OPPO Pad 2 แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดจาก OPPO ที่มาพร้อมประสิทธิภาพการทำงานระดับเรือธง ด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9000 ให้ความรวดเร็วในการทำงานรอบด้าน เข้าขาใช้งานร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนของ OPPO ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ ColorOS 13.1 แบบไร้รอยต่อ ไม่พอแค่นั้นไฮไลท์เด่นยังมีขนาดตัวเครื่องพกพาได้สะดวกสบาย จากความบางเพียง 6.54 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 552 กรัม พร้อมความโดดเด่นของหน้าจอที่มีอัตราส่วนพิเศษ 7:5 ให้ประสบการณ์ใหม่ใช้งานแบบกว้างๆ ดูไม่อึดอัด แถมยังหาจากแท็บเล็ต Android ทั่วไปได้ยาก นอกจากนี้ยังรองรับการการทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมทั้ง OPPO Pencil และ OPPO Smart Touchpad Keyboard เพิ่มความสะดวกในการทำงานอีกเท่าตัว
OPPO Pad 2 เป็นแท็บเล็ตทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมีขนาดรอบตัวเครื่องที่ 258.03x189.39x6.54 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 552 กรัม ถือว่าเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป และมีน้ำหนักที่พกพาติดตัวได้สะดวก
หน้าจอแสดงผล ตรงนี้เป็นจุดขายหลักของ OPPO Pad 2 ก็ว่าได้ โดยหน้าจอใช้พาแนล LED กว้าง 11.61 นิ้ว ความละเอียด 2800x2000 พิกเซล อัตราส่วน 7:5 ให้ความรู้สึกที่กว้างขึ้น และมีอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 144Hz
ขอบหน้าจอทางขวา จะพบกับกล้องหน้า ความละเอียด 8MP ใช้งานได้สะดวกเมื่อตั้งเครื่องแบบแนวนอน
ทางซ้ายตัวเครื่อง มีแผงแม่เหล็ก 3 ปุ่ม ซึ่งเป็นที่สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมเช่น เคสคีย์บอร์ด
ทางขวาตัวเครื่อง บนสุดเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และล่างสุดจะเป็นแผงแม่เหล็กเช่นกัน แต่ไว้สำหรับชาร์จ และเชื่อมต่อ OPPO Pencil
ส่วนบนตัวเครื่อง มีลำโพง 2 ฝั่งซ้ายขวา ระหว่างลำโพงมีคำเขียนไว้ว่า Dolby Vision-Atmos และทางขวาสุดเป็นปุ่มเพาเวอร์
ส่วนใต้ตัวเครื่อง OPPO Pad 2 ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และ 2 ฝั่งซ้ายขวาเป็นลำโพงเสียงอีก 2 ตัว
พลิกมาที่ฝาหลัง OPPO Pad 2 โมดูลกล้องหลังจะเป็นแบบวงกลม อยู่ทางซ้ายตรงกลาง บนนั้นมีกล้องหลัง ความละเอียด 13MP พร้อมไฟแฟลช LED นอกจากนี้ฝาหลังยังมีโลโก้ OPPO อยู่ตรงกลาง และผิวสัมผัสฝาหลังเป็นแบบด้าน แอบมีดีเดลแบบลายกลมๆ
อุปกรณ์ในกล่อง OPPO Pad 2
เด่นมาแต่ไกลคือหน้าจออัตราส่วน 7:5
OPPO Pad 2 มาพร้อมอัตราส่วนหน้าจอ 7:5 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ให้ความรู้สึกกว้างขึ้น ใช้งานดูไม่อึดอัด ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิง หรือเปิดไฟล์เอกสารก็ดูรายละเอียดได้มากขึ้น เปิดประสบการณ์ใกล้เคียงกับจอภาพของ PC รวมไปถึงกระดาษ A4 จากที่ทดลองใช้ถือว่าการท่องเว็บ ใช้งานไฟล์เอกสารค่อนข้างดีมากๆ แต่การดูวิดีโอเช่นแอพฯ Youtube หน้าจอไม่ได้ยืดกว้างให้สมส่วนกับ 7:5 และยังเป็นอัตราส่วนเท่าเดิมกับไฟล์ต้นฉบับ
