ในปี 2023 สมาร์ทวอทช์ตัวมาตรฐานของ Apple ก็เดินทางมาถึง Series 9 เป็นที่เรียบร้อย โดยชื่อเต็มๆ คือ Apple Watch Series 9 การมารอบนี้ดูไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก ซึ่งหลักๆ เป็นการเปลี่ยนชิปให้แรง และฉลาดขึ้นด้วย SiP รุ่น S9 และมีหน้าจอแสดงผลไม่กลัวแดด ด้วยการปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 2000nits ส่วนการดีไซน์ยังเป็นสีเหลี่ยมขอบมนๆ โค้งๆเหมือนเดิม แต่มีการเพิ่มตัวเลือกวัสดุให้เลือก 2 แบบคือ อะลูมิเนียม และสแตนเลสสตีล พร้อมกับขนาด 2 ตัวเลือกเหมือนเดิมคือ 45 มิลลิเมตร และ 41 มิลลิเมตร ส่วนตัวที่ได้มารีวิวจะเป็นรุ่นอะลูมิเนียม ขนาด 41 มิลลิเมตร
Shopee : https://shope.ee/6AJAianAJ7
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.PVsO2?cc
ดีไซน์เหมือนเดิม เพิ่มเติมตัวเลือกวัสดุ
Apple Watch Series 9 ยังคงใช้ดีไซน์เก่งของทาง Apple ด้วยรูปทรงแบบสี่เหลี่ยมขอบมนโค้งๆ แต่มารอบนี้มีให้เลือก 2 วัสดุคือ อะลูมิเนียม และ สแตนเลสสตีล ซึ่งสแตนเลสสตีลจะมีความแข็งแกร่งทนทานกว่า ทำให้มีราคาที่แพงกว่าเกือบเท่าตัว ส่วนขนาดตัวเรือนก็ยังมีให้เลือก 2 ขนาดคือ ขนาด 45 มิลลิเมตร และ 41 มิลลิเมตร
สายถอดใส่ได้ง่ายๆ มีให้เลือกหลายแบบ
เรื่องของสายรัดข้อมือ ก็ยังถอดใส่ได้ง่ายๆ และมีตัวเลือกให้เลือกหลากหลายแบบเช่นเคย โดยมีทั้ง Sport Loop, Sport Band, Braided Solo Loop, Solo Loop, Magnetic Link, Milanese Loop และ Link Bracelet
หน้าจอ Retina ปรับความสว่างได้สุด 2000nits
หน้าจอ Retina ของ Apple Watch Series 9 มีการปรับให้หน้าจอสว่างมากขึ้น ใช้งานได้ดีทุกสภาพแสงทั้งแสงน้อย หรือกลางแดด ซึ่งสามารถปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 2000nits และต่ำสุดที่ 1nits
ดีไซน์หน้าจอแสดงผล
Apple Watch Series 9 จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ WatchOS 10 ซึ่งมีตัวเลือกดีไซน์หน้าจอให้เลือกมากขึ้น จะทำให้ดูเป็นนาฬิกาธรรมดาเรียบๆ หรือจะแบบสายสปอร์ตบอกสถานะต่างๆ ในหน้าจอหลักก็ได้เช่นกัน สามารถเพิ่มดีไซน์หน้าปัดผ่านทางแอพฯ Watch
รองรับโหมด Always-On Display
หน้าจอ Retina ของ Apple Watch Series 9 จะรอรับโหมด Always-On Display ซึ่งสามารถให้หน้าจอติดอยู่ตลอดเวลา แต่เป็นการบอกค่าสถานะบางส่วนเท่านั้น หากเปิดใช้งานจะเป็นการกินแบตเตอรี่มากขึ้น ยังไงก็เลือกใช้งานเท่าที่จำเป็นจะดีกว่า
ชิปใหม่ SiP รุ่น S9 แรงขึ้นฉลาดขึ้น
รวมเร็วทันใจมากขึ้นด้วยชิป SiP รุ่น S9 ที่เป็นแบบ Dual-Core ทีทรานซิสเตอร์ถึง 5.6 พันล้านตัว มากกว่า S8 ถึง 60% และมีระบบ Neural Engine แบบ 4‑core ประมวลผล AI ได้เร็วขึ้นเป็น 2 เท่า
ฟีเจอร์ใหม่คำสั่งแตะ 2 ครั้ง
ด้วยชิปใหม่ SiP รุ่น S9 ทำให้ Apple Watch Series 9 สามารถใช้งานโหมดสุดว้าวอย่าง คำสั่งแตะ 2 ครั้ง ทำให้ออกคำสั่งเวลามือไม่ว่างได้ตามที่ตั้งค่าเอาไว้ เช่น เล่นเพลงหยุดเพลง, รับสาย, หยุดนาฬิกาเดินถอยหลัง, ตอบข้อความ, ดู Widget เป็นต้น (เบื้องต้นยังไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ โดยทาง Apple บอกว่าจะมีการอัปเดตภายในปี 2023)
ชิปอัลตร้าไวด์แบนด์ รุ่นที่ 2 หา iPhone ได้แม่นขึ้น
Apple Watch Series 9 มาพร้อมชิปอัลตร้าไวด์แบนด์ รุ่นที่ 2 ซึ่งช่วยให้หา iPhone ได้แม่นยำมากขึ้น ด้วยการส่งเสียง พร้อมบอกระยะความห่างได้อย่างแม่นยำ สามารถกดหา iPhone ได้ในแถบเครื่องมือด่วนที่ปุ่มล่างขวา
WatchOS 10 ปรับโฉมใหม่ให้ Apple Watch
WatchOS 10 จะมาทันทีตั้งแต่แกะกล่อง Apple Watch Series 9 ซึ่งมารอบนี้มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาแอพฯ ต่างๆ ให้ดูข้อมูลได้มากขึ้น เพื่อแอพฯ ทั้งด้านออกกำลังกาย และติดตามสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังเปลี่ยนปุ่มล่างขวาเป็นแถบเครื่องมือด่วน สามารถเปิดใช้งานได้ทุกเมื่อ แม้ว่าใช้งานแอพฯ อื่นๆ อยู่ รวมไปถึงการปัดขึ้นในหน้าจอหลัก จะเป็นการดู Widget ต่างๆ
ระบบออกกำลังกาย
โหมดออกกำลังกายยังมีให้ใช้งานแบบครบๆ พร้อมบอกข้อมูลต่างๆ ได้มากขึ้น เช่นการเดินเขาสามารถใช้ร่วมกับเข็มทิศได้ดีแบบ 3 มิติ และการปั่นจักรยาน สามารถดูโซนพลัง และดูข้อมูลสดๆ บน iPhone ได้ ส่วนการออกกำลังกายอื่นๆ ก็แสดงข้อมูลได้มากขึ้นในหน้าจอเดียวบน Apple Watch Series 9 เช่น ความเร็ว, ระยะทาง, อัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งสามารถหมุน Digital Crown ดูได้ทันที ส่วนกิจกรรมทางน้ำก็ไม่เป็นปัญหา เพราะตัวเรือนได้มาตรฐานกันน้ำ 5ATM หรือน้ำลึก 50 เมตร
ระบบติดตามสุขภาพ
ระบบติดตามสุขภาพยังมาเต็มเหมือนเดิม ไม่ว่าเป็นการติดตามการเต้นของหัวใจ, วัดค่าออกซิเจนในเลือด, ติดตามการนอนหลับ, ติดตามประจำเดือนของสุภาพสตรีม และด้านอารมณ์ ข้อมูลทั้งหมดจะมีการซิงก์ไปยังแอพฯ สุขภาพบน iPhone สามารถไปดูข้อมูลเชิงลึกที่แอพฯ ได้ แต่ที่ชอบเห็นจะเป็นการติดตามการนอนกลับ เพราะสามารถดูข้อมูล หลับติ้น, หลับฝัน, หลับตริง และหลับลึก ได้ทันทีจากแอพฯ บน Apple Watch Series 9
ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
ยังคงใช้งานร่วมกับ iPhone ด้านฟังก์ชั่นมัลติมีเดียได้ดี ทั้งการรับสายตัดสาย, ดูข้อความแจ้งเตือนพร้อมตอบกลับ, เป็นปุ่มชัตเตอร์, ควบคุมเพลง เป็นต้น ทั้งนี้หากเลือกเป็นรุ่น Cellular ก็ไม่ต้องเชื่อมต่อ Bluetooth ในการรับสายวางสาย หรือรับข้อความ
แบตเตอรี่ 1 วันต่อ 1 การชาร์จเหมือนเดิม
แบตเตอรี่ยังเป็นจุดอ่อนของ Apple Watch ต่อไป แม้ว่าจะเดินทางมากถึง Apple Watch Series 9 แล้วก็ตาม ซึ่งการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ก็แนะนำว่าใช้งานได้เพียง 1 วัน แต่สำหรับ Apple Watch Series 9 จะพิเศษขึ้นมาหน่อย ตรงรองรับโหมดประหยัดพลังงาน สามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น โดยทาง Apple เคลมว่า 36 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จจะรองรับการชาร์จเร็ว ทำให้แบตเตอรี่เต็มไวมากขึ้น ชาร์จก่อนใส่เข้านอนได้ สำหรับแป้นชาร์จจะเป็นแป้นของทาง Apple เอง โดยเป็นสายถัก พอร์ต USB Type-C
สรุปราคา Apple Watch Series 9
ในตอนนี้ Apple Watch Series 9 สามารถหาซื้อได้แล้วในประเทศไทย โดยมีให้เลือกทั้งขนาดคือ 45 มม. และ 41 มม. รุ่น GPS หรือ GPS+Cellular วัสดุอะลูมิเนียม และสแตนเลสสตีล พร้อมกับราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท สามารถตามไปดูข้อมูลเพิ่มเติม และตัวเลือกสีต่างๆ ได้ตามลิ้งค์ที่อยู่ตรงนี้ https://www.apple.com/th/shop/buy-watch/apple-watch
รีวิว vivo Watch 3 ฟีเจอร์ครบครัน สวยทันสมัย เอาใจคนรักสุขภาพ
vivo X200 Series เตรียมเปิดตัวในมาเลเซีย ส่วนไทยก็ผ่านการรับรอง กสท...
TECNO MEGAPAD 10 แท็บเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้ว แบตเตอรี่ขนาด 7000mAh
Roborock เปิดตัวไลน์อัพหุ่นยนต์ดูดฝุ่นและเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 4 รุ่...
รีวิวลำโพง Tronsmart Mirtune S100 สายปาร์ตี้พลูวิลล่าต้องมี กำลังขั...
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip 6 ครั้งแรกมือถือจอพับกันน้ำได้ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเฉดสีสไตล์มินิมอล สดใส เก๋ไก่ น่ารักเอามากๆ มี 4 เฉดสีใ...