากขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้ยั้งสามารถบันทึกการตังค่าที่ชื่นชอบและนำไปใช้กับภาพอื่นๆ ได้ตลอดเวลาอีกด้วย

 

แถมยังมี 2 ฟิลเตอร์ใหม่ที่มาจากโหมดฟิล์ม LeicaM-Typ240 ได้แก่ Leica Sepia และ Leica Blue เพิ่มเข้ามาให้เลือกใชัอีกด้วยนะ และอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ นั่นคือฟังก์ชันการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมอย่าง candid snapshots ที่ทำงานด้วยเทคโนโลยี Xiaomi Imaging Engine ทำหน้าที่เก็บภาพและรายละเอียดที่แม่นยำอย่างมีคุณภาพในช่วงเวลาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เสริมด้วยการโฟกัสวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ไม่ควรพลาดโดยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี Xiaomi ProFocus อีกด้วย

 

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกลายน้ำ Leica ใหม่ 4 ตัวเลือก ให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้และปรับแต่งการใช้งานตามความต้องการได้เลย ความสามารถกล้องที่ล้นหลามเสมือนมีกล้องโปรมาอยู่ในมือเราขนาดนี้ ไม่ควรพลาดจริงๆ

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

ทดสอบการเล่นเกม

ROV : หลังจากทำการปรับการตั้งค่าให้อยู่ในระดับสูงสุด สามารถปรับได้ดังนี้ ภาพ HD ระดับสูงมาก, การแสดงผล ระดับสูงมาก, พาร์ติเคิลอยู่ในระดับ 3 - สูงมาก, fps อยู่ในระดับสูง และปรับแสงอยู่ในระดับสว่างที่สุด จากการทดสอบการเล่นเกม ภาพมีความคมชัด ตัวเครื่องไม่มีอากาสร้อนใดๆ ในจังหวะที่มีการต่อสู้เยอะๆ เอฟเฟ็กต์เยอะๆ ตัวเกมลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงหรือภาพกระตุกใดๆ FPS คงที่อยู่ที่ประมาณ 59-61 ถือว่าน่าประทับใจมากๆ

PUBG Mobile : หลังจากทำการปรับการตั้งค่าให้อยู่ในระดับสูงสุด สามารถปรับได้ดังนี้ สามารถปรับกราฟิกได้เพียงสูงสุดอยู่ที่ระดับ Ultra HDR (นับว่าสูงที่สุดแล้ว เนื่องจากระดับ Extreme HDR ทางตัวเกมยังไม่เปิดให้ใช้งาน) ปรับความละเอียดภาพได้สูงสุดอยู่ที่ 4x เฟรมเรทปรับได้สูงสุดอยู่ที่ระดับ Ultra และปรับความสว่างสูงสุดได้ถึง 150% จากการทดสอบการเล่นเกม ภาพคมชัด สีสวย หากอยู่ใกล้ตัวบ้านหรือรถ สามารถเก็บรายละเอียดของภาพออกมาได้ดีมาก ลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วง แต่มีภาพกระตุกเล็กน้อยขณะขับรถในเกมแบบเร็วๆ  โดยรวมถือว่าออกมาดีมากๆ

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ระบบปฏิบัติการ

มาพร้อมระบบปฏิบัติการได้ใหม่ล่าสุดอย่าง MIUI 14 บนพื้นฐาน Android 13 ซึ่ง Xiaomi 13T Series ได้รับการยืนยันจากทาง Xiaomi เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าทั้ง 2 รุ่น จะได้รับการอัปเดต Android ถึง 4 เวอร์ชัน และแพทช์รักษาความปลอดภัยยาวนานต่อเนื่องถึง 5 ปีอีกด้วย นับว่าคุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ ใช้ได้กันไปยาวๆ เลยทีเดียว

 

หน้าตา UI

  • หน้าหลัก

  • หน้าจอล็อค

  • หน้าจอแอปพลิเคชั่น

  • แผงควบคุม

การนำทางของระบบ

การนำทางของระบบ มีให้เลือกใช้งาน 2 แบบ คือ ปุ่มและท่าทางสัมผัส สามารถไปปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลัก > การนำทางของระบบ

 

ระบบความปลอดภัยแบบยืนยันตัวตน

มีให้เลือกใช้ 2 ระบบ ได้แก่ ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือและปลดล็อกด้วยใบหน้า

 

 

การปรับอัตรารีเฟรช

Xiaomi 13T Pro มีอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 144Hz สามารถปรับแบบ Adaptive อัตโนมัติ หรือกำหนดค่า Refresh Rate เองได้ โดยเลือกให้ค่าคงที่อยู่ที่ 60Hz หรือ 144Hz ไว้ตลอดเวลา สามารถไปปรับแต่งได้โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > แสดงผล > อัตรารีเฟรช

