iPhone 16 Pro Max พี่ใหญ่สุดใน iPhone 16 Series มารอบนี้จัดแบบเบิ้มๆ (มั้ง!) ด้วยการเพิ่มขนาดหน้าจอเป็น 6.9 นิ้ว และขอบ Bezel ของหน้าจอที่แคบลง ส่วนไฮไลท์ที่ชวนว้าวนิดๆ ก็คือ Camera Control เข้ามาเติมเต็มการใช้งานกล้องถ่ายรูปที่สะดวกมากขึ้น พร้อมอัปเกรดกล้องถ่ายรูปให้สมกับชื่อ Pro Max ไม่ว่าจะถ่ายภาพนิ่ง หรือบันทึกวิดีโอก็มีความสวยคมชัดมากขึ้น
Shopee : https://s.shopee.co.th/701WNxyo3I
Lazada : https://c.lazada.co.th/t/c.YcIWI8?sub_aff_id=siamphone
iPhone 16 Pro Max ยังใช้ดีไซน์แบบกล่องขอบแบนเหมือนเดิม และวัสดุเบาทนทานอย่างไทเทเนียม มีขนาดรอบตัวเครื่องที่ 163x77.6x8.25 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 227 กรัม หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2868x1320 พิกเซล รองรับ ProMotion ที่ 120Hz เป็นหน้าจอแบบ Flat
เหนือหน้าจอแสดงผล iPhone 16 Pro Max มีรอยแหว่งแบบ Dynamic Island ในนั้นมีกล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12MP พร้อมแผงเซนเซอร์ FaceID ส่วนขอบหน้าจอด้านบนเป็นลำโพงเสียง
ล่างหน้าจอแสดงผลไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ
ซ้ายตัวเครื่อง ไล่มาจากข้างบนสุดเป็นปุ่ม Action ถัดมาเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และล่างสุดเป็นช่องใส่ซิมกาดแบบ Nano SIM
ข้างขวาตัวเครื่อง มีปุ่มเพาเวอร์ และล่างสุดเป็นลูกเล่นใหม่ Camera Control
ส่วนบนตัวเครื่อง iPhone 16 Pro Max ไม่มีปุ่ม หรือพอร์ตใช้งานใดๆ
ใต้ตัวเครื่องยังใช้พอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง และทางซ้ายทางขวาเป็นช่องลำโพง และไมโครโฟน
พลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง iPhone 16 Pro Max โมดูลกล้องหลังยังเป็นทรงสี่เหลี่ยม และมีกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 48MP, กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP และกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 48MP นอกจากนี้ยังมีไฟแฟลช LED และตรงกลางฝาหลังเป็นโลโก้ Apple
อุปกรณ์ในกล่อง
สีเด่นในปีนี้ Titanium Desert
ถือว่าเป็นธรรมเนียมของ iPhone ที่เปิดตัวในแต่ละปีก็ว่าได้ ในเรื่องของสีไฮไลท์ของปีนั้นๆ โดย iPhone 16 Pro Max และ iPhone 16 Pro ในปี 2024 จะได้สี Titanium Desert หรือภาษาไทย ไทเทเนียมทะเลทรายเป็นสีชูโรง สำหรับสี Titanium Desert จะมีความเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ และขอบมีความเป็นสีน้ำตาลเข้ม
วัสดุไทเทเนียม ปรับดีไซน์ภายในร้อนน้อยลง
วัสดุที่ใช้งานยังเป็นดีไซน์แบบไทเทเนียม เกรด 5 ซึ่งมีความทนทานสูง แต่มีน้ำหนักที่เบา แต่สิ่งที่ปรับเปลี่ยนมาคือการออกแบบภายใน มีการใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% พร้อมกระจกด้านหลังแบบใหม่ ทั้งคู่ช่วยให้มีการประจายความร้อนได้ดีขึ้นจากรุ่นก่อน 20% จากที่ใช้ก็ยังมีความร้อนอยู่ แต่ความรู้สึกมันก็บอกว่าดีขึ้นเล็กน้อย
ที่ควบคุมกล้อง Camera Control
นี้คือจุดขายของ iPhone 16 Pro Max และ iPhone 16 Series ทั้งหมด ทาง Apple ไม่ได้เรียกว่านี้คือปุ่ม แต่ใช้คำว่าที่ควบคุมกล้อง หรือ Camera Control แทน แต่เอาจริงๆ มันก็คือปุ่มนั้นแหละ โดยมีการทำงานแบบกดลงไป และสัมผัสทิ้งน้ำหนักลงไป หรือเรียกว่า Haptic Feedback จากการที่ลองใช้งานก็ถือว่าต้องมีการเรียนรู้ซักระยะ เพื่อใช้ชินกับการใช้งาน Camera Control ส่วนวิธีการใช้งานอยู่ทางด้านล่าง
อัปเกรดกล้องหลัง Ultra-Wide 48MP
ในเรื่องของกล้องหลัง ยังมีการติดตั้งกล้องมา 3 ตัว แต่กล้อง Ultra-Wide มีการปรับความละเอียดให้เป็น 48MP ออโต้โฟกัส ส่วนกล้องหลัก Fusion Camera ยังเหมือนเดิม ความละเอียด 48MP รองรับ Focal length 24mm, Quad-pixel 2.44um และ 100% Focus Pixel ส่วนกล้องอีกตัวเป็น Telephoto ความละเอียด 12MP รองรับการซูมแบบ Optical 5 เท่า ในขณะที่กล้องหน้าก็ยังมีความละเอียด 12MP ถ่ายเซลฟี่แบบสมจริงเหมือนเดิม ไม่มีปรับแต่งเยอะ
ส่วนโหมดที่เพิ่มเข้ามา จะเป็นในเรื่องของ Style หรือฟิลเตอร์ ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้หลากหลายมากขึ้น และยังปรับแต่งได้ตามความต้องการอีกด้วย
รองรับบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 120fps
การถ่ายวิดีโอยังเป็นจุดเด่นของ iPhone 16 Pro Max โดยมารอบนี้สามารถบันทึกวิดีโอ Dolby Vision ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 4K ที่ 120fps ใครที่ชอบถ่ายแนว Slowmotion น่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ นอกจากนี้การบันทึกวิดีโอยังมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เพราะไมโครโฟนที่ติดตั้งมา 4 ตัวนั้น เป็นแบบที่ใช้ในสตูดิโอ
ชิปเซ็ต A18 Pro แรกตามฉบับ Apple
เรื่องของชิปเซ็ตก็มีการอัปเกรดขึ้นมาตามปกติของ iPhone ในทุกๆ ปี ซึ่ง iPhone 16 Pro Max จะได้เป็น A18 Pro แน่นอนว่าเป็นตัวแรง และประหยัดพลังงานมากขึ้น สามารถเล่นเกมในระดับ AAA แบบภาพสวยๆ ใช้งาน Ray Tracing ดีขึ้น 2 เท่า ส่วนการทำงาน CPU มีความเร็วขึ้น 15% และประมวลผลภาพ GPU ได้เร็วขึ้น 20%
ทดสอบการเล่นเกม
ในการทดสอบเล่นเกมได้ใช้เกม Genshin Impact สามารถปรับกราฟฟิกแบบสูงสุดได้ และที่สำคัญยังปรับเฟรมเรตเป็น 120fps ได้แบบเดิม แต่หากปรับสุดหมดแบบนี้เล่นไปแปปเดียวเครื่องจะมีความร้อนสูงมาก ยังไงก็แนะนำให้ปรับเฟรมเรตลดลงมา เพื่อการเล่นแบบยาวๆ จะดีกว่า
แบตเตอรี่ที่อึดขึ้น รองรับชาร์จเร็วมากขึ้น
iPhone 16 Pro Max จะเป็น iPhone ที่มีแบตเตอรี่้ใช้งานได้นานสุดเท่าที่เคยมีมา สามารถเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้ 33 ชั่วโมง ไม่พอแค่นั้นยังรองรับการชาร์จเร็วผ่านสายสูงสุด 30W หรือสูงกว่านั้น ส่วนการชาร์จไร้สาย MagSafe จะชาร์จเร็วขึ้นเป็น 25W
หน้าจอสเปคเหมือนเดิม แค่ได้กว้างเป็น 6.9 นิ้ว
หน้าจอแสดงผลมีการเพิ่มความกว้างมากขึ้นเป็น 6.9 นิ้ว แต่สเปคอื่นๆ ยังเหมือนเดิม โดยเป็น Super Retina XDR พาแนล OLED ความละเอียด 2622x1206 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi มีอัตรารีเฟรช ProMotion 120Hz และรองรับโหมด Always-On ส่วนรอยแหว่งยังเป็น Dynamic Island
สเปคของ iPhone 16 Pro Max
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ราคาวางจำหน่าย iPhone 16 Pro Max
ราคาวางจำหน่ายสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่ 13 กันยายน เวลา 19.00 และหาซื้อได้ที่ตัวแทนชั้นนำทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนเป็นต้น
ราคา iPhone 16 Pro Max
OPPO Enco Air4 และ OPPO Pad 3 Pro คู่หูอุปกรณ์ IoT สุดล้ำที่พร้อมตอ...
ROG Phone 9 Series กับฟังก์ชัน AniMe Vision display และลูกเล่น AI เ...
Samsung Galaxy S25 Series สรุปข่าวลือล่าสุดก่อนเปิดตัวต้นปี 2025
OPPO Find X8 Series สมาร์ทโฟนแฟลกชิปพลัง AI ซูมไกล 120 เท่า ด้วย AI...
Redmi ฉลอง 11 ปี ปล่อยโลโก้ใหม่! พร้อมเปิดตัว Redmi K80 เรือธงสเปคจ...
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip 6 ครั้งแรกมือถือจอพับกันน้ำได้ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเฉดสีสไตล์มินิมอล สดใส เก๋ไก่ น่ารักเอามากๆ มี 4 เฉดสีใ...