รีวิว Xiaomi 13T เลนส์กล้อง Leica หน้าจอคุณภาพสูง 144Hz ลำโพงคู่ Dolby ATMOS เพลินทุกการใช้งาน

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Xiaomi 13T - เสียวหมี่

Xiaomi 13T สมาร์ทโฟนทรงพลังทั้งในแง่การใช้งานและการถ่ายภาพ สำหรับรุ่นดังกล่าวเอกลักษณ์เลยคือ การมีเลนส์กล้อง Leica ที่มีคุณสมบัติปรับภาพตามสภาพแสงอัตโนมัติกับปรับโทนสีและแสงตามสภาพแวดล้อมที่ถ่าย ทำให้รูปภาพสวยมีชีวิตชีวาอย่างเป็นธรรมชาติ มาพร้อมหน้าจอคุณภาพสูง CrystalRes AMOLED อัตรารีเฟรชเรท 144Hz เพื่อการสัมผัสรายละเอียดของภาพแต่จุดพิกเซลคมชัดและราบรื่น ทั้งมีเทคโนโลยี Dolby Vision กับ HDR10+ รวมถึงลำโพงคู่สเตอริโอ มาตรฐานเสียง Dolby ATMOS จัดเต็มทุกความบันเทิงเต็มรูปแบบ

สั่งซื้อคลิก!

Shopee : https://shope.ee/3AfMQFLuPC

Lazada : https://s.lazada.co.th/s.P0KdP?cc

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์พรีเมียม สวยเป็นเอกลักษณ์ พร้อมลุยกับคุณไปทุกที่

Xiaomi 13T มี 3 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ Alpine Blue, Meadow Green และ Black โดยสองสีหลังจะเป็นพื้นผิวกระจก ส่วนสี Alpine Blue เป็นสีพิเศษ ที่ด้านหลังตัวเครื่องทำจากหนังสังเคราะห์ Xiaomi BioComfort Vegan ให้ผิวสัมผัสความรู้สึกที่นุ่ม แต่แข็งแรง ไม่เป็นคราบเหงื่อและรอยนิ้วมือ เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย โดยมีมาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP68 ทำให้คุณมั่นใจ ลุยพร้อมกับคุณไปทุกที่

หน้าจอคุณภาพสูง ดูเพลินทุกคอนเทนต์ และหน้าจอสว่างมาก!

Xiaomi 13T มาพร้อมหน้าจอประเภท CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล มีขอบเขตสีกว้าง DCI-P3 100% แสดงสีสันได้มากกว่า 68 พันล้านสี ทั้งมีเทคโนโลยี Dolby Vision และ HDR10+ กับอัตรารีเฟรชเรท 144Hz เล่นเพลิน เล่นลื่นทุกลักษณะการใช้งาน นอกจากนี้มีฟีเจอร์พิเศษ เมื่อเปิดใช้งาน Pro HDR Display ในแอปพลิเคชัน Xiaomi Gallery ด้วยหน้าจอแสดงผล CrystalRes จะใหความสว่างของหน้าจอที่มาก กว่าหน้าจอทั่วไปถึง 5 เท่า ทำใหผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การรับชมที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น เมื่อรับชมเนื้อหาแบบ HDR

การแสดงผลหน้าจอที่ลื่นไหลและทัชติดทุกการใช้งาน

สมาร์ทโฟนตามที่เกริ่นข้างต้นมีอัตรารีเฟรชเรท 144Hz เลือกปรับได้ตามลักษณะการใช้งาน 30/60/90/120/144Hz นอกจากนี้มีอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 480Hz สำหรับจุดเด่นของหน้าจอเพิ่มเติม คือ รองรับการใช้งานโหมดการแจ้ง, โหมดปรับแสงสีฟ้า, สำหรับความสว่างหน้าจอแสดงได้สูงสุด มีความสว่างหน้าจอ 1200nits สูงสุด 2600nits เลือกปรับระดับได้อัตโนมัติ อีกทั้งมีเซนเซอร์ตรวจจับแสง 360 องศา แสงหน้าจอจึงเหมาะสมทุกสภาพแสง