 

 

โหมดมืด

หากไม่ชอบใช้โหมดสว่าง อยากใช้งานแบบสบายตามากยิ่งขึ้น สามารถปรับแต่งโหมดแสดงผลได้ตามความต้องการง่ายๆ เพียงแค่เข้าไปที่ การตั้งค่า > แสดงผล > โหมดมืด

 

Always-On Display

Always On Display เป็นการแสดงข้อมูลต่างๆ ในขณะพักหน้าจอ เช่น ลายเซ็นต์ที่สามารถปรับแต่งข้อความได้เอง และดีไซน์นาฬิกา มีให้เลือกปรับแต่งได้มากมาย โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลแบบเปิดตลอดและหน้าจอล็อก > จอแสดงผลแบบเปิดตลอด

 

 

ตัวประหยัดแบตเตอรี่อัลตร้า

โหมดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในช่วงเวลาที่ฉุกเฉินแบตเตอรี่เหลืออยู่ไม่มาก เนื่องจากเป็นการลดการใช้งานแบตเตอรี่โดยการแสดงผลหน้าจอในรูปแบบที่เรียบง่ายและจำกัดการใช้งานแอปพลิเคชัน สามารถเปิดใช้งานได้โดยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > ตัวประหยัดแบตเตอรี่อัลตร้า

 

 

แอปโคลน

การโคลนแอปทำให้ผู้ใช้สามารถใช้แอปเดียวกันได้ 2 แอปในสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > แอป > แอปโคลน > สร้าง

 

 

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง Xiaomi 13T Pro

 

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 1430749 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 6 ได้คะแนน Single-Core : 1206 คะแนน และ Multi-Core : 3121 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

การทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

ราคาและการวางจำหน่าย

Xiaomi 13T Pro มีมาให้เลือกกัน 3 สี ได้แก่ สีฟ้า Alpine Blue, สีเขียว Meadow Green และสีดำ Black โดยมีราคาและความจุ ดังนี้

  • 12GB + 512GB ราคา 19,990 บาท
  • 16GB + 1TB ราคา 23,990 บาท

หมายเหตุ : Xiaomi 13T Pro ความจุ 16GB+1TB มีวางจำหน่ายที่ Xiaomi Store และช่องทางออนไลน์เท่านั้น

กิจกรรมพิเศษสำหรับลูกค้า 5 ท่านแรก ของ 5 สาขาที่ร่วมรายการ ในวันที่ 7 ตุลาคม 2566

รับฟรีไปเลย! Xiaomi TV A Pro 55 และ Xiaomi Buds 3 มูลค่ารวม 20,989.-

5 สาขาที่ร่วมรายการ ได้แก่ ร้านเสียวหมี่ สโตร์ แฟชั่นไอส์แลนด์ | ร้านเสียวหมี่ สโตร์ เมกาบางนา | ร้านเจมาร์ท เอไอโอที สยามพารากอน ร้านเสียวหมี่ สโตร์ เดอะมอลล์ บางกะปิ | ร้านเสียวหมี่ สโตร์ ฟิวเจอร์พาร์ครั้งสิต

โปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้า Lazada และ Shopee

ลูกค้าที่สั่งซื้อภายในวันที่ 27 กันยายน 2566 เวลา 19.00 - 23.59 น. ภายใน 200 ออเดอร์แรก ส่งสินค้าให้ทันที!

  • ฟรี! Voucher มูลค่า 1,000.-
  • ฟรี! นาฬิกา Xiaomi Watch S1 มูลล่า 6,990.-
  • ฟรี! Adapter มูลค่าสูงสุด 1,599.-
  • ประกันตัวเครื่อง 2 ปี
  • ประกันหน้าจอแตกเปลี่ยน 1 ครั้ง ภายใน 6 เดือน

สำหรับลูกค้า AIS, TRUE และ DTAC

สามารถจอง Xiaomi 13T Series ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2566 - 6 ตุลาคม 2566 ราคาพร้อมแพ็คเกจ 12GB + 256GB เริ่มต้นเพียง 13,190.-

  • ฟรี! นาฬิกา Xiaomi Watch S1 มูลล่า 6,990.-
  • ฟรี! Adapter มูลค่าสูงสุด 1,599.-
  • ประกันตัวเครื่อง 2 ปี
  • ประกันหน้าจอแตกเปลี่ยน 1 ครั้ง ภายใน 6 เดือน

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: มนัญชยา รัตนอำพล ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 27 กันยายน 2566

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน