รีวิวโทรศัพท์มือถือ ASUS ZenFone 5 - เอซุส

หากมองดูรูปลักษณ์ภายนอก จะเห็นได้ชัดว่า Asus Zenfone 5 เป็นสมาร์ทโฟนที่จับใส่เทรนด์มาแรงในปี 2018 มาเกือบทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่เห็นชัดที่สุดก็คือ "หน้าจอแหว่ง" ทำให้อัตราส่วนหน้าจอถูกขยายเป็น 19:9 เพิ่มวิสัยทัศน์ในการใช้งาน และกล้องหลังคู่แนวตั้ง ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล และแน่นอนว่าทำงานร่วมกับ AI ที่เป็นเทคโนโลยีเสริมมาแรง ในการปรับแต่งภาพให้ออกมาสวยสมบูรณ์ ทั้งนี้ระบบ AI ยังไม่ได้มีดีแค่ด้านถ่ายภาพ เพราะระบบจะมีการเข้าไปจัดการเรื่องพลังงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานทุกรูปแบบ โดยมีราคาเปิดตัวที่ 13,990 บาท

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่อง Asus Zenfone 5 มีรูปทรงสี่เหลี่ยมขอบโค้งทั้ง 4 มุม สไตล์ Unibody และมีการใช้กระจกของโค้ง 2.5D Gorilla Glass ครอบทับอยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง โดยมีขนาดตัวเครื่อง 75.6x153x7.7 มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 155 กรัม

หน้าจอแสดงผลใช้เป็นจอ Super IPS+ ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2246x1080 พิกเซล) เฉดสี NTSC 96%

ด้านบนหน้าจอตรงส่วนที่เป็นรอยแหว่ง มีกล้องหน้าเลนส์ 4-Element ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ใช้เซนเซอร์ Omnivision 8856 และมีช่องลำโพงสำหรับการสนทนา พร้อมเป็นลำโพงเสียงในตัว

ด้านล่างหน้าจอ ไม่มีการใช้งานใดๆ ทั้งสิ้น โดยปุ่มนำทางจะอยู่ในหน้าจอแสดงผล

ฝั่งซ้ายตัวเครื่องมีช่องใส่ถาดซิม ซึ่งเป็นแบบ Hybrid รองรับ 2 ซิม แต่หากต้องการใส่ MicroSD การ์ด ที่รองรับความจุสูงสุด 2TB ต้องถอดซิมออกมาก่อน 1 ซิม และข้างบนถาดซิมเป็นไมโครโฟนตัดสัญญาณรบกวน


** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **

ฝั่งขวาตัวเครื่อง มีปุ่มมาตรฐานการใช้งานตามปกติ คือ 2 ปุ่มบนเป็นปุ่มลดและเพิ่มเสียง ส่วนปุ่มล่างสุดเป็นปุ่มเพาเวอร์สำหรับพักหน้าจอ หรือปิดและเปิดเครื่อง

ส่วนบนตัวเครื่องไม่มีการใช้งานใดๆ โดยจะมีเพียงรูไมโครโฟนตัดสัญญาณรบกวน

ส่วนล่างตัวเครื่อง มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรอยู่ซ้ายสุด ตรงกลางเป็นช่องเสียบสาย USB Type-C ถัดมาเป็นรูไมโครโฟน และขวาสุดเป็นลำโพงเสียงตัวหลัก

มากันที่ด้านหลัง ดีไซน์มีความเงาสะท้อนแสงสวยงาม ส่วนกล้องหลังคู่จะอยู่บนซ้ายสุดเป็นแบบแนวตั้ง ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล ถัดลงมาข้างล่างเป็นไฟแฟลช LED จากนั้นขยับมาตรงกลางเป็นช่องสแกนลายนิ้วมือ สุดท้ายมีโลโก้ Asus อยู่ข้างล่างที่สแกนลายนิ้วมือ

 
การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Asus Zenfone 5 เมื่ออยู่ในมือผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)


การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Asus Zenfone 5 กับไม้บรรทัด

