ตลาดแท็บเล็ต Android กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มแท็บเล็ตสำหรับเล่นเกมที่เน้นความแรงและพกพาง่าย ล่าสุด Alldocube ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีประสบการณ์ในวงการเทคโนโลยียาวนานเกือบ 20 ปีและทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกมากมาย ได้ส่ง Alldocube iPlay 70 mini Ultra ลงสู่สนาม โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคอเกมสมาร์ตโฟนอย่างชัดเจน พร้อมชูสโลแกน "แรงเต็มสปีด เกมไหนก็โดน" ด้วยการอัดสเปกระดับเรือธงมาในตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด ในราคาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
แค่เห็นสเปกก็ต้องร้องว้าว! เพราะหัวใจหลักของ Alldocube iPlay 70 mini Ultra คือชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 7+ Gen 3 ที่เรียกได้ว่าเป็น Mini 8 Gen 3 เลยทีเดียว ซึ่งการันตีประสิทธิภาพในการประมวลผลที่สามารถรับมือกับเกมกราฟิกสูงในปัจจุบันได้อย่างลื่นไหล ปรับสุดได้แบบไม่มีสะดุด
ส่วนของหน้าจอก็จัดเต็มไม่แพ้กัน ด้วยจอแสดงผล LTPS IPS ขนาด 8.8 นิ้ว เทคโนโลยี In-Cell Full Lamination ที่ให้ความละเอียดคมชัดสูงถึงระดับ 2.5K (2560x1600) มีความหนาแน่นพิกเซล 343 PPI, ความสว่างสูงสุด 500nits และรองรับขอบเขตสี DCI-P3 ที่สำคัญคือมีอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 144Hz แบบ Adaptive ที่สามารถปรับระดับได้ (60/90/120/144Hz) เพื่อความสมดุลระหว่างความลื่นไหลและการประหยัดพลังงาน ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวในเกมมีความสมูท คมชัดทุกเฟรม นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน่วยความจำ RAM 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB ที่ยังสามารถเพิ่ม microSD Card ได้อีกสูงสุดถึง 1TB
ด้านพลังงานก็ให้มาแบบเหลือเฟือด้วยแบตเตอรี่ความจุ 7300mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว PD 20W สามารถใช้เล่นเกมต่อเนื่องได้ราว 5-7 ชั่วโมง, ดูวิดีโอสตรีมมิ่งได้นานประมาณ 14 ชั่วโมง (หรือ 16 ชั่วโมงสำหรับวิดีโอในเครื่อง) และฟังเพลงได้ยาวๆ ถึง 60 ชั่วโมง และยังเสริมอรรถรสความบันเทิงด้วยลำโพงคู่ระบบเสียง DTS และ Smart PA amplifier ให้มิติเสียงที่กระหึ่มและสมจริง แม้สเปกกล้องอาจไม่ใช่จุดขายหลัก แต่ก็ให้มาเพียงพอต่อการใช้งานด้วยกล้องหลัง 13MP และกล้องหน้า 5MP
Alldocube iPlay 70 mini Ultra มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบหรูดูพรีเมียมเกินราคา ด้วยบอดี้แบบ Full Metal Unibody สีเทา Space Gray ที่ไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทาน แต่ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยระบายความร้อนออกจากตัวเครื่อง ภายในติดตั้งระบบระบายความร้อนขั้นสูงที่มีทั้ง VC cooling (Vapor Chamber) และแผ่นกราฟีน (Graphene sheets) ครอบคลุมพื้นที่ระบายความร้อนรวมทั้งหมดถึง 24,570 ตร.มม. เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเครื่องจะไม่ร้อนจนเกินไปแม้จะเล่นเกมหนักๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.9 มม. และน้ำหนักเบาแค่ 335 กรัม ทำให้การถือใช้งานหรือพกพาทำได้อย่างสะดวกสบาย ขนาดหน้าจอ 8.8 นิ้ว ถือเป็นขนาดที่ลงตัว ให้พื้นที่การมองเห็นที่เต็มตากว่าสมาร์ตโฟน แต่ไม่ใหญ่เทอะทะเกินไป
การจัดวางองค์ประกอบรอบตัวเครื่อง: โมดูลกล้องหลังคู่ถูกจัดวางที่มุมซ้ายบนอย่างเรียบง่าย ส่วนกล้องหน้าจะอยู่ที่ขอบจอด้านซ้ายเมื่อถือในแนวนอน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะสำหรับการวิดีโอคอลขณะใช้งาน
พอร์ตและปุ่มกดรอบตัวเครื่อง: เมื่อถือในแนวนอนสำหรับเล่นเกม ที่ขอบด้านขวาจะพบกับพอร์ต USB-C 3.1 รองรับ DP Output และลำโพงตัวที่หนึ่ง ส่วนขอบด้านซ้ายจะเป็นที่อยู่ของลำโพงตัวที่สอง ทำให้ได้มิติเสียงแบบสเตอริโอที่ชัดเจน ปุ่มเปิด/ปิดเครื่องสีแดงสดใสและปุ่มปรับระดับเสียงจะถูกจัดวางไว้ที่ขอบมุมซ้ายบน ในขณะที่ถาดสำหรับใส่ microSD card และรูไมโครโฟนจะอยู่ที่ขอบมุมซ้ายล่าง ซึ่งเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งาน ทำให้ไม่เกะกะมือขณะเล่นเกม
สเปคเบื้องต้นของ Alldocube iPlay 70 mini Ultra
แท็บเล็ตเครื่องนี้ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 14 ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและสะอาดตา จุดเด่นสำหรับคอเกมคือ Game Mode ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพของเครื่องให้สูงสุด ปรับการจัดการทรัพยากรให้เหมาะสม และปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ ขณะเล่นเกม ทำให้สามารถโฟกัสกับเกมโปรดได้อย่างเต็มที่
นอกจากความแรงในการเล่นเกมแล้ว ตัวเครื่องยังรองรับการถอดรหัสวิดีโอความละเอียดสูงถึง 4K และชิปเซ็ต Snapdragon 7+ Gen 3 ยังมาพร้อมหน่วยประมวลผล AI ที่ชาญฉลาด ทำให้การใช้งานฟีเจอร์อย่าง Gemini Assistant รวดเร็วกว่าชิปเซ็ตรุ่นก่อนหน้าเกือบ 2 เท่า ตัวเครื่องยังติดตั้งเซนเซอร์ที่จำเป็นมาให้อย่างครบครันทั้ง Gyroscope, Gravity Sensor และ Brightness Sensor เพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ สิ่งหนึ่งที่ต้องทราบคือ Alldocube iPlay 70 mini Ultra เป็นแท็บเล็ตแบบ Wi-Fi Only ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดได้ แต่นั่นก็แลกมากับการเชื่อมต่อไร้สายที่ทันสมัยอย่าง Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.4
Gaming Set สุดคุ้มในราคา 12,990 บาท
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทำให้ Alldocube iPlay 70 mini Ultra มีความคุ้มค่าอย่างยิ่ง คือชุดอุปกรณ์เสริมที่จัดเต็มมาให้ครบเซ็ตในราคาเปิดตัว ซึ่งประกอบไปด้วย:
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
เมื่อมองดูสเปกเทียบกับราคา Alldocube iPlay 70 mini Ultra ถือว่าโดดเด่นอย่างมาก หากเทียบกับแท็บเล็ตเกมมิ่งในขนาดใกล้เคียงกันอย่าง Lenovo Legion Tab ที่ใช้ชิปแรงกว่าแต่ก็มีราคาสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด Alldocube กลับให้แบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าและรองรับ microSD Card ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายกว่า และเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนในช่วงราคา 15,000 - 17,000 บาท แม้ชิปเซ็ตจะใกล้เคียงกัน แต่ Alldocube iPlay 70 mini Ultra ให้ขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่ามาก ความละเอียดสูงกว่า และมีอัตราการรีเฟรชเรทสูงถึง 144Hz ซึ่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมและความบันเทิงที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน
ประสบการณ์การเล่นเกมในจอ 8.8 นิ้ว ดีอย่างไร?
ขนาดหน้าจอ 8.8 นิ้ว ถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้เหนือกว่าสมาร์ตโฟนอย่างชัดเจน ด้วยพื้นที่แสดงผลที่กว้างขึ้น ทำให้มองเห็นรายละเอียดต่างๆ ในเกมได้ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นแผนที่, UI หรือศัตรูที่อยู่ไกลออกไป อีกทั้งยังช่วยให้การควบคุมผ่านการสัมผัสทำได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น เพราะปุ่มต่างๆ ไม่ต้องเบียดเสียดกันเหมือนในจอสมาร์ตโฟน
ช่องทางการจำหน่ายและบริการหลังการขาย
Alldocube iPlay 70 mini Ultra มีวางจำหน่ายที่ True, BaNANA และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศใกล้บ้านคุณ รวมถึงช่องทางออนไลน์ทางการดังนี้:
จุดที่สร้างความมั่นใจอย่างยิ่งคือการรับประกันศูนย์ไทย 12 เดือน ซึ่งสามารถเข้ารับบริการได้ที่ realme service ทั้ง 17 สาขาทั่วประเทศ หรือเลือกใช้บริการเคลมออนไลน์ผ่าน LINE Official ID: @alldocube.th (สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 082-062-9696 ในวันและเวลาทำการ จ.-ศ. 09.00-18.00 น.)
โดยสรุป Alldocube iPlay 70 mini Ultra คือแท็บเล็ตเกมมิ่งที่ตอบโจทย์คอนเซปต์ "จอลื่นภาพสวย ชิปเซ็ตแรงเหมาะกับสายเล่นเกมบนแท็บเล็ต" ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ให้สเปกมาแบบ "โคตรคุ้ม" อย่างแท้จริง ทั้งชิปเซ็ตระดับเรือธง, หน้าจอ 144Hz ที่คมชัด, ระบบระบายความร้อนที่ไว้ใจได้, แบตเตอรี่สุดอึด และดีไซน์ที่พรีเมียม ในราคาเปิดตัวเพียง 12,990 บาท ที่มาพร้อมชุดของแถมจัดเต็มทั้งเคส, หัวชาร์จ และ GamePad JoyStick (มูลค่ารวมกว่า 2,500 บาท) พร้อมการรับประกันที่ครอบคลุม ทำให้ Alldocube iPlay 70 mini Ultra กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดตัวหนึ่งในตลาด สำหรับเกมเมอร์หรือผู้ที่มองหาแท็บเล็ต Android ประสิทธิภาพสูงในงบที่ไม่บานปลาย
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท