Infinix ลงตลาด Flip Phone กับเค้าด้วยเหมือนกัน โดยเป็น Infinix ZERO Flip มาพร้อมการพับเหนือระดับ ด้วยจุดเด่นการถ่ายวิดีโอได้ความระเอียดระดับ 4K แถมยังมีกันสั่นทั้ง OIS+EIS ที่เรียกว่า ProStable - Ultra Steady Pro นอกจากนี้ยังมีหน้าจอพับด้านในพาแนล AMOLED กว้าง 6.9 นิ้ว อัตรา Refresh Rate แบบ LTPO ที่ 1-120Hz ส่วนหน้าจอด้านนอกก็เป็นพาแนล AMOLED กว้างถึง 3.64 นิ้ว อัตรา Refresh Rate แบบ LTPO ที่ 1-120Hz เช่นเดียวกัน ส่วนการพับก็พับสนิทดีเยี่ยม พับได้อย่างสวยงาม

สั่งซื้อคลิก!

Shopee : https://s.shopee.co.th/2LFlp5U8m5

Lazada : https://s.lazada.co.th/s.J1jiG?cc

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Infinix ZERO Flip เป็นสมาร์ทโฟนดีไซน์แบบฝาพับ เรื่องของขนาดไม่ต้องเป็นห่วงตามสไตล์ และน้ำหนัก 195 กรัมเท่านั้น

  • เมื่อพับปิด ขนาดอยู่ที่ 87.97x73.4x16.04 มิลลิเมตร
  • เมื่อกางเปิด ขนาดอยู่ที่ 170.75x73.4x7.64 มิลลิเมตร

หน้าจอแสดงผลด้านใน Infinix ZERO Flip พาแนล AMOLED กว้าง 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2640x1080 พิกเซล อัตรา Refresh Rate แบบ LTPO สูงสุด 120Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 1400nits

เหนือหน้าจอแสดงผลด้านใน ใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 50MP ส่วนขอบหน้าจอด้านบนเป็นลำโพงเสียง และมีไฟแฟลชแบบ Dual Flash มาให้ด้วย

ล่างหน้าจอแสดงผลด้านใน ไม่มีปุ่มใช้งาน

ทางซ้ายตัวเครื่อง Infinix ZERO Flip ไม่มีปุ่ม หรือพอร์ตใช้งานใดๆ เช่นเดียวกัน

ทางขวาตัวเครื่องมีปุ่มใช้งานพื้นฐาน ปุ่มยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และปุ่มเล็กเป็นปุ่มเพาเวอร์ พร้อมสแกนลายนิ้วมือในตัว

ส่วนบนตัวเครื่องมีเพียงรูไมโครโฟนเท่านั้น ใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมกาด ถัดมาตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และขวาสุดเป็นลำโพงเสียง

เมื่อพับปิด ตัวเครื่องด้านบน Infinix ZERO Flip จะมีหน้าจอด้านนอกจากขนาด 3.64 นิ้ว พาแนล AMOLED ความละเอียด 1068x1056 พิกเซล และมีอัตรา Refresh Rate แบบ LTPO สูงสุด 120Hz นอกจากนี้ยังมีกล้อง 2 ตัว ดีไซน์แบบวงแหวนคู่ ความละเอียด 50+50MP พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual Flash

ส่วนตัวฝาตัวเครื่องด้านล่าง เป็นแบบ Two Tone และมีการใส่โลโก้ ZERO เอาไว้

แกนพับเป็นลวดคลื่น มีสลักชื่อแบรนด์ Infinix

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

Flip Phone ถ่าย 4K ได้ทั้งหน้า และหลัง
Infinix ZERO Flip ถือว่าเป็น Flip Phone สายคอนเทนด์อย่างแท้จริง ด้วยความสามารถในการบันทึกวิดีโอได้สูงระดับ 4K ที่ 60fps ในกล้องหน้า และ 4K ที่ 30fps ทั้งคู่มีระบบออโต้โฟกัส แถมยังมีโหมด AI Vlog เครื่องมือที่ช่วยให้เลือกภาพ และเทมเพลตจากอัลบั้ม เพื่อให้ Infinix ZERO Flip สร้าง Vlog มาให้ ในการแตะเพียงครั้งเดียว

4K ไม่พอมีกันสั่น ProStable - Ultra Steady Pro (OIS+EIS)
แม้ว่า Infinix ZERO Flip จะเป็น Flip Phone สามารถตั้งถ่ายวิดิโอได้สะดวกแล้ว แต่ Infinix มองว่ายังไม่พอ ในการเดินถ่ายวิดีโอก็ต้องนิ่งด้วยเช่นกัน ซึ่งมาพร้อมระบบกันสั่นแบบเต็มระบบ ทั้ง Ultra Steady Pro, Ultra Steady และ EIS+OIS อย่างไรก็ตามความคมชัดแต่ละแบบจะมีข้อจำกัดในการใช้กันสั่น โดยกล้องหลัง 4K ที่ 30fps จะใช้ได้ Ultra Steady และ EIS+OIS ส่วน 1080P ที่ 30fps จะใช้ได้ทั้งหมด ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 4K ที่ 60fps จะใช้กันสั่นไม่ได้ แต่ที่เหลือใช้ได้ทั้ง Ultra Steady กับ EIS และกล้องหน้าไม่มีกันสั่น OIS มาด้วย

เชื่อมต่อ GoPro ได้
Infinix ZERO Flip สามารถเชื่อมต่อกล้อง GoPro ได้ทันที ไม่ต้องดาวน์โหลดแอพฯ เสริม และสามารถดูพรีวิว และควบคุมกล้อง GoPro ได้จาก Infinix ZERO Flip ทันที

หน้าจอด้านในทำถึง LTPO AMOLED กว้าง 6.9 นิ้ว รีเฟรช 120Hz
หน้าจอด้านในกว้างใหญ่มาแน่นๆ โดยเป็นหน้าจอ LTPO AMOLED กว้าง 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2640x1080 พิกเซล อัตรา Refresh Rate แบบ LTPO สูงสุด 120Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 1400nits ปกป้องสายตาด้วยค่า PWM 2160Hz และได้รับการรองรับจาก TUV Rheinland

หน้าจอด้านนอกใหญ่ ใช้งานแอพฯ ได้ทันที
หน้าจอด้านนอกก็ใช่เล่น ได้เป็นพาแนล AMOLED กว้าง 3.64 นิ้ว ความละเอียด 1068x1056 พิกเซล และมีอัตรา Refresh Rate แบบ LTPO สูงสุด 120Hz ที่สำคัญสามารถเล่นแอพฯ จากหน้าจอด้านนอกได้ทันที ทั้ง Youtube, Tiktok, Google Maps เป็นต้น ทั้งนี้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอได้ด้วย 3D Animated Pets

 

แกนพับแข็งแรงหายห่วง พับได้ 400,000 ครั้ง
แกนพับทำออกมาได้แข็งแกร่ง ด้วยการการันตีการพับกว่า 400,000 ครั้ง พร้อมการค้างแกนพับในองศาต่างๆ ได้ยอดเยี่ยม จะตั้งกล้องเซลฟี่ หรือถือกล้องถ่ายวิดีโอก็ทำได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการพับที่เรียบเนียน พับได้สนิท และมีรอบพับบนหน้าจอที่เห็นน้อยมากๆ

ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8020
Infinix ZERO Flip จะถูกขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8020 แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวสุด แต่ก็แรงน้องๆ เรือธง สามารถใช้แอพฯ ต่างๆ อย่างราบรื่น และสามารถเล่นเกมพื้นฐานอย่าง ROV และ PUBG Mobile ได้สะบาย ภาพสวยๆ

 

