รีวิว iPhone 16 ยกระดับความแรงชิป A18 ได้ใช้ Camera Control เหมือนกัน

โดย ปิตุภูมิ นันทวิทยา โดย สิรภพ ผิวทอง

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

iPhone 16 เป็นน้องเล็กสุดใน iPhone 16 Series แต่ก็ถูกยกระดับความแรงด้วยชิป A18 พร้อมรองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ ในอนาคตอาทิ Apple Intelligent เป็นต้น ไม่พอแค่นั้นยังได้ใช้ฟังก์ชั่นใหม่ Camera Control เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ในซีรี่ย์ และด้านดีไซน์มีการปรับเปลี่ยนการจัดวางกล้องหลังแบบใหม่ โดยจัดวางเป็นแนวตั้ง ให้ความรู้สึกย้อนยุคเหมือน iPhone X ส่วนหน้าจอแสดงผลยังเหมือนเดิม Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.1 นิ้ว แต่เรื่องของแบตเตอรี่มีความอึดขึ้นเล็กน้อย

สั่งซื้อคลิก!

Shopee : https://s.shopee.co.th/3VReD5f2XK

Lazada : https://c.lazada.co.th/t/c.YcIWrw?sub_aff_id=siamphone

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

iPhone 16 มีดีไซน์ตัวเครื่องแบบกล่องขอบแบนเหมือนเดิม โดยมีขนาดอยู่ที่ 147.6x71.6x7.8 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 170 กรัม

หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR พาแนล OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2556x1179 พิกเซล ความละเอียดพิกเซล 460ppi

เหนือหน้าจอแสดงผลใช้รอยแหว่งแบบ Dynamic Island ในนั้นมีกล้องหน้า True Depth ความละเอียด 12MP และแผงเซนเซอร์สำหรับ FaceID ส่วนขอบหน้าจอด้านบนมีลำโพงเสียง

ล่างหน้าจอแสดงผลไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ

ซ้ายตัวเครื่อง iPhone 16 ไล่มาจากข้างบนสุดเป็นปุ่ม Action ถัดมาเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และล่างสุดเป็นช่องใส่ซิมกาดแบบ Nano SIM

ข้างขวาตัวเครื่อง iPhone 16 มีปุ่มเพาเวอร์ และล่างสุดเป็นลูกเล่นใหม่ Camera Control แม้ว่า iPhone 16 จะเป็นรุ่นเล็กสุดในซีรี่ย์ แต่ก็มาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ Camera Control เอาใจสายคอนเทนด์แบบเต็มสูบ

ใต้ตัวเครื่องยังใช้พอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง และทางซ้ายทางขวาเป็นช่องลำโพง และไมโครโฟน

ฝาหลัง iPhone 16 ใช้วัสดุแบบกระจกแต่งสี เน้นความสดใส และโมดูลกล้องหลังปรับเป็นแนวตั้งแบบเม็ดแคปซูล ในนั้นมีกล้อง 2 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 48MP และกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12MP ส่วนไฟแฟลช LED จะอยู่ข้างขวาของโมดูล และตรงกลางของฝาหลังเป็นโลโก้ Apple

อุปกรณ์ภายในกล่อง iPhone 16

ตัวเครื่อง iPhone 16
สาย USB Type-C To Type-C แบบถัก
เข็มนำถาดซิมออก
คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

วัสดุอะลูมิเนียมแข็งแกร่งทนทาน
iPhone 16 ไม่ได้ใช้วัสดุไทเทเนียมเหมือนตัว Pro และ Pro Max แต่ก็ยังมีความทนทานระดับสูง ด้วยวัสดุอะลูมิเนียม เกรดเดียวกับอุตสาหกรรมอวกาศ พร้อมกระจกฝาหลังแบบ Ceramic Shield รุ่นล่าสุด ให้ความแข็งแกร่งระดับสูงถึง 2 เท่า อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีความแข็งแกร่งสูงแล้ว แต่เรื่องลดอุณหภูมิความร้อนก็ทำได้ดีขึ้น เพราะมีการออกแบบภายในมาใหม่กระจายความร้อนได้ดี

ได้ใช้งาน Camera Control เหมือนกัน
รุ่นเล็กใช่ว่าจะไม่มีฟีเจอร์ใหม่ สำหรับ iPhone 16 จะมาพร้อม Camera Control ด้วยเหมือนกัน ตรงนี้จะเป็นตัวควบคุมกล้อง หรือเอาง่ายๆ ก็คือปุ่มนั้นแหละ แต่ทาง Apple ไม่ยอมให้เรียก สำหรับการใช้งาน จะเหมือนกับรุ่น Pro และ Pro Max มีการใช้งานด้วยการกด และใช้ทิ้งน้ำหนักแบบ Haptic Feedback

กดลงไป 1 ครั้งเพื่อเข้าแอพฯ กล้อง และเป็นปุ่มชัตเตอร์
กดลงไปค้างไว้ เพื่อทำการบันทึกวิดีโอแบบเร่งด่วน
ทิ้งน้ำหนัก 2 ครั้ง เพื่อเลือกโหมดใช้งาน
ทิ้งน้ำหนัก 1 ครั้ง เพื่อใช้งานโหมดที่เลือก
เลื่อนซ้ายขวา เพื่อปรับการใช้งาน

