รีวิว vivo V40 Series 5G ‘พอร์ตเทรตเปิด เกิดทุกคน’ ชัดทุกระยะโฟกัส เอาใจสายถ่ายภาพ ด้วยกล้องเลนส์ ZEISS 50MP

vivo เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง vivo V40 Series 5G ในประเทศไทยแล้วอย่างเป็นทางการ มาด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ vivo V40 5G และ vivo V40 Pro 5G พร้อมสโลแกน ‘พอร์ตเทรตเปิด เกิดทุกคน’ เอาใจสายถ่ายภาพ ด้วยกล้องเลนส์ ZEISS คุณภาพสูงที่ให้มาถึง 50MP ทุกเลนส์ ภาพคมชัดระดับมืออาชีพ โฟกัสระยะไหนก็เกิดทุกคน เสริมด้วยโมดูลกล้องดีไซน์ใหม่ ‘Gemini Ring’ และความพิเศษที่มีครั้งแรกใน V Seires อย่างลำโพงสเตอริโอคู่และมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68

สั่งซื้อคลิก!

vivo V40 5G

• Shopee : https://s.shopee.co.th/4pwCYjklPX
• Lazada : https://s.lazada.co.th/s.KZgLb?cc

vivo V40 Pro 5G

• Shopee : https://s.shopee.co.th/9zeIiFzt93
• Lazada : https://s.lazada.co.th/s.KZgNj?cc

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

@siamphone.com จับเครื่อง vivo V40 Series 5G ก่อนวางขาย#siamphonedotcom #vivo #vivoV40Series5G ♬ เสียงต้นฉบับ - Siamphone.com

หน้าจอโค้ง 6.78 นิ้ว ดีไซน์สวยหรู ทันสมัย พร้อมโมดูลกล้องใหม่ Gemini Ring

vivo V40 Series 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED แบบโค้ง 3D Curved Screen ขนาด 6.78 นิ้ว ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.58 มิลลิเมตร เท่านั้น ถือว่าออกแบบมาได้บางมากๆ ใช้งานเป็นแนวนอนขณะเล่นเกมก็วางนิ้วได้แบบสบายๆ เลย

ความพิเศษของ vivo V40 Series 5G ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นคือ โมดูลกล้องดีไซน์ใหม่ที่มีชื่อว่า Gemini Ring ได้รับแรงบันดาลใจจากความสมมาตรอันงดงามและมีเอกลักษณ์ของกลุ่มดาวราศีเมถุน ออกแบบให้มีความโค้งมน มองแล้วชวนให้ดึงดูดสายตาสุดๆ

สำหรับ vivo V40 5G จะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สี Sunglow Peach, สี Stellar Silver และสี Nebula Purple ส่วน vivo V40 Pro จะมีให้เลือกสีเดียวเท่านั้น ได้แก่ สี Stellar Silver ทุกสีจะใช้วัสดุฝาหลังเป็นกระจกเหมือนกัน แต่จะให้ผิวสัมผัสที่แตกต่างกัน ดังนี้

สี Sunglow Peach (ซันโกลว์พีช) กระจกฝาหลังจะมีความมันเงา ลวดลายมีความโกลว์เล่นแสง ระยิบระยับตอนกระทบแสงสุดๆ เมื่อมองแล้วจะให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่นใจ คล้ายกับแสงแรกของดวงอาทิตยที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในยามเช้า เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความหวังและการเริ่มต้นใหม่

สี Stellar Silver (สเตลลาร์ ซิลเวอร์) เป็นกระจก Fluorite AG มีความกึ่งเงากึ่งด้าน ให้ความรู้สึกเรียบแต่หรูหรา คลาสสิกแต่ดูทันสมัย

สี Nebula Purple (เนบิวลา เพอเพิล) ฝาหลังจะเป็นกระจกผิวด้าน ป้องกันรอยนิ้วมือได้ดี มองแล้วเหมือนสีท้องฟ้าเวลากลางคืนที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกดาว ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา ชวนให้หลงใหลเหนือกาลเวลา

กล้องระดับมืออาชีพ ถ่ายสวยไม่แพ้ใคร 

vivo V40 Series 5G มาพร้อมกล้องหน้า ZEISS ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ JN1 ขนาด 1/2.76 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/2.0 ส่วนกล้องหลังจะมีสเปคเหมือนกันเกือบทั้งหมด เพียงแต่ vivo V40 Pro 5G จะมีกล้องหลังเพิ่มมาให้อีกตัว สเปคกล้องหลัง มีดังนี้

• vivo V40 5G

• • กล้องหลัก ZEISS : ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ GNJ ขนาด 1/1.56 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/1.88, รองรับกันสั่น OIS
  • กล้อง ZEISS Ultra Wide-Angle : ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ JN1 ขนาด 1/2.76 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/2.0

• vivo V40 Pro 5G

• • กล้องหลัก ZEISS : ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ Sony IMX921 ขนาด 1/1.56 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/1.88, รองรับกันสั่น OIS
  • กล้อง ZEISS Ultra Wide-Angle : ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ JN1 ขนาด 1/2.76 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/2.0
  • กล้อง ZEISS Telephoto Portrait : ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX816 ขนาด 1/2.93 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/1.85, รองรับกันสั่น OIS

vivo V40 Series 5G มาพร้อม ZEISS Multifocal Portrait เป็นเทคโนโลยีกล้องที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการถ่ายภาพโหมดพอร์เทรตให้มีคุณภาพสูงขึ้นและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมทุกระยะโฟกัสระดับมืออาชีพให้เลือกถ่ายดังนี้

ระยะโฟกัสบน vivo V40 5G มีให้เลือกทั้งหมด 3 ระยะโฟกัส ได้แก่

• 24 mm : เหมาะสำหรับการถ่ายภาพแนวท่องเที่ยว
• 35 mm : เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลและบรรยากาศ
• 50 mm : เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลแบบครึ่งตัว

และในส่วนของระยะโฟกัสบน vivo V40 Pro 5G จะมีเพิ่มมาให้อีก 2 ระยะ ได้แก่

• 85 mm : เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลแบบช่วงหน้าอกขึ้นไป
• 100 mm : เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่เน้นใบหน้าและการสื่ออารมณ์

ฟีเจอร์สำหรับการถ่ายภาพที่น่าสนใจ

ระบบ Aura Light อัปเกรดใหม่ : ระบบ Aura Light ใน V40 Series 5G ได้รับการอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเพิ่มความสว่างขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งการเพิ่มความสว่างนี้จะช่วยให้ภาพถ่ายมีความสดใสและชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแสงที่ไม่ดี เช่น ในที่ร่มหรือเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังช่วยลดเงาและเพิ่มรายละเอียดของภาพ ทำให้ภาพดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

รูปตัวอย่างปิด - เปิด Aura Light

 

 

เทคโนโลยีควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ : ฟีเจอร์นี้ใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุมแสงอย่างละเอียด เพื่อให้ได้แสงที่นุ่มนวลและมีการกระจายที่สม่ำเสมอทั่วทั้งภาพ ช่วยให้รายละเอียดในภาพถ่ายที่อยู่ไกลๆ ไม่มืดหรือเบลอ โดยแสงที่ถูกควบคุมอย่างดีจะช่วยให้ภาพที่ได้มีความคมชัดมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพที่มีระยะลึกหรือระยะไกล แสงที่เพิ่มความสว่างยังช่วยให้สีสันในภาพมีชีวิตชีวาและคมชัดมากยิ่งขึ้น

 

 

AI 3D Studio Lighting : เป็นครั้งแรกที่ V Series ได้นำ AI 3D Studio Lighting มาใช้ โดยเป็นอัลกอริธึมที่ช่วยในการปรับแสงอย่างอัจฉริยะ ด้วยการวิเคราะห์แสงและเงาในภาพแบบ 3 มิติ ทำให้การเติมแสงบนใบหน้าหรือวัตถุมีความสมจริงมากขึ้น AI จะช่วยปรับแสงให้เหมาะสมกับลักษณะของใบหน้าหรือวัตถุ ทำให้ภาพถ่ายดูเป็นธรรมชาติ ลดปัญหาแสงมากเกินไปหรือไม่เพียงพอในบางจุด ทำให้ภาพถ่ายที่ได้ดูเหมือนถ่ายในสตูดิโอระดับมืออาชีพ

 

 

เร็วแรงไม่สะดุด ด้วยชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูง

vivo V40 5G ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 เป็นชิปเซ็ตที่ใช้สถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร มาพร้อมกับคอร์ประมวลผลหลายตัวที่รวมคอร์ประสิทธิภาพสูงและคอร์ประหยัดพลังงาน รองรับการเชื่อมต่อ 5G และมีกราฟิก Adreno GPU รุ่นใหม่เพื่อให้การเล่นเกมและการใช้งานทั่วไปมีความราบรื่น ทำให้มีประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ดีขึ้นและการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วน vivo V40 Pro 5G ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9200+ เป็นชิปเซ็ตระดับเรือธงที่ใช้สถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร มาพร้อมกับคอร์ประมวลผลที่มีความเร็วสูงและคอร์ประหยัดพลังงาน รวมถึงกราฟิก Mali-G715 ที่ช่วยให้การเล่นเกมและการใช้งานกราฟิกมีความลื่นไหล นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G และ Wi-Fi 7 ออกแบบมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงและการจัดการพลังงานที่ดีเยี่ยม

แบตเตอรี่ 5500mAh BlueVolt รองรับการชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมแบตเตอรี่ 5500mAh BlueVolt ถือว่าให้มาแบบจุใจมากๆ เหลือๆ สำหรับการใช้งานแบบตลอดทั้งวันเลยทีเดียว และแม้ว่าความจุที่ให้มาจะเยอะขึ้น แต่ขนาดและความบางของแบตเตอรี่นั้นเล็กลงกว่าเดิม แถมยังรองรับการชาร์จเร็ว 80W FlashCharge ด้วย

Extended RAM 12GB + 12GB พร้อม ROM สูงสุด 512GB

มี Extended RAM 12GB + 12GB ทำให้ได้ RAM สูงสุดถึง 24GB พร้อม ROM ขนาดใหญ่ที่ให้มาสูงสุดถึง 512GB ถือว่าให้มาเยอะมากจริงๆ เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานในชีวิตประจำวันเลย ช่วยลดอาการหน่วงของแอปฯ และช่วยให้สมาร์ตโฟนสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด

ลำโพงคู่สเตอริโอ กระหึ่มรอบทิศ สมจริงมีมิติ

ครั้งแรกของ V Series กับระบบลำโพงคู่สเตอริโอ (Dual Stereo Speaker) พร้อมระบบเสียง 3 มิติ เพิ่มเสียงเบสให้ดูมีชีวิตชีวา มอบประสบการณ์ด้านเสียงดีขึ้นด้วยการสร้างภาพเสียงที่มีมิติและการกระจายเสียงในหลายทิศทาง ทำให้การฟังเพลง, ดูวิดีโอ และเล่นเกมมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น

ทนน้ำและทนฝุ่นระดับ IP68

vivo V40 Series 5G ได้รับมาตรฐานการทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP68 เต็มเปี่ยมไปด้วยความทนทาน หมดห่วงทุกสภาพการใช้งาน สามารถอยู่ในน้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตร ภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที

สเปคเบื้องต้นของ vivo V40 5G

• ขนาด : 164.16 × 74.93 × 7.58 มม.
• น้ําหนัก : 190 กรัม
• หน้าจอแสดงผล :  AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2800x1260 พิกเซล), รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน 4500nits, ขอบเขตสี 100% DCI-P3, ความอิ่มตัวของสี 105% NTSC, ความหนาแน่นของพิกเซล 452 PPI
• ชิปเซ็ต : Snapdragon 7 Gen 3 (4nm)
• GPU : Adreno 720
• RAM : 12GB (LPDDR4X)
• พื้นที่จัดเก็บภายใน : 256GB / 512GB (UFS 2.2)
• ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14
• ซิม : รองรับ Dual SIM (nano + nano)
• กล้องหลัง ZEISS 2 ตัว ได้แก่
  • กล้องหลัก ZEISS ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ GNJ ขนาด 1/1.56 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/1.88, รองรับกันสั่น OIS
  • กล้อง ZEISS Ultra Wide-Angle : ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ JN1 ขนาด 1/2.76 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/2.0
• กล้องหน้า ZEISS : ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ JN1 ขนาด 1/2.76 นิ้วพร้อมรูรับแสง f/2.0
• ระบบความปลอดภัย : เซนเซอร์ลายนิ้วมือบนหน้าจอ, สแกนใบหน้า
• การเชื่อมต่อ : 5G/4G LTE/3G/2G, Wi-Fi 6, WLAN 2.4GHz/5GHz, GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, Bluetooth 5.4, OTG, NFC
• ระดับการทนน้ำทนฝุ่น : IP68
• พอร์ต : USB Type-C
• แบตเตอรี่ : 5500mAh BlueVolt รองรับการชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

สเปคเบื้องต้นของ vivo V40 Pro

• ขนาด : 164.16 × 74.93 × 7.58 มม.
• น้ําหนัก : 192 กรัม
• หน้าจอแสดงผล :  AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2800x1260 พิกเซล), รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน 4500nits, ขอบเขตสี 100% DCI-P3, ความอิ่มตัวของสี 105% NTSC, ความหนาแน่นของพิกเซล 452 PPI
• ชิปเซ็ต : Mediatek Dimensity 9200+ (4nm)
• GPU : Immortalis-G715
• RAM : 12GB (LPDDR5X)
• พื้นที่จัดเก็บภายใน : 512GB (UFS 3.1)
• ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14
• ซิม : รองรับ Dual SIM (nano + nano)
• กล้องหลัง ZEISS 3 ตัว ได้แก่
  • กล้องหลัก ZEISS ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ Sony IMX921 ขนาด 1/1.56 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/1.88, รองรับกันสั่น OIS
  • กล้อง ZEISS Ultra Wide-Angle : ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ JN1 ขนาด 1/2.76 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/2.0
  • กล้อง ZEISS Telephoto Portrait : ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ IMX816 ขนาด 1/2.93 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/1.85, รองรับกันสั่น OIS
• กล้องหน้า ZEISS : ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ JN1 ขนาด 1/2.76 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/2.0
• ระบบความปลอดภัย : เซนเซอร์ลายนิ้วมือบนหน้าจอ, สแกนใบหน้า
• การเชื่อมต่อ : 5G/4G LTE/3G/2G, Wi-Fi 7, Wi-Fi 6, WLAN 2.4GHz/5GHz, GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, Bluetooth 5.3, OTG, NFC
• ระดับการทนน้ำทนฝุ่น : IP68
• พอร์ต : USB Type-C
• แบตเตอรี่ : 5500mAh BlueVolt รองรับการชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

vivo V40 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น มีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 164.16 × 74.93 × 7.58 มม. เท่ากัน แต่น้ำหนักต่างกันเล็ก vivo V40 5G มีน้ำหนักอยู่ที่ 190 กรัม ส่วน vivo V40 Pro 5G จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 192 กรัม ถือว่าเป็นขนาดที่กำลังพอดีมือ พอพาใส่กระเป๋ากางเกงได้ และไม่รู้สึกหนักเมื่อถือเล่นเป็นเวลานานๆ 

โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2800x1260 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน 4500nits ด้านบนของหน้าจอ กล้องหน้า ZEISS ดีไซน์เจาะรู Punch-Hole ความละเอียด 50MP พร้อมรูรับแสง f/2.0 เหนือขึ้นไปบริเวณขอบจอเป็นลำโพงเสียง

ด้านบนของตัวเครื่อง ตรงกลางจะมีคำว่า Professional Portrait ถัดไปด้านขวาเป็นไมโครโฟนคู่สำหรับตัดเสียงรบกวน

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มยาวสำหรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power สำหรับล็อคหน้าจอและเปิด-ปิดเครื่อง

ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ

ด้านล่างของตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ Dual SIM รองรับ Nano SIM 2 ช่อง ถัดมาเป็นไมโครโฟนตัดเสียง พอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง และช่องลำโพงเสียงอยู่ถัดไปทางขวา

สำหรับด้านหลังของตัวเครื่องจะพบกับโมดูลกล้องดีไซน์ใหม่ที่มีชื่อว่า Gemini Ring

vivo V40 Series 5G มีสเปคกล้องที่เหมือนกันเกือบทั้งหมด โดย vivo V40 5G จะมีกล้องหลังมาด้วยกัน 2 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องหลัก ZEISS ความละเอียด 50MP และกล้อง ZEISS Ultra Wide-Angle ความละเอียด 50MP ส่วน vivo V40 Pro 5G จะมีกล้องเพิ่มมาอีกหนึ่งตัว เป็นกล้อง ZEISS Telephoto Portrait ความละเอียด 50MP

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

 

 

 

 

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ระบบปฏิบัติการ

มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 14 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ครอบทับด้วย Funtouch OS 14

 

 

หน้าตา UI (ด้านซ้ายของ vivo V40 5G ด้านขวาของ vivo V40 Pro 5G)

• หน้าจอหลัก

 

• หน้าจอล็อค

 

• หน้าจอแอปพลิเคชั่น

 

เมนูทางลัดการใช้งานด่วน

 

การนำทางระบบ

 

รหัสผ่านและการรักษาความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัย มีทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และระบบสแกนใบหน้า

สามารถไปที่ การตั้งค่า > ความปลอดภัย > ลายนิ้วมือ / ใบหน้า

 

อัตราการรีเฟรชจอภาพ

สามารถเข้าไปปรับได้ตามความต้องการ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > การจอแสดงผลและความสว่าง > อัตราการรีเฟรชหน้าจอ

 

Always on Display

โหมด Always On Display เป็นการแสดงข้อมูลที่จำเป็นในขณะพักหน้าจอ มีให้เลือกปรับแต่งมากมายตามการต้องการทั้งแบบฟรีและเสียเงิน โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลักและวอลเปเปอร์ > แสดงเสมอ

 

การทดสอบความเร็วและการแสดงผล

• vivo V40 5G

• • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 817612 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 6 ได้คะแนน Single-Core :  1161 คะแนน และ Multi-Core : 3162 คะแนน
  • ผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK (Wild Life Extreme) : 1483 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

 

 

• vivo V40 Pro 5G
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 1451286 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 6 ได้คะแนน Single-Core :  2082 คะแนน และ Multi-Core : 5523 คะแนน
  • ผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK (Wild Life Extreme) : 3751 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

 

 

การทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box บน vivo V40 5G และ vivo V40 Pro 5G พบเซ็นเซอร์ ดังนี้

• Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
• Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
• Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
• Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
• Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
• Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
• Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

ราคาและการวางจำหน่าย

vivo V40 5G

• ความจุ 12GB + 256GB วางจำหน่ายในราคา 15,999 บาท
• ความจุ 12GB + 512GB วางจำหน่ายในราคา 17,999 บาท

vivo V40 Pro 5G

• ความจุ 12GB + 512GB วางจำหน่ายในราคา 24,999 บาท

โปรโมชั่นสำหรับ vivo V40 Series 5G

พิเศษสำหรับ vivo fans ที่สั่งซื้อภายในวันที่ 2 กันยายน - 30 กันยายน 2567 จะได้สิทธิ์รับของสมนาคุณมูลค่ารวมสูงสุดกว่า 12,298 บาท ประกอบด้วย 

• หูฟัง vivo TWS 3e  (มูลค่า 1,799 บาท เฉพาะผู้ที่ซื้อรุ่น V40 Pro 5G) 
• V40 Series 5G Premium Gift Box (มูลค่ารวม 10,499 บาท) ภายในประกอบด้วย เคสใส 1 ชิ้น ตัวยึดกับเคสสีพีช 1 ชิ้น สายคล้องข้อมือแบบเชือกสีดำ 1 ชิ้น กระเป๋าใส่เหรียญสีดำ 1 ใบ และ E-VIP รับประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ภายใน 2 ปีแรก 

พิเศษยิ่งขึ้น! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อในรูปแบบ Walk-In ภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 1 กันยายน 2567 ณ vivo Brand Shop ทุกสาขา รับเพิ่มทันที! หูฟัง vivo TWS 3e สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ V40 5G และส่วนลด 500 บาท สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ V40 Pro 5G