RAM รวมเยอะ 16GB เก็บข้อมูลกับ ROM 512GB
ทั้งนี้ยังมี RAM แบบฮาร์ดแวร์มา 8GB แต่ก็ยังเพิ่ม RAM แบบ Virtual RAM ได้อีก 8GB ทำให้มี RAM รวมๆ ถึง 16GB เลยทีเดียว ส่วน ROM ก็ถือว่าใหญ่มาก มีมาให้ถึง 512GB สามารถเก็บข้อมูลต่างๆ ได้มากทีเดียว

ระบบ AI ต่างๆ AI Media, AI Life, AI Assistance
ระบบปฏิบัติการ ใช้เป็น XOS 14 การันตีอัปเดตความปลอดภัย 3 ปี ไม่พอแค่นั้นยังมีระบบ AI ที่ช่วยให้ความสะดวกในการใช้งาน ทั้ง AI Media ที่เป็น AI ช่วยลบส่วนที่ไม่ต้องการภาพออกได้ และ AI Wallpaper ปรับแต่งพื้นหลังแบบสวยๆ ต่อมาเป็น AI Life ช่วยใช้งาน NFC, ปรับแต่งหน้าจอ Always-On Diaplay และปรับแต่งระบบเสียงจากลำโพงคู่ JBL ส่วน AI Assistance เป็นผู้ช่วยอัจฉะริยะถามอะไรตอบได้ และใช้ Google Gemini ได้ด้วยเช่นกัน

แบตเตอรี่ 4720mAh รองรับชาร์จเร็ว 70W
แบตเตอรี่จัดเต็มด้วยขนาด 4720mAh รองรับสุขภาพแบตเตอรี่ 3 ปี และสามารถทนอุณหภูมิผิดปกติแบบติดลบได้ถึง -20 องศา ทั้งนี้ยังรองรับการชาร์จเร็วผ่านสาย 70W ชาร์จมาที่ 50% ในเวลา 20 นาที พร้อมรองรับ Reverse Charging ผ่านสาย 10W

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ Infinix ZERO Flip

  • ขนาดตัวเครื่อง : 
    - เมื่อกางตัวเครื่อง : 170.75 x 73.4 x 7.64 มม.
    - เมื่อพับตัวเครื่อง : 87.8 x 73.4 x 16.04 มม.
  • น้ำหนัก : 195 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : อัตรารีเฟรชเรท 120Hz และมาตรฐานแสดงเฉดสี DCI-P3 100%
    - หน้าจอด้านนอก : AMOLED ขนาด 3.64 นิ้ว ความละเอียด 1056 x 1066 พิกเซล
    - หน้าจอหลัก : LTPO AMOLED ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2640 พิกเซล
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 8020
  • GPU : Mali-G77 MC9
  • RAM : 8GB LPDDR4X
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 512GB รองรับ MicroSD Card ได้สูงสุด 2TB
  • ระบบปฏิบัติการ : XOS 14.5 บนพื้นฐาน Android 14
  • ถาดซิมการ์ด : Triple-Slot (Nano SIM 2 ช่อง+MicroSD Card)
  • กล้องหลัง 2 ตัว พร้อมไฟแฟลช Dual
    - กล้องหลัง : ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.88 กันสั่น OIS
    - กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 114.5 องศา
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.45 รองรับออโต้โฟกัส
  • การเชื่อมต่อ : 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11ax (2.4GHz/5GHz), Bluetooth 5.2, GPS, NFC
  • พอร์ต USB Type-C
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือ
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo ปรับแต่งด้วย JBL
  • แบตเตอรี่ : 4720mAh ชาร์จเร็วผ่านสาย 70W และ Reverse Charging ผ่านสาย 10W

ราคา และการจัดจำหน่าย
ในตอนนี้ Infinix ZERO Flip มีการวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีให้เลือก 2 สีคือ Blossom Glow และ Rock Black สนนราคาอยู่ที่ 22,999 บาท ช่วงโปรโมชั่นลดเหลือ 19,999 บาทเท่านั้น

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 30 ตุลาคม 2567

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน