รีวิว iPhone 17 Pro Max พี่ใหญ่ยังตึงเหมือนเดิม ครบเครื่องด้วย A19 Pro กล้องถ่ายรูปอัปเกรดทั้งหน้า และหลัง

หากถามว่าใช้ iPhone รุ่นไหนยืนเด่นขิงได้หมด คงเป็นรุ่นไหนไม่ได้นอกจาก iPhone 17 Pro Max ด้วยราคาที่ Max สมชื่อรุ่น กับราคาเริ่มต้นเฉียดครึ่งแสน คงไม่มีอะไรลักชูดูดีไปกว่านี้แล้ว ส่วนการมารอบนี้ยังโดดเด่นด้วยการทำงานอย่างรวดเร็วตามฉบับ iPhone พร้อมอัปเกรดชิปเซ็ตเป็น A19 Pro มาได้หมดไม่ว่าจะเล่นเกม กล้องถ่ายภาพ หรือทำงานกราฟฟิกสูงๆ นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนมาใช้วัสดุอะลูมิเนียม อัลลอย และแผ่นระบายความร้อน Vapor Chamber ช่วยให้ลดความร้อนภายในเครื่องได้อย่างดีเยี่ยม จากเดิมที่ใช้วัสดุไทเทเนียมแล้วดูไม่เวิร์คเท่าไหร่

สั่งซื้อคลิก!

Shopee : https://s.shopee.co.th/70AgHzuk7h
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.A5dKx?cc

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ดีไซน์ของ iPhone 17 Pro Max ยังเป็นแบบเรียบหรูดูแพง ขอบทั้งสี่ด้านเป็นแบบเรียบ และมุมทั้งสี่มุมเป็นแบบโค้ง โดยมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 163.4x78x8.75 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 231 กรัม ซึ่งตัวเครื่องจะใหญ่ และหนักกว่า iPhone 17 Pro หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2868x1320 พิกเซล รองรับ ProMotion สูงสุดที่ 120Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 3000nits และมีการครอบทับด้วยกระจก Ceramic Shield 2

• ส่วนบนหน้าจอแสดงผล ยังใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบ Dynamic Island ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 18MP รองรับฟีเจอร์ Center Stage และแผงเซนเซอร์สำหรับสแกนใบหน้า FaceID นอกจากนี้ยังมีลำโพงเสียงอยู่ขอบหน้าจอด้านบน
• ล่างหน้าจอแสดงผล iPhone 17 Pro Max ไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ
• ทางซ้ายตัวเครื่อง บนสุดเป็นปุ่ม Action ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และลุดสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ NanoSIM
• ทางขวาตัวเครื่อง จะพบกับปุ่มเพาเวอร์ และด้านล่างเป็น Camera Control
• ด้านบนตัวเครื่อง ไม่มีปุ่ม และพอร์ตการใช้งานใดๆ
• ด้านใต้ตัวเครื่อง ทางซ้าย และขวาเป็นลำโพงเสียง พร้อมไมโครโฟน และตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C

พลิกมาที่ฝาหลัง iPhone 17 Pro Max จะพบกับโมดูลกล้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ ทางซ้ายของโมดูลมีกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลัก Fusion ความละเอียด 48MP, กล้อง Ultra-Wide Fusion ความละเอียด 48MP และกล้อง Telephoto Fusion ความละเอียด 48MP ส่วนทางขวาของโมดูลบนสุดเป็นไฟแฟลช LED ถัดลงมาเป็นรูไมโครโฟน และล่างสุดตรงรูดำๆ เป็นเซนเซอร์วัดระยะ LiDAR นอกจากนี้ตรงฝาหลังยังมีพื้นที่แม่เหล็กสำหรับติดกระเป๋าตัง MagSafe และครอบทับด้วยกระจก Ceramic Shield เพิ่มความทนทานให้ด้านหลัง

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

อะลูมิเนียม อัลลอย + Vapor Chamber หายห่วงเรื่องความร้อน
iPhone 17 Pro Max มีการเปลี่ยนมาใช้วัสดุอะลูมิเนียมแบบชิ้นเดียว ให้จุดเด่นในเรื่องของน้ำหนักที่เบา และมีการกระจายความร้อนที่ยอดเยี่ยม ซึ่งตรงนี้มาช่วยแก้ปัญหาความร้อนสะสมของ iPhone 16 Pro Max ที่ใช้วัสดุเป็นไทเทเนียม ไม่พอแค่นั้นยังมีแผ่นระบายความร้อน Vapor Chamber ช่วยระบายความร้อนให้อีกทาง โดยการทดลองเล่นเกมหนักๆ อย่าง Genshin Impact ก็ถือว่าลดความร้อนได้ดีขึ้นมากพอสมควรในกราฟฟิกระดับกลางๆ

Ceramic Shield เสริมความแข็งแกร่ง
แน่นอนว่าอะลูมิเนียมความแข็งแกร่งอาจจะไม่เท่าไทเทเนียม แต่ Apple ก็แก้เกมด้วยการครอบทับด้วยกระจก Ceramic Shield ช่วยให้ฝาหลังตัวเครื่อง มีความทนทานการแตกร้าวดีขึ้นถึง 4 เท่า ไม่พอแค่นั้นในส่วนหน้าจอแสดงผลก็ก็ได้ Ceramic Shield 2 ช่วยทนทานรอยขีดขวนได้ดีขึ้นถึง 3 เท่า

หน้าจอ Super Retina XDR กว้างเต็มตา 6.9 นิ้ว
หน้าจอแสดงผลของ iPhone 17 Pro Max ยังคงเอาใจสายชอบอะไรใหญ่ๆ กว้างๆ ด้วยหน้าจอ Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2868x1320 พิกเซล เทคโนโลยี ProMotion สูงสุดที่ 120Hz และปรับความสว่างได้สูงสุดที่ 3000nits เรียกว่าใช้ความบันเทิงได้แบบจัดเต็มทั้งดูหนัง ดูซีรี่ย์ หรือแม้แต่เล่นเกม

ชิปเซ็ต A19 Pro เร็วแรงเอาอยู่ทุกการใช้งาน
จุดเด่นของ iPhone ในทุกๆ ปี ก็คือการอัปเกรดชิปเซ็ตให้ทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ โดยคิวของ iPhone 17 Pro Max จะได้เป็น A19 Pro รองรับการใช้งาน หรือประมวลผลหนักๆ แบบจัดเต็ม โดยมี CPU และ GPU ที่เร็วขึ้นกว่า 40% พร้อมกับใช้งาน Apple Intelligence แบบรวดเร็ว ตรงนี้ถือว่าจับไปใช้งานด้านไหนก็ไม่มีปัญหาทั้งเล่นเกมกราฟฟิกสูงๆ หรือทำงานแบบต่อเนื่องได้ทันที

กล้องหลัง Fusion Pro 48MP ทั้ง 3 ตัว
iPhone 17 Pro Max นอกจากจะเปลี่ยนดีไซน์โมดูลกล้องหลังเป็นทรงสี่เหลี่ยผืนผ้าขนาดใหญ่ ยังยกเครื่องกล้องหลังมาอีกด้วย โดยมีกล้องหลังติดตั้ง 3 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลัก ความละเอียด 48MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 48MP และกล้อง Telephoto ความละเอียด 48MP ทั้งหมดเป็นเทคโนโลยีกล้องขั้นสูง Fusion Pro สามารถเก็บรายละเอียดภาพได้อย่างยอดเยี่ยมทั้ง กลางวัน กลางคืน จะซูมหรือมุมกว้าง ภาพก็ออกมาสวยงามทั้งหมด นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพการซูมแบบ Optical เป็น 8 เท่า ในระยะสูงสุด 200 มม. แม้ว่าจะเป็นการครอปภาพ แต่ภาพที่ออกมาก็ยังดูสวยงามไม่มีปัญหา รวมไปถึงการบันทึกวิดีโอก็ทำได้สูงสุดที่ 4K 120fps และสามารถบันทึกวิดีโอแบบ Dolby Vision ได้อีกด้วย

กล้องหน้าอัปเกรด 18MP รองรับ Center Stage
ไม่ใช่มีแต่กล้องหลังเท่านั้นที่อัปเกรดขึ้นมา ในส่วนกล้องหน้าก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน โดยให้ความละเอียดเพิ่มเป็น 18MP พร้อมรองรับโหมด Center Stage สามารถเซลฟี่ หรือคุยวิดีโอคอลแบบกลุ่มได้แบบง่ายๆ

แบตเตอรี่อึดสุดในรุ่น
iPhone 17 Pro Max ไม่ได้ใหญ่แต่ตัวเครื่องเท่านั้น แต่เรื่องของแบตเตอรี่ก็อึดมากที่สุดในซีรี่ย์อีกด้วย โดยสามารถเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้ 37 ชั่วโมง และดูวิดีโอแบบสตรีมได้นานสุด 33 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จเร็วผ่านสาย 40W และ MagSafe 25W

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ iPhone 17 Pro Max

• ขนาดตัวเครื่อง : 163.4x78x8.75 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 231 กรัม
• หน้าจอแสดงผล : Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2868x1320 พิกเซล รองรับ ProMotion สูงสุดที่ 120Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 3000nits และมีการครอบทับด้วยกระจก Ceramic Shield 2
• ชิปเซ็ต : A19 Pro
• ระบบปฏิบัติการ : iOS 26
• กล้องหลัง 3 ตัว ไฟแฟลช LED
  - กล้องหลัก Fusion ความละเอียด 48MP รูรับแสง f/1.78 กันสั่น OIS
  - กล้อง Ultra-Wide Fusion ความละเอียด 48MP f/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
  - กล้อง Telephoto Fusion ความละเอียด 48MP รูรับแสง f/2.8
• กล้องหน้า ความละเอียด 18MP รูรับแสง f/1.9 รองรับ Center Stage
• เครือข่าย : 5G / 4G LTE / 3G / 2G รองรับ NanoSIM + eSIM
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 7, Bluetooth 6, NFC, GPS, USB Type-C
• มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
• ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo
• แบตเตอรี่ : เล่นวิดีโอติดต่อกันได้นานสุด 37 ชั่วโมง รองรับการชาร์จผ่านสาย 40W และ MagSafe 25W

สำหรับ iPhone 17 Pro Max เปิดตัวในบ้านเราด้วยราคาเริ่มต้น 48,900 บาท (256GB) มีให้เลือก 3 สีคือ สีเงิน, ส้มคอสมิก และน้ำเงินเข้ม สามารถไปจับจองกันได้ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple ประเทศไทย หรือตามลิ้งค์ที่อยู่ตรงนี้ https://www.apple.com/th/shop/buy-iphone/iphone-17-pro