ประสิทธิภาพการประมวลผลระดับท็อป ทุกการใช้งานจะเพลินกว่าที่เคย

เชื่อว่าหลายคนเคยรู้สึกว่า การเปิดใช้งานเมนูใดๆ หรือเปิดแอปฯ สลับแอปฯ มีอาการหน่วงช้า ใช้ระยะเวลาในการโหลด แต่สมาร์ทโฟน Xiaomi 13T จะทลายปัญหานั้น ด้วยชิปเซ็ตระดับท็อป MediaTek Dimenstiy 8200-Ultra เทคโนโลยีการผลิต 4 นาโนเมตร มีประสิทธิภาพประมวลผลสูง แต่ประหยัดแบตเตอรี่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้มี RAM ประเภท LPDDR5 ขนาด 12GB กับเทคโนโลยีพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน UFS 3.1

ระบบเชื่อมต่อครบครัน เหมาะกับทุกลักษณะใช้งาน

Xiaomi 13T มีระบบเชื่อมต่อครบครัน รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด พร้อมเครือข่าย 5G กับ 4G LTE รวมถึงระบบเชื่อมต่ออื่นๆ อาทิ WiFi 6, WiFi 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.4, NFC, Android AUTO, Apple Car Play, IR Blaster เป็นต้น

ชาร์จแบตเตอรี่รวดเร็ว ต่อเนื่องทุกการใช้งาน

Xiaomi 13T มีแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับการชาร์จเร็วด้วยเทคโนโลยี Xiaomi 67W Turbo Charging เคลมว่าสามารถชาร์จจาก 0%-21% ได้ในระยะเวลาเพียง 21 นาที นอกจากนี้มีแผ่นสเตนเลสที่ช่วยกระจายความร้อนขณะชาร์จด้วย

ประสิทธิภาพกล้องสมาร์ทโฟน Xiaomi 13T เป็นอย่างไร

ความน่าสนใจของสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวคือ เป็นเลนส์กล้องมาตรฐาน Leica ประเภท VARIO-SUMMICRON 1:1.9-2.2/15-50mm ASPH. ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเลนส์กล้องใหญ่ แต่ตอนนี้มาอยู่ในมือถือแล้ว

เลนส์กล้องหลัก ระยะเลนส์ 24 มม. : แบบมุมกว้าง ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ ขนาด 1/1.28 นิ้ว ขนาดจุดพิกเซล 1.22μm (4IN1 Super Pixel) รูรับแสงขนาด f/1.9 มีระบบป้องกันการสั่นไหว OIS ประกอบด้วยชุดเลนส์ 7 ชิ้น รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K/30 เฟรมต่อวินาที และ HDR10+
เลนส์กล้องที่สอง Ultra-Wide : มุมมองการรับภาพ 120 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 ประกอบด้วยชุดเลนส์ 5 ชิ้น
เลนส์กล้องที่สาม Telephoto : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 ประกอบด้วยชุดเลนส์ 5 ชิ้น
กล้องหน้า : ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 ประกอบด้วยชุดเลนส์ 5 ชิ้น มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน และ Portrait mode

ลองดูสิ แล้วคุณจะหลงรักกับโหมดถ่ายภาพที่น่าตื่นตา สวยงาม น่าสนใจ!

โหมดถ่ายภาพปกติ : ด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ สามารถเลือกปรับระยะการซูมได้เลยจากหน้าเมนู (0.6, 1. 2 เท่า) โดยเลนส์หลัก ที่ให้ความคมชัดสูง ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างคมชัด แม้จะขยายภาพดู ตัวภาพก็ยังคงความละเอียดได้อย่างชัดเจน
โหมดถ่ายภาพมุมกว้าง : สามารถถ่ายภาพเก็บวิวโดยรอบอย่างครบถ้วน เพิ่มรายละเอียดได้มากขึ้น บอกเล่าเรื่องราวของภาพได้มากกว่าเดิม ด้วยมุมมองกว้าง ตัวภาพที่ออกมาสวย สมมาตร ไม่บิดเบี้ยว ดูอินเทรนด์ ทำให้ดูภาพนั่นแตกต่างออกไป
โหมดถ่ายภาพกลางคืน : ช่วยเก็บภาพในเวลากลางคืนให้มีความสว่างมากขึ้น พร้อมซอฟต์แวร์ AI ช่วยปรับภาพให้โดดเด่น สวยกว่าเดิม หรือจะปรับแต่งเองก็ได้เช่นกันด้วยโหมด PRO
โหมดถ่ายภาพบุคคล : ปรับแต่งผิวพรรณ หรือรอยหยักต่างๆ ให้หาย ด้วยภาพถ่ายโหมดดังกล่าว แค่แช๊ะ แชร์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ทันที โดยใช้อัลกอริทึม AI Portrait มาช่วยให้การถ่ายภาพดูสวยงามและมีมิติมากขึ้น จับโฟกัสของตัวแบบ และเบลอฉากหลังให้เนียนเป็นธรรมชาติ
โหมดซุปเปอร์มาโคร : ระยะ 3-7 ซม. ลองเปลี่ยนแนวถ่ายภาพ เพื่อมองเห็นอะไรในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยโหมดนี้จะซูมภาพให้คุณเห็นถึงความแตกต่าง
โหมดถ่ายภาพโคลน : เปลี่ยนท่าทางได้มากขึ้นในหนึ่งเฟรม ลองดู แล้วคุณจะสนุกกับการถ่ายภาพ โดยต้องถ่ายภาพแนวนอนเท่านั้น และถือสมาร์ทโฟนให้นิ่ง ซึ่งมีลูกเล่นให้ถ่ายแบบ ภาพนิ่ง, วิดีโอ และหยุดเฟรม

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตามที่เกริ่นข้างต้น สมาร์ทโฟน Xiaomi 13T มีดีไซน์สองแบบ คือ พื้นผิวกระจกและพื้นผิวหนังสังเคราะห์ ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์แต่อย่างใด ขอบเครื่องกับมุมตัวเครื่องจะมีความโค้งมน ทำให้จับถือถนัดกระชับมือ โดยขนาดตัวเครื่องไม่ได้หนามากเท่าไหร่นัก แต่มีน้ำหนักเยอะเกือบ 200 กรัม ถ้าใช้งานเป็นเวลานานอาจเมื่อยมือก็เป็นได้

Xiaomi 13T มีหน้าจอแสดงผลแบบเจาะรูกล้องหน้าเซลฟี่ โดยครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass 5 ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน ส่วนสเปคหน้าจอตามที่ได้กล่าวข้างต้น ส่วนเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือสามารถสแกนได้ที่กึ่งกลางหน้าจอด้านล่าง บันทึกสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ โดยการทัชสกรีนพร้อมกันรองรับ 10 จุด จึงไม่เป็นปัญหาในการเล่นเกม

เหนือหน้าจอเป็นลำโพงสำหรับสนทนา กับเหล่าเซนเซอร์ Proximity สำหรับปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา กับเซนเซอร์ Ambient Light แบบ 360 องศา สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และแผงปุ่มกดให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ด้านบนหน้าจอ ยังคงใช้ดีไซน์เจาะรู ถือว่าน่าเสียดาย ทำหน้าที่เป็นเลนส์กล้องเซลฟี่ มีความละเอียดเท่ากัน 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.24 โดยมีโหมดภาพบุคคล AI กับ AI เสริมความงาม พร้อมการควบคุมโบเก้และความลึก รองรับการถ่ายภาพแบบ HDR รวมถึงเซลฟี่พาโนรามา

ตัวเครื่องฝั่งขวามีปุ่มควบคุม แบ่งเป็น ปุ่ม Power สำหรับล็อค/ปลดล็อค/เปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่มเสียง/ลดเสียง โดยสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชั่นกดปุ่ม Power ติดต่อกันสองครั้งเพื่อเรียกใช้งานถ่ายภาพด่วน หรือกดปุ่ม Power พร้อมปุ่มลดเสียง เพื่อแคปหน้าจอ ตามการตั้งค่า

ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องลำโพง, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และช่องใส่ซิมการ์ด Nano SIM แบบ Dual-Slot โดยไม่รองรับ MicroSD Card กับไม่สามารถใส่พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรได้ นอกจากแปลงสายผ่านพอร์ต Type-C

ด้านหลังตัวเครื่องมีโมดูลกล้อง ยื่นออกมานอกตัวเครื่อง ทำให้ต้องระมัดระวังในการวาง อาจเป็นรอยเสียหายได้

อุปกรณ์ภายในกล่องของ Xiaomi 13T

สมาร์ทโฟน Xiaomi 13T
เคสใส
เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
สาย USB
คู่มือการใช้งาน

สเปคเบื้องต้นของสมาร์ทโฟน Xiaomi 13T

ระบบปฏิบัติการ : Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
ขนาดตัวเครื่อง : 162.2 x 75.7 x 8.49-8.62 มม. (ขึ้นอยู่กับเฉดสีตัวเครื่อง)
น้ำหนัก : 193-197 กรัม (ขึ้นอยู่กับเฉดสีตัวเครื่อง)
หน้าจอ : CrystalRes AMOLED 6.67 นิ้ว ความละเอียด (2721 x 1220 พิกเซล), รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz, ความสว่างสูงสุด 1200/2600nits, อัตราการตอบสนองทัชสกรีน 480 Hz, แสดงผลช่วงสีแบบ DCI-P3 100%, Dolby Vision®, HDR10+, PWM dimming 2880Hz ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
ชิปเซ็ตประมวลผล : MediaTek Dimensity 8200 Ultra
GPU : Mali G610
RAM : LPDDR5 12GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB UFS 2.1
กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่
- เลนส์กล้องหลัก ระยะเลนส์ 24 มม. : แบบมุมกว้าง ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ ขนาด 1/1.28 นิ้ว ขนาดจุดพิกเซล 1.22μm (4IN1 Super Pixel) รูรับแสงขนาด f/1.9 มีระบบป้องกันการสั่นไหว OIS ประกอบด้วยชุดเลนส์ 7 ชิ้น รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K/30 เฟรมต่อวินาที และ HDR10+
- เลนส์กล้องที่สอง Ultra-Wide : มุมมองการรับภาพ 120 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 ประกอบด้วยชุดเลนส์ 5 ชิ้น
- เลนส์กล้องที่สาม Telephoto : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 ประกอบด้วยชุดเลนส์ 5 ชิ้น
กล้องหน้า : ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
การเชื่อมต่อ : WiFi 6, WiFi 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.4, NFC, Android AUTO, Apple Car Play, IR Blaster, USB OTG
พอร์ต USB : Type-C
ระบบเสียง : รองรับ Dual speakers, Dolby Atmos
ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 67 วัตต์

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

อัปเดตระบบปฏิบัติการด้วยกันนานๆ

Xiaomi คอนเฟิร์มว่าทั้งสองรุ่นจะการันตีการอัปเดต Android ทั้งหมด 3 เวอร์ชั่น และแพทช์รักษาความปลอดภัยอีก 4 ปี เรียกได้ว่าใช้งานนานๆ กันเลยทีเดียว

ฟีเจอร์ Game Turbo

รีดประสิทธิภาพการเล่นเกมถึงจุดสูงสุด ระบายความร้อนได้ดี เครื่องไม่หน่วง รวมถึงจัดการการแจ้งเตือนไม่ให้มารบกวนระหว่างเล่นเกมอีกด้วย จึงเป็นจุดศูนย์กลางที่เกี่ยวกับเกมโดยเฉพาะ ประเด็นคือ ไม่ต้องไปเลือกตั้งค่าเองให้งง ให้วุ่นวาย แค่เปิดฟีเจอร์ Game Turbo ให้ เดี๋ยวตัวเครื่องจะจัดการให้คุณเองนะ แค่เล่นก็พอ เจ๋งใช่ไหมล่ะ!

ธีม : อีกหนึ่งทางเลือกที่เพิ่มความหลากหลายให้กับสมาร์ทโฟนของคุณ โดยเลือกธีมที่ต้องการได้เลย จากสโตร์อย่างเป็นทางการของ Xiaomi ทำให้คุณมั่นใจได้ในความปลอดภัย อีกทั้งมีตัวเลือกหลากหลายแบบ อาทิ ธีม, วอลเปเปอร์, เมนูการใช้งาน เป็นต้น

แอปพลิเคชั่นโคลน : เลือกใช้ได้สองบัญชี เพื่อสลับเปลี่ยนระหว่าง User ส่วนตัว หรือ User สำหรับการทำงานได้ง่าย ๆ ในตัวเครื่อง ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นอื่นเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก

ฟีเจอร์ล็อกแอปพลิเคชั่นและซ่อนแอปพลิเคชั่น : ป้องกันข้อมูลส่วนตัวของคุณไม่ให้รั่วไหล ด้วยฟีเจอร์การล็อกแอปพลิเคชั่น โดยสามารถตั้งได้แบบรหัสผ่าน, เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ซ่อนแอปพลิเคชั่น เรียกได้ว่าไม่มีใครรู้เลย แค่คุณและคุณเท่านั้นที่รู้ล่ะ!

หน้าจอหลักและหน้าเมนูการใช้งาน

การแจ้งเตือนและเมนูทางลัดการใช้งานด่วน

เรียกใช้งานด้วยการปัดลงมาจากหน้าจอด้านบน การปัดครั้งแรกจะเป็นเมนูที่จำเป็นต่อการใช้งานเท่านั้น เช่น WiFi, Bluetooth, ไฟฉาย, โหมดประหยัดพลังงาน เป็นต้น หากเลื่อนปัดสองครั้งจะรวมเมนูทางลัดด่วนทั้งหมด และคุณก็เลือกได้ว่าจะให้เมนูใดอยู่ตรงไหน แค่กดปุ่มแก้ไขที่ไอคอนดินสอบริเวณมุมขวาบน นอกจากนี้การแจ้งเตือนก็มีการแบ่งแยกกันในลักษณะการใช้งาน ซึ่งถ้าต้องการดูแจ้งเตือนให้ปัดฝั่งซ้ายและใช้นิ้วเลื่อนลงมา ขณะที่เข้าเมนูทางลัดด่วนให้ปัดฝั่งขวาและใช้นิ้วเลื่อนลงมาเช่นกัน

การแสดงผล

เมนูสำหรับตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอ โดยสามารถปรับระดับความสว่าง, สี หรือเลือกโหมดการใช้งานได้ อาทิ โหมดอ่านทำให้โทนสีอุ่นขึ้น เพื่อความสบายตาในการใช้งาน และตั้งเวลาได้ด้วย นอกจากนี้ยังเปลี่ยนขนาดตัวอักษรภายในเครื่องได้ ถ้าใครต้องการตัวเล็ก ตัวใหญ่ก็เปลี่ยนในเมนูขนาดอักษรได้เลย รวมถึงการเปิดใช้งานแตะหน้าจอสองครั้งติดกันเพื่อปลุกหน้าจอ หรือเปิดใช้งานโหมดแสงทึบ, โหมดฟิลเตอร์แสงสีฟ้า, การซูมหน้าจอ เป็นต้น

การตั้งค่าปุ่มทางลัด

สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น เริ่มต้นใช้งาน, เปิดใช้งานกล้องด่วน, การเลือกวิธีแคปหน้าจอ เป็นต้น

ฟีเจอร์สร้าง RAM เสมือนจริง

อย่างที่เกริ่นข้างต้น หากการใช้งานใดๆ ก็ตาม รู้สึกหน่วง ไม่ลื่นไหล สามารถเปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้ เพื่อให้ระบบสร้าง RAM เพิ่มขึ้นมา ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ ไม่ดีเลย์ช้าแล้ว

ระบบเสียงที่ปรับแต่งได้หลากหลาย

สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นสามารถเพิ่มประสบการณ์ความบันเทิงของคุณอย่างมีคุณภาพเสียงทุกท่วงทำนอง และหากคุณยังไม่ชื่นชอบกับจังหวะก็สามารถปรับแต่งได้ด้วยตนเอง

การดูแลอุปกรณ์

โดยระบบจะทำการบริหารจัดการทรัพยากรระบบสำคัญๆ เพื่อให้การทำงานของคุณไหลลื่นและเป็นปกติ จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อการใช้งานเป็นเวลานาน โดยที่ไม่ได้ทำการลบข้อมูลต่างๆ เลย