ภาพคมชัด แสดงสีสวย 1.07 พันล้านสี และอัตรารีเฟรช 144Hz
ทั้งนี้หน้าจอมีความกว้างถึง 11.61 นิ้ว ความละเอียด 2800x2000 พิกเซล รองรับสีสันถึง 1.07 พันล้ายสี ปรับความสว่างได้ 500nits อัตรา Refresh Rate สูงสุด 144Hz ใช้งานได้ลื่น และได้มาตรฐาน TÜV Rheinland ในด้านกรองแสงสีฟ้า เรียกว่าเป็นอีกหน้าจอคุณภาพที่ให้มาแบบครบๆ ทั้งความกว้าง ความคมชัด การแสดงสี และอัตรารีเฟรช ไม่ว่าจะใช้งานในด้านไหนก็ทำได้หมดทั้ง ดูหนังดูซีรี่ย์ ทำงานๆ และความลื่นที่ไม่ชวนหงุดหงิด
ได้จอจะกว้างถึง 11.61 นิ้ว อัตราส่วน 7:5 แต่ยังพกได้สะดวก
ดูแค่สเปคเผินๆ อาจจะคิดว่าตัวเครื่องน่าจะใหญ่แน่ๆ เพราะมีหน้าจอที่กว้างระดับ 11.61 นิ้ว และอัตราส่วนแบบ 7:5 แต่เอาจริงๆ ตัวเครื่องมีขนาดที่กำลังดีพกพาได้สะดวก ด้วยความบางเพียง 6.54 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 552 กรัม ตรงนี้ต้องขอบคุณไปยังทีมออกแบบของ OPPO ที่ให้ OPPO Pad 2 มีหน้าจอที่กว้าง แบบตัวเครื่องไม่ต้องใหญ่ตาม ด้วยอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่ 88.14% และมีขอบจอขางเพียง 6.7 มิลลิเมตรเท่านั้น
OPPO Pad 2 แท็บเล็ตประสิทธิภาพการทำงานระดับเรือธง
ประสิทธิภาพการใช้งานถือว่า OPPO Pad 2 จัดอยู่ในแท็บเล็ตระดับเรือธง ด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9000 ที่เป็นแบบ Ultra-Core ถูกโอเวอร์คล็อกมาพิเศษให้มีความเร็ว 3.05GHz เรื่องความลื่นในการใช้งานไม่ต้องเป็นห่วง ใช้งานลื่นทุกแอพฯ ทั้งนี้ยังมีการทำงานร่วมกับ RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 8GB + RAM เสมือนอีก 8GB ทำให้มี RAM ใช้งานสูงสุดที่ 16GB ช่วยให้ใช้งานแอพฯ พื้นหลังได้สูงสุดถึง 18 แอพฯ เลยทีเดียว เรียกว่าจัดจ้านพอสมควรกับความเร็วในการทำงาน เมื่อจับคู่กับหน้าจอ 144Hz อีก จะทำอะไรๆ ก็ดูลื่นไปหมด
ทดสอบการเล่นเกม
มาแรงมาเร็วขนาดนี้ ในส่วนการเล่นเกมก็ทำได้ดีแน่นอน โดยได้ทดสอบกับเกมอย่าง PUBG Mobile ก็สามารถปรับกราฟฟิกได้ในระดับสูงสุด Ultra HDR และเฟรมเรตระดับ Ultra ซึ่งให้ภาพที่สุดเต็มกราฟ และยังมีเฟรมเรตแตะราวๆ 58-59fps ตลอดเวลา ส่วนอีกเกมได้ทดสอบกับเกม ROV เรื่องกราฟฟิกจัดเร็วไปได้เลย พร้อมดันเฟรมเรตในระดับสูง โดยการเล่นจริงก็ไม่มีปัญหา จะบวกจะปล่อยสกิลกันยังไงเฟรมเรตก็ยังนิ่งสบายราวๆ 59-61fps
บันเทิงเต็มระบบ ลำโพง 4 ตัว รองรับ Dolby Vision-Atmos
ความบันเทิง OPPO Pad 2 ก็จัดมาให้เต็มระบบ ด้วยการติดตั้งลำโพงเสียง 4 ตัว ปรับแต่งมาแบบพิเศษ โดยแต่ละลำโพงมีแอมพลิฟายเออร์แยกอิสระ และช่องเสียงขนาดใหญ่ 8.0cc ให้ประสบการณ์เสียงที่ดังมีมิติ และยังให้พลังเบสหนักแน่น ไม่พอแค่นั้นยังรองรับคอนเทนด์ Dolby Vision HDR สามารถดูคอนเทนด์คุณภาพสูง ให้แสงสีที่ดูสวยงามยิ่งขึ้น และระบบเสียง Dolby Atmos พลังเสียงระดับโรงภาพยนต์ เพลินเพลินกันคอนเทนด์สตรีมมิ่งได้เต็มที่
Multi-Screen Connect 2.0 ทำงานกับอุปกรณ์อื่นแบบง่ายๆ
OPPO Pad 2 ยังทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนของ OPPO ระบบปฏิบัติการ ColorOS 13.1 ขึ้นไป ได้ง่ายๆ เนื่องจากมีระบบ Multi-Screen Connect 2.0 และมีการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว หากมีการเชื่อมต่อแล้ว 1 ครั้ง ในครั้งต่อมาจะเชื่อมต่อให้อัตโนมัติผ่าน Bluetooth เมื่อทั้ง 2 อยู่ใกล้ๆ กัน พร้อมลงชื่อบัญชี OPPO เดียวกัน ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานมีทั้งหมด 4 อย่างด้วยกันคือ
1. Communication Sharing : สมาร์ทโฟนสามารถแบ่งเครือข่าย 5G มาให้ใช้งานอินเตอร์เน็ต แถมยังรับข้อความ และรับสายได้ทันทีจาก OPPO Pad 2 ตรงนี้จะดีกว่าการใช้งานฮิตสปอต เพราะประหยัดพลังงานลง 30%
2. Centect Sync : เป็นการแชร์หน้าจอสมาร์ทโฟนไปยัง OPPO Pad 2 แบบเรียลไทม์ พร้อมกับคัดลอกข้อความ หรือส่งไฟล์ต่างๆ ไปมาระหว่าง 2 อุปกรณ์ได้ทันที
3. APP Relay : นี้คือประสบการณ์การทำงานแบบไร้รอยต่ออย่างแท้จริง จากฟังก์ชั่น APP Re;ay จะช่วยให้ทำงานที่ค้างจากอุปกรณ์หนึ่ง ย้ายมาทำอีกอุปกรณ์ได้ทันที
4. Screen Mirroring : เป็นการแสดงหน้าจอของสมาร์ทโฟนไปยัง OPPO Pad 2 หรือเรียกง่ายๆ คือเอา OPPO Pad 2 เป็นหน้าจอแสดงผล และควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนประมาณนั้น ซึ่งยกตัวอย่างในระหว่างการประชุมเล็กๆ สามารถตั้ง OPPO Pad 2 และโชว์สไลด์ง่ายๆ จากสมาร์ทโฟนไฟนได้เลย
อุปกรณ์เสริมครบทีม OPPO Pencil และ Smart Touchpad Keyboard
นอกจากจะทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ดีแล้ว OPPO Pad 2 ยังรองรับอุปกรณ์เสริมอย่างครบครัน ทั้ง OPPO Pencil ที่เป็นปากกา Stylus ฟีลสมจริง มีความหน่วงต่ำที่ 2ms และระดับความไวต่อแรงกด 4,096 ระดับ พร้อมระดับการเขียนขอบด้านข้าง 0 - 60 องศา ช่วยให้การวาด หรือเขียนออกมาเป็นธรรมชาติ
ส่วนอีกอย่างคือ Smart Touchpad Keyboard เคสคีย์บอร์ด ช่วยให้ OPPO Pad 2 ใช้งานได้แบบโน็ตบุ๊ค ซึ่งมีทั้งแป้นพิมพ์ และมี TouchPad ในตัว ซึ่ง TouchPad ทำงานได้ไหลลื่นมากๆ เพราะรองรับท่าทางออกคำสั่งเช่่น สองนิ้วซูมเข้าออก, ปัด 3 นิ้วไปซ้ายขวาเพื่อสลับแอพฯ เป็นต้น ที่สำคัญยังเชื่อมต่อได้ง่ายเพียงจับเข้าล็อกที่แม่เหล็กด้านข้าง อย่างไรก็ตามเคสที่ได้มาตรงแป้นพิมพ์ไม่มีภาษาไทย อาจจะใช้งานได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร
แบตเตอรี่จุดๆ 9,510mAh สนับสนุนชาร์จเร็ว 67W
OPPO Pad 2 มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่พอตัว ด้วยขนาด 9,510mAh ซึ่งสามารถใช้งานดูวิดีโอต่อเนื่องได้ 12.4 ชั่วโมง ส่วนการทดสอบจริงใช้เล่นเกม ROV แบบปรับสุดไป 40 นาที แบตเตอรี่ลดลงมา 10% ทั้งนี้ยังรองรับการชาร์จเร็วผ่านสาย 67W SUPERVOOC ชาร์จจาก 2% มาเต็มในเวลา 80 นาทีเท่านั้น
การใช้งานกล้องถ่ายรูป
OPPO Pad 2 ไม่ได้ลงเน้นกับการใช้งานกล้องถ่ายรูปมากนัก โดยมีกล้องหน้า ความละเอียด 8MP สามารถถ่ายเซลฟี่ได้นิดๆ หน่อยๆ แต่จะเน้นให้ใช้งานวิดีโอคอลมากกว่า ในขณะที่กล้องหลังติดตั้งมาตัวเดียวเช่นกัน กับความละเอียด 13MP ซึ่งมีการทำงานร่วมกับ AI ในการตรวจจับซีน, มีโหมดกลางคืนมาให้ และบันทึกวิดีโอในความละเอียดสูงสุด 4K
สเปคของ OPPO Pad 2
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการของ OPPO Pad 2 ใช้เป็น ColorOS 13.1 บนพื้นฐาน Android 13 ซึ่งมีการปรับให้เข้ากับความเป็นแท็บเล็ต ใช้งานได้ง่ายๆ เวลาตั้งหน้าจอเป็นแนวนอน และยังมี UX / UI ที่ดูน่าใช้งาน อะนิเมชั่นไหลลื่น พร้อมกับฟังก์ชั่นปรับแต่งต่างๆ ที่ลงตัว
หน้าจอหลัก
หน้าจอหลักจะคล้ายๆ กับสมาร์ทโฟน ColorOS แต่สำหรับ OPPO Pad 2 มีการปรับเปลี่ยนให้มีแถบ Dock ด้านล่าง เพิ่มความสะดวกสะบายในการหาแอพฯ และมีแอพฯ ที่ใช้งานก่อนหน้าให้กดใช้งานได้ทันที ส่วนการปรับแต่งพื้นหลัง, ตัวไอคอนต่างๆ, สี และ Font ก็มีให้ปรับแต่งมากมายในการตั้งค่า > Wallpaper & Style
การแบ่งหน้าจอ Split Windows
OPPO Pad 2 สามารถแบ่งหน้าจอได้สูงสุด 3 หน้าต่างๆ โดยเป็นการแบ่งหน้าจอซ้ายขวา และ Pop-Up อีก 1 หน้าต่าง นอกจากนี้ยังสามารถเลือกจับคู่แอพฯ เอาไว้ในหน้าจอหลัก เพื่อที่เปิดใช้งาน 2 แอพฯ ที่เลือกได้ทันที
การปรับ RAM เสมือน
แม้ว่า OPPO Pad 2 จะมาพร้อม RAM แบบฮาร์แวร์สูงถึง 8GB แต่ก็ยังสามารถเพิ่ม RAM เสมือนเข้าไปได้อีกสูงสุด 8GB ทำให้รวมๆ แล้วมี RAM สูงสุดได้ที่ 16GB ซึ่งสามารถเข้าไปเพิ่มลดได้ที่ การตั้งค่า > About Device > RAM
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
สรุปราคาของ OPPO Pad 2
OPPO Pad 2 ตอนนี้เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีราคาอยู่ที่ 24,990 บาท และมีให้เลือกสีเทาเพียงสีเดียว
**** พิเศษสุด! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ OPPO Pad 2 ระหว่างวันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2566 รับฟรีทันทีของสมนาคุณรวมมูลค่าทั้งสิ้น 9,496 บาท ประกอบไปด้วย
ขอขอบคุณ : OPPO ประเทศไทย
Redmi Note 14 Pro ขุมพลัง Dimensity 7300-Ultra หน้าจอโค้งทนทาน GG V...
Beats Pill x Kim Kardashian ส่ง 2 สีพิเศษ เพิ่มความลักชูแบบเซเลบดัง
Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนพับรุ่นพิเศษ Galaxy W25 และ W25 Flip ตอบโจท...
vivo Y18t รุ่นเริ่มต้นอีกหนึ่งใน vivo Y18 Series ได้กล้องหลัง 50MP ...
HONOR 200 Smart ได้ชิปเซ็ต Snapdragon 4 Gen 2 ร่วงหล่นทนทานระดับ 5 ดาว
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip 6 ครั้งแรกมือถือจอพับกันน้ำได้ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเฉดสีสไตล์มินิมอล สดใส เก๋ไก่ น่ารักเอามากๆ มี 4 เฉดสีใ...