กล้อง Fusion Camera 48MP จับคู่กล้อง Ultra-Wide ลงตัว
กล้องหลังใช้งานได้ราบรื่นมากขึ้น โดยเป็นกล้องแบบ Fusion Camera ความละเอียด 48MP ให้ความละเอียดที่สูง ผสมกับกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12MP ทำให้ถ่ายได้ทั้งมุมไกล และมุมใกล้แบบ Macro ส่วนการซูมทำแบบ Optical ได้ 2 เท่า ในขณะที่กล้องหน้า TrueDepth ยังเหมือนเดิมที่ 12MP

เพิ่ม Style หรือฟิลเตอร์ที่มาก และปรับได้เอง
ภาพถ่ายต่างๆ ที่ออกมา จะสามารถปรับแต่งโทน และอารมณ์ของภาพได้ด้วยโหมด Style หรือเรียกบ้านๆ ว่าฟิลเตอร์ ซึ่งใน iPhone 16 จะมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น และยังมีโหมดให้เลือกปรับตามต้องการได้ด้วย

การถ่ายวิดีโอยังสบายในระดับ 4K ที่ 60fps
การถ่ายวิดีโอถือว่าเป็นจุดเด่นของ iPhone อยู่แล้ว ซึ่ง iPhone 16 สามารถบันทึกวิดีโอแบบ Dolby Vision ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60fps นอกจากนี้กล้องหลังยังมีระบบกันสั่นแบบ OIS ช่วยให้ถ่ายวิดีโอได้สะดวกมากขึ้น

ขุมพลัง A18 แรงเหลือ รอใช้ Apple Intelligence ได้ด้วย
มารอบนี้ iPhone 16 จัดความแรงมากเกือบสุด ด้วยขุมพลัง A18 แม้ว่ายังไม่ใช่ A18 Pro แต่ประสิทธิภาพการทำงานถือว่ารวดเร็วเพียงพอต่อการใช้งานต่างๆ ทั้งการใช้งานทั่วไป หรือการเล่นเกม โดยมี CPU ที่แรงขึ้น 30% และ GPU ที่แรงขั้น 40% ไม่พอแค่นั้นฟีเจอร์ในอนาคตอย่าง Apple Intelligence ก็เตรียมรอใช้งานกันได้เลย เพราะชิป A18 มีความแรงของ Neural Engine ที่เพียงพอต่อการประมวลผลของ AI

ทดสอบการเล่นเกม
การเล่นเกมถือว่าทำได้ดีเยี่ยม เกมพื้นฐานอย่าง ROV และ PUBG Mobile ไม่มีปัญหา ปรับกราฟฟิกได้สุด ส่วนเกมที่ทดสอบเป็น Genshin Impact ก็ยังสามารถปรับเฟรมเรตได้สูงสุดระดับ 120fps แต่กราฟฟิกก็แนะนำว่าเอาพอดีๆ อย่าปรับจดสุด เพราะเครื่องจะร้อน และกินแบตเตอรี่จนเกินไป

หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR เดิมๆ
หน้าจอแสดงผลไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก ยังได้หน้าจอเดิม ขนาดเท่าเดิม โดยเป็น Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2556x1179 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi และยังไม่มีอัตรารีเฟรชอย่าง ProMotion มาด้วย

แบตเตอรี่อึดขึ้นเล็กน้อย แต่ได้ชาร์จเร็วขึ้น
ในส่วนของแบตเตอรี่ถูกเพิ่มความอึดขึ้นมาเล็กน้อย โดยมีการเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้ 22 ชั่วโมง มากกว่า iPhone 15 อยู่ที่ 2 ชั่วโมง แต่การชาร์จเร็วผ่านสายรวดเร็วขึ้นที่ 30W หรือสูงกว่า และชาร์จไร้สาย MagSage สูงสุด 25W

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ iPhone 16

ขนาดตัวเครื่อง : 147.6x71.6x7.8 มิลลิเมต
น้ำหนัก : 170 กรัม
หน้าจอแสดงผล : Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2556x1179 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 2,000nits
ชิปเซ็ต : A18 แบบ 6-core + GPU แบบ 5-core
Neural Engine แบบ 16-Core
ระบบปฏิบัติการ : iOS 18
กล้องหลัง 2 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED
- กล้องหลัก ความละเอียด 48MP รูรับแสง f/1.6 กันสั่น OIS
- กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
กล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.9
เครือข่าย : 5G / 4G LTE / 3G / 2G รองรับ NanoSIM + eSIM หรือ eSIM+eSIM
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, NFC, GPS, พอร์ต USB Type-C 3.0
ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo รองรับ Apple Lossless, Dolby Atmos
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
การชาร์จแบตเตอรี่ : ชาร์จผ่านสาย 30W และชาร์จไร้สาย MagSafe 25W

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 1,633,535 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 6 ได้คะแนน Single-Core : 3397 คะแนน และ Multi-Core : 8406 คะแนน
ผลการทดสอบกราฟิกด้วย Steel Nomad Light : 1630 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ราคาวางจำหน่าย iPhone 16
ตอนนี้ iPhone 16 ก็มีการวางขายอย่างเป็นทางการบนเว็บไซต์ของ Apple ประเทศไทย โดยมีให้เลือก 5 สีคือ น้ำเงินอัลตร้ามารีน, เขียวอมฟ้า, สีชมพู, สีขาว และสีดำ สนนราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท