รีวิว Infinix ZERO 30 5G มือถือสำหรับสาย Vlog กล้องหน้า 4K 60fps ไม่เกินหมื่นสอง

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Infinix ZERO 30 5G Infinix ZERO 30 5G

สำหรับรุ่นดังกล่าวอัดแน่นด้วยจุดเด่นและสเปค กล้องจัดหนักทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง สามารถถ่ายวิดีโอคมชัดสูงสุด 4K 60fps ทั้งมีฟีเจอร์กล้องจัดเต็มหลากหลาย ในราคาเพียงหมื่นต้นๆ เรียกได้ว่าเขย่าวงการเลยทีเดียว คุ้มค่าคุ้มราคา โดยอัปเกรดความละเอียดกล้องขึ้นตามคอนเซ็ปต์ CAPTURE YOUR OWN STORY หรือสร้างสรรค์เรื่องราวของคุณด้วยตัวเอง จะพาไปทำความรู้จักให้มากขึ้น รายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้...

สั่งซื้อคลิก!

Shopee : https://shope.ee/B1LPf3mk7

Lazada : https://s.lazada.co.th/s.kLVNo?cc

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

Infinix ZERO 30 5G หน้าจอแสดงผลมีขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว มีขอบโค้งเล็กน้อย อัตรารีเฟรชเรท 144Hz และอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 360Hz พร้อมมาตรฐานการแสดงเฉดสีมากกว่า 10 ล้านสี ในระดับ DCI-P3 100% และมีอัตราการกะพริบหน้าจอ 2160 PWM Dimming ช่วยให้ถนอมสายตามากยิ่งขึ้นเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมแสงน้อย โดยมีความสว่างหน้าจอ 950nits

ดีไซน์ Infinix ZERO 30 5G พรีเมียมมากยิ่งขึ้นมีการครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass ทั้งด้านหน้ากับด้านหลังตัวเครื่อง ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.9 มม. ส่วนสีสันก็สวยงามน่าจับจองกับสามเฉดสี Rome Green และ Golden Hour ซึ่งมีข้อแตกต่างของทั้งสองสีคือ สีเขียว Rome Green จะเป็นวัสดุหนังวีแกน ส่วน Golden Hour ครอบทับกระจกอีกเลเยอร์หนึ่ง ความพิเศษคือ เปลี่ยนสีได้จากสีทอง (Gold) ไปเป็นสี Pink Rose

Infinix ZERO 30 5G ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 8020 RAM 8GB/12GB แต่มีฟีเจอร์สร้าง RAM เสมือน เมื่อรวมกับสเปคตัวเครื่องสามารถมี RAM ได้มากถึง 21GB กับเทคโนโลยีพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน UFS 3.1 ความจุ 256GB

ฟีเจอร์ชาร์จเร็ว 68 วัตต์ ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ชาร์จเร็วเอามากๆ ในเวลานี้เลย ไม่ต้องรอนาน แปปเดียวแบตเตอรี่ก็เต็มแล้ว นำเวลาไปทำอย่างอื่นได้สบายๆ เพราะมีความเร็วในการชาร์จมากถึง 68 วัตต์ ส่วนในกล่องแถมมาด้วยนะ! เคลมว่าชาร์จ 0%-80% ภายในระยะเวลา 30 นาที

Infinix ZERO 30 5G ใช้งานได้ต่อเนื่อง แม้โหลดมากแค่ไหน เพราะมีแผ่นระบายความร้อนมากถึง 11 เลเยอร์ เกือบครอบคลุมพื้นที่หน่วยประมวลผลทั้งหมด จึงช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากประสิทธิภาพในห้องทดลอง พบว่าลดอุณหภูมิโดยรวมลงอีก 7 องศาเซลเซียส

Infinix ZERO 30 5G มีระบบเชื่อมต่อครบครัน อาทิ 5G, 4G LTE, WiFi 6, WiFi 2.4GHz+5GHz, NFC เป็นต้น โดยลำโพงเป็นแบบสเตอริโอ พร้อมเทคโนโลยีเสียง DTS Hi-res ให้พลังเสียงดังฟังชัดแน่นทุกมิติ

