รีวิว Apple Watch 10 เลือกแกร่งแบบไทเทเนียมได้ เครื่องบางขึ้น หน้าจอ OLED มุมมองกว้าง มองมุมไหนก็ชัด

ตอนนี้ Apple Watch ก็เดินทางมาถึงรุ่นที่ 10 เข้าไปแล้ว โดย Apple Watch 10 ยังคงในดีไซน์ตัวเรือนแบบสี่เหลี่ยมขอบมนคลาสสิกเหมือนเดิม พร้อมระบบติดตามสุขภาพ และใช้โหมดออกกำลังกายได้ดีเช่นเคย แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ ความแข็งแกร่ง ที่มีตัวเลือกให้ทั้งอะลูมิเนียม และไทเทเนียม รวมไปถึงตัวเครื่องที่บางขึ้น และได้หน้าจอพาแนล OLED มุมมองแบบกว้าง มองจากทิศทางไหนก็เห็นหน้าปัดได้ชัดเจน

สั่งซื้อคลิก!

Shopee : https://s.shopee.co.th/skhYz7ZV

Lazada : https://s.lazada.co.th/s.rSuDC?cc

บางสุดในบรรดา Apple Watch ที่เคยมีมา
Apple Watch 10 มารอยนี้มีการปรับดีไซน์ให้บางลง โดยมีขนาดอยู่ที่ 9.7 มิลลิเมตร ถือว่าเป็น Apple Watch ที่บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยมีมา ทำให้ดูมีความกระทัดรัด และบางสวยงามมากยิ่งขึ้น

มีตัวเลือกวัสดุไทเทเนียม ขัดผิวเงางาม
ไม่พอแค่นั้นยังมีตัวเลือกวัสดุสุดทนทานอย่าง ไทเทเนียมเกรดเดียวกับอุตสาหกรรมอวกาศ ซึ่งเป็นความโดดเด่นกว่ารุ่นก่อนๆ ที่มีให้เลือกเพียงอะลูมิเนียม กับสแตนเลสเท่านั้น ทั้งนี้ยังมีการขัดผิวให้เป็นแบบเงา ทั้งตัวเรือน และเม็ดมะยม Digital Crown ดูสวยงามพรีมเมี่ยมมากขึ้น เพราะจากเดิมจะเป็นผิวแบบด้าน

หน้าจอใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อน
นอกจาก iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max จะมีการอัปเกรดหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น ทาง Apple Watch 10 ก็ไม่น้อยหน้า ขอเพิ่มขนาดหน้าจอด้วยเช่นกัน โดยมีให้เลือกขนาด 46 มิลลิเมตร และ 42 มิลลิเมตร

หน้าจอพาแนล OLED มุมมองกว้าง
ไฮไลท์จริงๆ จะอยู่ที่หน้าจอแสดงผล Retina LTPO3 OLED ที่ให้มุมมองกว้างขึ้น สามารถมองจากด้านข้างได้ชัดขึ้น 40% เรียกว่าตอบโจทย์การใช้งานผ่านหน้าปัดไม่ว่ามุมไหนก็มองดูได้ตลอด นอกจากนี้ยังคงปรับความสว่างได้สูงสุดที่ 2000nits และ Always-On Display ตามเดิม

ชิป SiP รุ่นใหม่ S10 รองรับคำสั่งแตะ 2 ครั้ง
ในเรื่องของชิป ถือว่าเป็นจุดเด่นของ Apple ในทุกๆ อุปกรณ์ ซึ่ง Apple Watch 10 ก็มาพร้อมชิป SiP รุ่นใหม่ S10 มีการทำงานที่รวดเร็วมากขึ้น และยังรองรับคำสั่ง "แตะสองครั้ง" เพื่อสั่งการเช่น เปิด Widget, รับสาย, หยุดนาฬิกา เป็นต้น ด้วยการแตะนิ้ว 2 ครั้ง

ติดตามสุขภาพเชิงลึกตลาดเวลา
เรื่องการติดตามสุขภาพ Apple Watch ก็ถูกพัฒนาขึ้นมาดีเรื่อยๆ ในทุกๆ ซีรี่ย์ สำหรับ Apple Watch 10 ก็มีการพัฒนาเซนเซอร์การติดตามสุขภาพให้ดีขึ้นในทุกๆ โหมด พร้อมให้ข้อมูลที่เชิงลึกมากยิ่งขึ้น ทั้ง การติดตามการนอนหลับ, การติดตามการเต้นของหัวใจ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อหัวใจเต้นเร็ว หรือช้าเกินไป และการวัดค่า ECG และวัดค่าออกซฺเจนในเลือดยังมีมาเหมือนเดิม ทั้งหมดสามารถดูข้อมูลเชิงลึกได้ผ่านแอพพลิเคชั่น Apple Health

เรื่องออกกำลังกายยังไว้ใจได้เหมือนเดิม
Apple Watch 10 ยังเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ใช้ออกกำลังกายได้ดี โดยมีโหมดออกกำลังกายให้เลือกหลากหลาย และมีการเก็บสถิติ และตัวชี้วัดที่ครบเครื่อง ทั้งนี้ยังมีการวิเคราะห์การออกกำลังกายว่าหนักเบาแค่ไหน พร้อมวิเคราะห์ และให้คำแนะนำว่าควรพัก หรือหนักขึ้น

กันน้ำลึก 50 เมตร เพิ่มเติมด้วยเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ
การออกกำลังกายทางน้ำทำได้ดีขึ้น โดยมีมาตรฐานกันน้ำ และทนน้ำลึกได้ 50 เมตร การมารอบนี้ยังมีเซนเซอร์วัดอุณภูมิน้ำ และตัวสัดความลึกถึง 6 เมตร ส่วนตัวช่วยอื่นๆ ก็มีแอพญ ดูน้ำขึ้นน้ำลง และแอป Oceanic+ มาให้ใช้งานด้วย

ฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ

• Widget ฉลาด : มีการนำ Widget อัจฉริยะมาใช้ แสดงแบบทับซ้อน และแสดงข้อมูลตลอดทั้งวัน
• แปลภาษาได้ทันที : มีแอพฯ แปลภาษาแบบใหม่มาให้ แปลภาษาได้ทันทีแบบไม่ต้องมีอินเตอร์เน็ต
• ระบบ SOS : ระบบ SOS ฉุกเฉินยังสำคัญเสมอ โดยมีการตรวจจับการล้ม และการชน พร้อมแจ้งเตือนให้ทันที เหมาะกับการใช้งานของผู้สูงอายุ

แบตเตอรี่เท่าเดิม แต่ชาร์จเร็วขึ้น
ในส่วนของแบตเตอรี่ไม่มีอะไรเพิ่มเติม ยังมีขนาดเท่าเดิม รองรับการใช้งานนานสุด 18 ชั่วโมง และโหมดประหยัดพลังงาน 36 ชั่วโมง แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือการชาร์จเร็ว สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 80% ได้ในเวลา 30 นาทีเท่านั้น

ราคา และการจัดจำหน่าย
เบื้องต้น Apple Watch 10 ที่ขายในประเทศไทยจะมีให้เลือก 2 รุ่นคือ รุ่นอะลูมิเนียม เริ่มต้น 14,900 บาท และรุ่นไทเทเนียม เริ่มต้น 25,900 บาท มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 42 มิลลิเมตร และ 46 มิลลิเมตร กับแบบ GPS หรือ GPS + Cellular

• ตัวเลือกสีอะลูมิเนียม : สีเงิน, สีโรสโกลด์ และสีดำเจ็ทแบล็ค
• ตัวเลือกสีไทเทเนียม : สีธรรมชาติ, สีทอง, และสีเทาสเลท