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคทั้งหมดของ Asus Zenfone 5

  • ขนาดตัวเครื่อง : 75.6x153x7.7 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 155 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : Super IPS+ ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2246x1080 พิกเซล) เฉดสี NTSC 96% ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass โค้ง 2.5D
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 636
  • RAM : 4GB
  • ROM : 64GB รองรับ MicroSD สูงสุด 2TB
  • กล้องหลังคู่ : ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล กล้องเลนส์หลัก 12 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX363 มีรูรับแสง f/1.8 จุดพิกเซล 1.4um และระบบกันสั่น EIS / OIS ส่วนกล้องเลนส์เสริม 8 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Omnivision8856 รูรับแสง f/2.2 ส่วนขยายเลนส์กว้างถึง 120 องศา มีไฟแฟลชแบบ LED
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Omnivision8856 รูรับแสง f/2.0 แฟลชจากหน้าจอแสดงผล
  • ระบบปฎิบัติการ : Android 8.0 Oreo ทับด้วย ZenUI 5.0
  • เครือข่าย
    - รองรับ 2 ซิม แบบ Nano SIM
    - GSM/GPRS/EDGE; WCDMA/HSPA+/DC-HSPA+; TD-SCDMA; CDMA 2000; FDD-LTE; TD-LTE
    - FDD-LTE (Bands 1, 3, 5, 7, 8, 20)
    - TD-LTE (Band 40)
    - WCDMA (Bands 1, 5, 8)
    - EDGE/GPRS/GSM (850, 900, 1800, 1900MHz)
  • เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
    - LTE Cat13 UL up to 150Mbps / Cat12 DL up to 600Mbps
    - DC-HSPA+: UL 5.76 / DL 42Mbps
  • การเชื่อมต่อ
    - WLAN 802.11 a/b/g/n/ac 2.4 & 5GHz
    - Bluetooth 5.0
    - Wi-Fi โดยตรง
    - NFC
  • ระบบเสียง
    - ลำโพงคู่ แบบแม่เหล็ก 5 แกน ใช้ Smart AMP NXP คู่ ในการเพิ่มความดัง
    - Hi-Res Audio
    - ระบบ DTS (Digital Theater System) สำหรับหูฟัง 7.1
  • แบตเตอรี่ : 3300 mAh

 

 

หน้าจอหลัก / แถบเครื่องมือด่วน

แม้ว่าตัวเครื่องจะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo แต่ก็มีการครอบทับด้วย ZenUI ซึ่งจะทำให้มีโฉมหน้าและ UI ในส่วนต่างๆ เปลี่ยนตามไปด้วย แต่สำหรับ Asus Zenfone 5 ที่มาพร้อม ZenUI 5.0 จะมีการปรับให้มีการใช้งานง่ายขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ เยอะ แถมแอพฯ ที่มาจากโรงงานยังถูกตัดออกไปเยอะพอสมควร

 

 

ระบบปฏิบัติการ

การมาของ Android 8.0 Oreo ทำให้การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ในส่วนของเวอร์ชั่น 8.0 จะสามารถใช้งานได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แบ่งหน้าจอ, Picture in picture และแอพฯ ดอท (แจ้งเตือนบนไอคอนแอพฯ) แต่ที่เพิ่มเข้ามาจะเป็นความสามารถของ ZenUI 5.0 แต่จะมีอะไรบ้าง สามารถดูได้ตามด้านล่างเลย

 

 

ZenUI 5.0

ด้วยการที่ Asus Zenfone 5 ถูกปรับแต่งด้วย ZenUI 5.0 ทำให้หน้าตาและการใช้งานเปลี่ยนไปพอสมควร รวมถึงการตั้งค่าต่างๆ ที่จะให้ผู้ใช้งานใช้เครื่องได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และยังมีแอพพลิเคชั่นเสริมมาให้ใช้งานพอสมควร

  • ปิดรอยแหว่ง

จุดเด่นของ Asus Zenfone 5คือมีรอยแหว่งอยู่บนเหนือสุดของหน้าจอ แต่ด้วยการออกแบบเช่นนี้ก๋อาจมีผู้ใช้งานบางท่าน อาจไม่ค่อยถูกใจมากนัก แต่ไม่เป็นไรเพราะ ZenUI 5.0 มีตัวเลือกให้ซ่อนรอยแหว่งตรงนี้ได้ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > การแสดงผล > ซ่อนรอยบาก

  • Twin Apps

สำหรับ Twin Apps เป็นการเพิ่มแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่แล้วออกมาอีกแอพฯ 1 โดยสามารถแยกการใช้งานคนละส่วนได้เลย และหากมีบัญชีที่ต้องใช้งานมากกว่า 1 บัญชี ก็สามารถล็อกอินทั้ง 2 แอพฯ ในบัญชีที่ต่างกันได้

 

  • โหมดเด็ก

ในโหมดนี้เป็นการจัดระเบียบการใช้งานสมาร์ทโฟนเวลาเด็กใช้งาน โดยผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าการเข้าถึงแอพฯ ต่างๆ ได้ รวมไปถึงตั้งรหัสการที่เด็กจะใช้งานได้อีกด้วย

 

  • โหมดง่าย

ในส่วนนี้จะเป็นการปรับเปลี่ยนหน้าตาอินเตอร์เฟสทั้งหมดของเครื่อง โดยจะมีหน้าตาที่ใช้ง่าย และ UI ต่างๆ จะมีขนาดใหญ่ขึ้นง่ายต่อการมองเห็น รวมไปถึงเพิ่มแอพฯ ที่ต้องการใช้มายังโหมดนี้เพิ่มเติมได้ด้วย

 

  • แอพฯ ตัวจัดการโทรศัพท์มือถือ

ในแอพฯ ตัวจัดการโทรศัพท์มือถือ จะเป็นการจัดการในส่วนต่างๆ ของ Asus Zenfone 5 ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แบตเตอรี่, ล้างหน่วยความจำ, ล้างข้อมูล, บล็อกการแจ้งเตือน หรือดูข้อมูลสิทธิและการใช้ข้อมูลต่างๆ โดยผู้ใช้งานสามารถเข้ามาจัดการทั้งหมดที่ว่ามาในแอพฯ ตัวจัดการโทรศัพท์มือถือ ได้ทันที

 

 

  • SelfieMaster

เป็นอีก 1 แอพฯ ที่ติดมากับตัวเครื่อง โดยเป็นแอพฯ ช่วยในการถ่ายรูปให้มีความสวยงามในโหมดบิวตี้ ไม่ว่าจะไลฟ์สดผ่านแอพฯ ไหนก็ได้ หรือถ่ายภาพเซลฟี่ในโหมดหน้าสวย พร้อมส่งต่อไปยังแอพฯ อื่นได้ทันที นอกจากนี้ยังมีอีกโหมดที่สำคัญ นั้นก็คือ ZeniMoji ซึ่งสามารถสร้าง Emoji ขยับได้ในแบบคุณ พร้อมส่งไปยังแอพฯ สังคมออนไลน์อื่นๆ ได้ด้วย

 

 

  • ระบบ AI Boost

เทคโนโลยี AI เข้ามามีส่วนอย่างมากในสมาร์ทโฟนปัจจุบัน ซึ่ง Asus Zenfone 5 ก็มีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ โดยอย่างแรกคือ AI Boost ซึ่งจะเป็นการเร่งประสิทธิภาพให้กับเครื่อง โดยจะให้ความเร็วที่มากกว่า Zenfone 4 มากขึ้นถึง 12.7% นอกจากนี้ AI ยังไม่มีส่วนร่วมกับการถ่ายภาพ ซึ่งสามารถดูฟีเจอร์ต่างๆ ได้จากหมวดกล้องถ่ายรูป

การทดสอบความเร็ว และการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark ได้ 134,197 คะแนน
  • ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core 1502 และ Multi-Core 4818
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3D Marks (Sling Shot Extreme) 955 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

 

 

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor ตรวจวัดความเอียง
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor ตรวจวัดการทรงตัว
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์สวยสะดุดตาด้วยหน้าจอแหว่ง และความเงาแวววาวในส่วนด้านหลัง

ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม และยังมีการตามเทรนด์แห่งปี 2018 ด้วยหน้าจอแหว่งทางด้านบน ซึ่งทำให้มีขนาดหน้าจอที่กว้างขึ้นด้วยอัตราส่วน 19:9 และที่สำคัญทางด้านหลังยังมีความสวยงาม ด้วยการสะท้อนแสงกับส่วนสแกนลายนิ้วมือ

ระบบสแกนใบหน้า

ระบบสแกนใบหน้า เป็น 1 ในระบบรักษาความปลอดภัยของเครื่อง Asus Zenfone 5 โดยในการทำงานมีความรวดเร็วมาก แต่การสแกนจะต้องให้ใบหน้าของผู้ใช้อยู่ในลักษณะที่ตรง ไม่สามารถสแกนจากใบหน้าข้างๆ ได้

 

ระบบสแกนลายนิ้วมือ

ตัวสแกนลายนิ้วจะอยู่ทางด้านหลังตัวเครื่อง โดยในการใช้งานจริงถือว่ามีความรวดเร็วในการสแกน และไม่ต้องกดปุ่มเพาเวอร์เพื่อปลุกหน้าจอก่อนการสแกน แต่ยังมีจุดสังเกตุเล็กน้อย หากนิ้วมือของผู้ใช้งานมีความชื้นอยู่ตัวสแกนจะไม่สามารถสแกนได้อย่างแม่นยำ

ทดสอบการเล่นเกม

ในการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile ถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง แต่การปรับกราฟฟิกภายในเกม ส่วนตัวมองว่าควรปรับแบบต่ำที่สุด น่าจะทำให้การเล่นแบบไม่เสียอารมณ์ แม้ว่าระบบจะแนะนำให้ปรับในระดับกลางได้ แต่เฟรมเรทดูจะยังไม่ค่อยนิ่งเท่าที่ควร

Game Genie โหมดสำหรับเล่นเกม

การเล่นเกมจะราบรื่นขึ้น และไม่โดนการรบกวนจากการแจ้งเตือนใดๆ เพราะ Asus Zenfone 5 มาพร้อมโหมดสำหรับเล่นเกมด้วย Game Genie โดยระบบจะมีให้ใช้งาน 6 อย่างคือ โหมดล็อก (สำหรับล็อกปุ่มนำทาง), ปิดการแจ้งเตือน, เต็มหน้าจอ, เร่งความเร็ว, บันทึกวิดีโอ, ถ่ายทอดสด และมาโคร ซึ่งการเริ่มใช้งาน Game Genie สามารถเริ่มได้จากแถบปุ่มนำทาง จะเห็นเป็นรูปจอยเกมอยู่ 

ประสิทธิภาพการใช้งานกล้องถ่ายรูป

Asus Zenfone 5 มีกล้องรวมกัน 3 ตัว โดยกล้องหลังคู่มีความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 และมีพิกเซลขนาดใหญ่ 1.4um พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ในขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ทั้งนี้การใช้งานจากทุกกล้อง ยังมีเทคโนโลยีเสริมอย่าง AI ในการรีดประสิทธิภาพของกล้อง ให้รูปที่ออกมามีความสวยงาม แบบไม่ต้องใช้งานยุ่งยาก กดชัดเตอร์ในโหมดอัตโนมัติรูปก็ออกมาดูดี

ระบบ AI สำหรับกล้องถ่ายรูป

AI มีส่วนอย่างมากในการช่วยปลดล็อกประสิทธิภาพของรูปถ่ายให้ออกมาดูดี และสวยแบบไม่ต้องเป็นมืออาชีพก็ได้ ซึ่ง Asus Zenfone 5 ก็มีระบบ AI ช่วยในการถ่ายภาพถึง 3 ฟีเจอร์ด้วยกัน

  • AI Scene Detection

ถ้าจะให้เรียกง่ายๆ ก็คือระบบจะทำการปรับแต่งภาพและวัตถุให้มีความสวยงามแบบอัตโนมัติ (ไม่สามารถปิดโหมดนี้ได้) โดยจะถูกอ้างอิงจากฐานข้อมูลรูปภาพจากฝั่ง Asus โดยการนำรูปที่เราถ่ายไปวิเคราะห์ว่าควรจะเสริมแต่งตรงไหนบ้าง โดยระบบสามารถวิเคราะห์รูปภาพได้ถึง 16 แบบเลยทีเดียว (คน, อาหาร, สุนัข, แมว, พระอาทิตย์ตก, ท้องฟ้า, หญ้าเขียว, ทะเล, ดอกไม้, ต้นไม้, หิมะ, กลางคืน, แสงสี, ตัวอักษร, QR Code และตั้งขากล้อง) สามารถดูได้จากมุมบนขวา ขณะถ่ายรูป

 

  • Real-time Beautification

ฟีเจอร์นี้เป็น AI สำหรับบิวตี้โหมด หากผู้ใช้งานเลือกปรับแต่งภาพด้วยการใช้โหมดบิวตี้ ระบบ AI จะมีการวิเคราะห์ตรวจจับเพศของมนุษย์ ทำให้ไม่สวยเวอร์เกินจริงตามเพศและวัย ซึ่งที่จริงระบบมีการวิเคราะห์จากสีผิวกว่า 100 แบบ และตรวจจับใบหน้าได้ถึง 365 จุด เมื่อลองใช้งานจริง ปรากฏว่าปรับบิวตี้ในระดับสูงๆ อาจจะดูขาวเนียนเกินไปหน่อย แต่หากปรับในระดับกำลังพอดี ก็ถือว่าภาพที่ออกมากำลังดีทีเดียว

 

  • การถ่ายภาพบุคคล

การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ หรือการถ่ายภาพแบบบุคคลจะเป็นไปอย่างง่ายดาย เพราะมีระบบ AI ในการวิเคราะห์ภาพ และสร้างภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบเป็นธรรมชาติ โดยใช้งานได้จากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

 

 

  • ขยายมุมกว้างได้ถึง 120 องศา

ด้วยการมาของกล้องหลังคู่ทำให้การถ่ายภาพจากกล้องหลังมีมุมกว้างมากขึ้น ซึ่งกล้องเลนส์เสริม จะเป็นกล้องที่ช่วยให้การมองเห็นกว้างขึ้นถึง 120 องศา ส่วนการเข้าโหมดมุมกว้าง 120 องศา เพียงกดตรงรูปภูเขา 3 อัน ตรงเหนือปุ่มชัตเตอร์

 

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

  • ความละเอียดภาพถ่ายกล้องหลัง : 4032x3024, 4032x2272, 3024x3024, 4032x2016, 3264x2448, 3264x1836, 2448x2448, 3264x1632 พิกเซล (มุมปกติ) 3264x2448, 3264x1836, 244x2448, 3264x1632 พิกเซล (มุมกว้าง)
  • ความละเอียดภาพถ่ายกล้องหน้า : 3264x2448, 3264x1836, 2448x2448, 3264x1632 พิกเซล
  • แฟลช : ไฟฉาย, ปิด, เปิด, อัตโนมัติ
  • ตั้งเวลาชัตเตอร์ : 2, 5, 10 วินาที
  • เอฟเฟ็กต์ชัดลึกชัดตื้น : ปิด, f/22, f/16, f/11, f/8, f/5.6, f/4.0, f/2.8, f/2.0, f/1.4, f/0.95
  • HDR : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด
  • มุมกว้าง : มุมปกติ, มุมกว้าง 120 องศา
  • ประทับเวลา : ปิด, เปิด
  • ASUS watermark : ปิด, เปิด
  • ชัตเตอร์แบบสัมผัส : ปิด, เปิด
  • โหมดโฟกัส : โฟกัสอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ, โฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่อง, ระยะอนันต์
  • เส้นกริด : ปิด, 3x3, เกลียวก้นหอยฟิโบนัชชี (ซ้าย), เกลียวก้นหอยฟิโบนัชชี (ขวา)
  • เสียงกล้อง : ปิด, เปิด
  • บริการระบุตำแหน่งที่ตั้ง : ปิด, เปิด
  • การป้องกันการกระพริบ : 50 เฮิรตซ์, 60 เฮิรตซ์
  • ตั้งค่าปุ่มปรับระดับเสียงเป็น : การย่อ/ขยาย, ชัตเตอร์
  • อินสแตนต์คาเมร่า : เปิด, ปิด
  • ปรับฟิลเตอร์ : ไม่มี, โทนสีเทา, โทนสีอุ่น, ฮิปสเตอร์, เรโทร, ซีดจาง, ภาพเก่า, สีสดใส, แดงชมพู
    โหมดต่างๆ : อัตโนมัติ, แต่งสวย, กำหนดเอง, ความละเอียดสูง, ทำรูป GIF, พาโนรามา, สโลว์โมชั่น, ไทม์แลปส์

คุณสมบัติในการบันทึกวิดีโอ

  • ความละเอียดวิดีโอกล้องหลัง : 3840x2160, 2160x1080, 1920x1080, 1920x1080 (60fps), 1920x1080 (120fps), 1280x720, 1280x720 (120fps), 640x480 พิกเซล
  • ความละเอียดวิดีโอกล้องหลัง : 2160x1080, 1920x1080, 1280x720, 640x480 พิกเซล
  • แฟลช : ปิด, ไฟฉาย

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

  

  

  

ASUS

ขอขอบคุณ : เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : ASUS ZenFone 5
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=456602

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : http://www.siamphone.com/spec/asus/zenfone_5_ze620kl.htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 8 มิถุนายน 2561

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์