สำหรับการยืนยันตัวตนของ Infinix ZERO 30 5G จะมีสองแบบ คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือกับระบบสแกนใบหน้า แค่คุณยกขึ้นให้พอดีกับใบหน้า ก็ปลดล็อคตัวเครื่องแล้ว ทั้งมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจด้วย เช่น การล็อกแอป, ตั้งค่าการเข้าถึง, เอฟเฟ็กต์ของการปลดล็อคลายนิ้วมือ เป็นต้น

โหมดประหยัดแบตเตอรี่ โหมดที่ขึ้นชื่อของแบรนด์ Infinix ก็คือ โหมดมาราธอน โคตรโหมดประหยัดแบตฯ กดเพียงครั้งเดียว ยืดเวลาเต็มเหนี่ยว ซึ่งระบบจะปิดการทำงานในส่วนของระบบที่ไม่จำเป็นออกไป

สมาร์ทโฟน Infinix ZERO 30 5G ยืนหนึ่งเรื่องกล้อง แนะนำ 3 ฟีเจอร์เด็ด

Infinix ZERO 30 5G เหนือกว่าใครด้วยกล้องหน้า 50 ล้านพิกเซลสามารถถ่ายวิดีโอความคมชัดสูง 4K พร้อมเฟรมเรท 60 FPS ให้คุณบันทึกทุกๆ ช่วงเวลาของชีวิตด้วยความละเอียดและความคมชัดอย่างประทับใจ สำหรับผู้ชื่นชอบถ่ายวิดีโอแบบภาพยนตร์ สามารถใช้โหมดถ่ายวิดีโอได้เลย พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย เสมือนคุณเป็นผู้กำกับตัวจริง

แฟลช Dual Micro-slit ให้คุณถ่ายวิดีโอได้กับแสงทุกแบบ ด้วย Phase Detection Auto Focus (PDAF) ทำให้ภาพออกมาสวย คมชัด ในทุกครั้งที่คุณถ่ายเซลฟี่หรือบันทึกวิดีโอ ใช้โหมด Movie Filter ในการถ่ายวิดิโอสัดส่วน 2.35:1 เพื่อให้ได้ภาพเสมือนถ่ายภาพยนตร์ หรือใช้ Dual View ในการถ่ายภาพเคลื่อนไหวจากกล้องทั้งสองด้าน โดยใช้กล้องหน้าและหลังไปพร้อมๆ กัน

Infinix ZERO 30 5G มาพร้อมกล้องหลังความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซลทำให้ภาพคมชัดแม้ในที่แสงน้อย ด้วยเซนเซอร์ 1/1.67 นิ้ว อีกทั้งเลนส์สามารถรับแสงได้มากขึ้นถึง 10% กว่าเลนส์ทั่วไป มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และ EIS เพื่อให้ภาพและวิดีโอไม่สั่นขณะถ่าย นอกจากมีฟีเจอร์ซูม 3 เท่าทำให้คุณได้ภาพความละเอียดสูงแม้ในระยะไกล และมีเลนส์กว้าง 120 องศา ช่วยให้เก็บทุกรายละเอียดของภาพได้ครบถ้วน

โหมดถ่ายภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ ....

โหมดถ่ายภาพทั่วไป AI CAM : โดยจะเป็นโหมดที่จะใช้ถ่ายภาพทั่วไปที่ต้องการ แบบที่ไม่ต้องปรับแต่งอะไรเลย เพราะจะมีซอฟต์แวร์ AI เป็นผู้ช่วยปรับแต่งภาพให้อัตโนมัติ ด้วยความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล เลือกถ่ายภาพได้ 3 ระดับ คือ .6x, 1x และ 3x
โหมดถ่ายภาพกลางคืน (โหมดประสิทธิภาพในที่มืด) : ช่วยเก็บภาพในเวลากลางคืนให้มีความสว่างมากขึ้น พร้อมซอฟต์แวร์ AI ช่วยปรับภาพให้โดดเด่น สวยกว่าเดิม หรือจะปรับแต่งเองก็ได้เช่นกันด้วยโหมด PRO
โหมดบิวตี้ : ปรับแต่งผิวพรรณ หรือรอยหยักต่างๆ ให้หาย ด้วยภาพถ่ายโหมดดังกล่าว แค่แช๊ะ แชร์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ทันที
โหมดถ่ายภาพบุคคล : ใช้อัลกอริทึม AI Portrait มาช่วยให้การถ่ายภาพดูสวยงามและมีมิติมากขึ้น จับโฟกัสของตัวแบบ และเบลอฉากหลังให้เนียนเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเพิ่มลูกเล่นด้วยการถ่ายภาพโคลนได้ ซึ่งมีลูกเล่นให้ถ่ายแบบ ภาพนิ่ง, วิดีโอ และหยุดเฟรม ซึ่งเลือกปรับแต่งรูรับแสง (ระยะความเบลอ) ได้ตั้งแต่ f/1.0-f/16

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

การออกแบบสมาร์ทโฟน Infinix ZERO 30 5G แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ทั่วไป โดยให้ความรู้สึกพรีเมียม แข็งแรงทนทาน พร้อมครอบทับกระจกทั้งด้านหน้าด้านหลังตัวเครื่อง โทนสีก็มีอัตลักษณ์ของแต่ละโทนสี และไม่มีรอยนิ้วมือเลย ขนาดตัวเครื่อง 162.66 x 75.89 x 8.1 มม. น้ำหนัก 187 กรัม

สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวมีมาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP53 โดยมีสองเฉดสีให้เลือก ได้แก่ Rome Green และ Golden Hour

หน้าจอแสดงผลมีขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว มีขอบโค้งเล็กน้อย อัตรารีเฟรชเรท 144Hz และอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 360Hz พร้อมมาตรฐานการแสดงเฉดสีมากกว่า 10 ล้านสี ในระดับ DCI-P3 100% และมีอัตราการกะพริบหน้าจอ 2160 PWM Dimming ช่วยให้ถนอมสายตามากยิ่งขึ้นเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมแสงน้อย โดยมีความสว่างหน้าจอ 950nits ด้านล่างหน้าจอตรงกึ่งกลางหน้าจอ เป็นตำแหน่งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าเซลฟี่แบบเจาะรูอยู่ตรงกลางหน้าจอ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Samsung ISOCELL JN1 รูรับแสง f/2.45 และเหล่าเซนเซอร์ต่าง ๆ อาทิ LIGHT SENSOR และ PROXIMITY SENSOR เป็นต้น อีกทั้งมีช่องลำโพงด้วย

ด้านบนตัวเครื่องมีช่องลำโพง และรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

ฝั่งขวาตัวเครื่อง Infinix ZERO 30 5G จะมีปุ่มควบคุม แบ่งเป็น ปุ่ม Power สำหรับล็อค/ปลดล็อค/เปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่มเสียง/ลดเสียง โดยสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชั่นกดปุ่ม Power ติดต่อกันสองครั้งเพื่อเรียกใช้งานถ่ายภาพด่วน หรือกดปุ่ม Power พร้อมปุ่มลดเสียง เพื่อแคปหน้าจอ ตามการตั้งค่า

ด้านล่างตัวเครื่องมีรูไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, ช่องลำโพง และพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือถ่ายโอนข้อมูล โดยน่าเสียดายที่ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านหลังตัวเครื่อง Infinix ZERO 30 5G ออกแบบใหม่ แต่คงแล้วแต่มุมมองเพราะโมดูลกล้องใหญ่และนูนมาก ออกมานอกพื้นผิวตัวเครื่องค่อนข้างเยอะ ทำให้ต้องระมัดระวังในการวางและจัดเก็บ เช่น ใส่กระเป๋า หรือใส่กระเป๋ากางเกง เพราะอาจขูดขีดเป็นรอย แต่นั่นคงเพราะเป็นเลนส์กล้องสามเลนส์ ความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง Infinix ZERO 30 5G
สาย USB Type-C
เคสซิลิโคน
อะแดปเตอร์ จ่ายไฟ
เข็มนำถาดซิมออก
คู่มือและใบรับประกัน

สรุปสเปคเบื้องต้น Infinix ZERO 30 5G

ขนาดตัวเครื่อง : 162.66 x 75.89 x 8.1 มม.
น้ำหนัก : 187 กรัม
ระบบปฏิบัติการ : Android 13 with XOS 13
หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว (ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล) อัตรารีเฟรชเรท 144Hz กับอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 360Hz และอัตราการกะพริบหน้าจอ 2160Hz PWM Dimming ให้ความสว่างหน้าจอสูงสุด 950nits ครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass 5
ชิปเซ็ตประมวลผล : MediaTek Dimensity 8020
GPU : Mali-G77 MC9
RAM : 12GB LPDDR4X
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB UFS3.1
ถาดซิมการ์ด : Dual SIM (nano + nano)
เลนส์กล้อง แบ่งเป็น 3 เลนส์
- เลนส์หลัก : ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ขนาด 1/1.67 นิ้ว เซนเซอร์ Samsung HM6 รูรับแสง f/1.75 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
- เลนส์สอง : Ultra-Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มุมมอง 120 องศา รูรับแสง f/2.2
- เลนส์สาม : Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- ไฟแฟลช Aura light ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 60fps
กล้องหน้า : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Samsung ISOCELL JN1 รูรับแสง f/2.45 ไฟแฟลชคู่ dual LED ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 60fps
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
ลำโพงสเตอริโอ Stereo มาตรฐานเสียง Hi-Res
ระบบเชื่อมต่อ : 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, WiFi 6, Wi-Fi 802.11 ac, Bluetooth 5.2,GPS/GLONASS, NFC
พอร์ต USB Type-C
แบตเตอรี่ : ความจุ 5000mAh ชาร์จเร็ว 68W

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

หน้าจอหลักและหน้าเมนูการใช้งาน

เมนูทางลัดการใช้งานด่วน

เรียกใช้งานด้วยการปัดลงมาจากหน้าจอด้านบน การปัดครั้งแรกจะเป็นเมนูที่จำเป็นต่อการใช้งานเท่านั้น เช่น WiFi, Bluetooth, ไฟฉาย, โหมดประหยัดพลังงาน เป็นต้น หากเลื่อนปัดสองครั้งจะรวมเมนูทางลัดด่วนทั้งหมด และคุณก็เลือกได้ว่าจะให้เมนูใดอยู่ตรงไหน แค่กดปุ่มแก้ไข

ระบบเชื่อมต่อครบครัน

อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่มีระบบเชื่อมต่อมาให้ครบครันในการใช้งาน อาทิ NFC, WiFi 2.4GHz+5GHz, WiFi Hot Spot, Android Auto, USB OTG เป็นต้น

การเปิดปุ่มควบคุม

ให้คุณควบคุมการใช้งานได้สะดวกตามต้องการ แบ่งเป็น ใช้ท่าทางในการสัมผัส, ปุ่ม 3 ปุ่ม คือ ย้อนกลับ | Home | แอปพลิเคชั่นล่าสุด

การแสดงผล

เมนูสำหรับตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอ โดยสามารถปรับระดับความสว่าง, สี หรือเลือกโหมดการใช้งานได้ อาทิ โหมดอ่านทำให้โทนสีอุ่นขึ้น เพื่อความสบายตาในการใช้งาน และตั้งเวลาได้ด้วย นอกจากนี้ยังเปลี่ยนขนาดตัวอักษรภายในเครื่องได้ ถ้าใครต้องการตัวเล็ก ตัวใหญ่ก็เปลี่ยนในเมนูขนาดอักษรได้เลย รวมถึงการเปิดใช้งานแตะหน้าจอสองครั้งติดกันเพื่อปลุกหน้าจอ หรือเปิดใช้งานโหมดแสงทึบ, โหมดฟิลเตอร์แสงสีฟ้า, การซูมหน้าจอ เป็นต้น

PHONE MASTER

ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนใหม่เสมอด้วยลูกเล่นการเคลียพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน, การตรวจสอบข้อมูลที่มีความสุ่งเสี่ยงต่อความเสียหายแก่สมาร์ทโฟนและข้อมูลส่วนตัว เป็นต้น

การโคลนแอปพลิเคชั่น

เลือกใช้ได้สองบัญชี เพื่อสลับเปลี่ยนระหว่าง User ส่วนตัว หรือ User สำหรับการทำงานได้ง่าย ๆ ในตัวเครื่อง ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นอื่นเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก