แนะนำสมาร์ทโฟนและแฟ็บเล็ตที่น่าสนใจ 4 รุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีถ่ายภาพในที่แสงน้อย (Low-Light)

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับงานมหกรรมโทรศัพท์มือถือ Thailand Mobile Expo 2014 (TME 2014) ที่เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้กันแล้ว โดยสำหรับในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้มีสมาร์ทโฟนและแฟ็บเล็ตที่น่าสนใจหลากหลายรุ่นให้เลือกซื้อมาใช้งานเลยที่เดียว และในยุคกระแสการถ่ายภาพ Selfie ที่กำลังนิยมนี้ อาจทำให้มีผู้ใช้งานบางคนกำลังมองหาสมาร์ทโฟนหรือแฟ็บเล็ตเครื่องใหม่ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพดีเยี่ยม หรือถ่ายภาพได้ดีแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยก็ตาม ดังนั้นบทความนี้จะพาไปรู้จักและแนะนำสมาร์ทโฟนและแฟ็บเล็ต 4 รุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีถ่ายภาพในที่แสงน้อย (Low-Light) ที่น่าสนใจและจะวางจำหน่ายภานในงาน TME 2014 นี้กัน

เริ่มกันที่สมาร์ทโฟนที่กำลังเป็นกระแสร้อนแรงในตลาดสมาร์ทโฟนในบ้านเราตอนนี้อย่าง Asus Zenfone 5 ที่มาพร้อมสเปกที่อัดแน่น แต่ราคากับน่าสนใจเป็นอย่างมาก รวมถึงวัสดุและงานประกอบโดยรวมถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง โดย Zenfone 5 วางจำหน่าย 2 รุ่น คือรุ่นปกติ (A501CG) และรุ่นที่รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G (A500KL)

รีวิว Zenfone 5

โดยมีรายละเอียดด้านสเปกตัวเครื่อง ดังนี้

• หน้าจอขนาด IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 พิกเซล (HD)
• CPU Quad-Core Qualcomm MSM8926 (Snapdragon 400) ความเร็ว 1.2 GHz (A500KL) / CPU Intel Atom Z2560 ความเร็ว 1.6 GHz (A501CG)
• RAM 2 GB
• ROM 16 GB รองรับการใช้งาน MicroSD Card สูงสุด 64 GB
• กล้องถ่ายรูปหลัก (Pixel Master) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (Auto Focus + LED Flash, f/2.0)
• กล้องถ่ายรูปด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
• Android 4.4 Kitkat (A500KL)/ Android 4.3 Jelly Bean (A501CG)
• รองรับการใช้งานเครือข่าย 3G บนคลื่นความถี่ 850/900/2100 MHz (A501CG) / (A500KL) รองรับการใช้งาน 3G บนคลื่นความถี่ 900/2100 MHz, 4G LTE Cat1
• แบตเตอรี่ขนาดความจุ 2110 mAh

สำหรับกล้องถ่ายรูปของ Zenfone 5 นั้นมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และมาพร้อมเทคโนโลยีการถ่ายภาพ Pixel Master ซึ่งมีคุณสมบัติในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีด้วยโหมดถ่าย Low-Light ที่จะเพิ่มความสว่างของภาพขึ้น 400% รวมถึงตัวเลนส์กล้องถ่ายรูปนั้นมีการวางซ้อนกันถึง 5 ชิ้นเลยที่เดียว นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวด้วยซอฟท์แวร์ที่อ้างอิงจากจุดในภาพอีกด้วย โดย Asus วางจำหน่าย Asus Zenfone 5 ในราคา 7,990 บาทสำหรับรุ่น (A500KL) และราคา 5,990 บาทสำหรับรุ่น (A501CG)

Hands On Lumia 830

Nokia Lumia 830 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Lumia จาก Nokia ที่เปิดตัวมาพร้อมเอกลักษณ์ของ Nokia ด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพอันเลื่องชื่ออย่าง PureView จากรุ่นท๊อป และถึงแม้ Nokia Lumia 830 นี้จะเป็นสมาร์ทโฟนที่ไม่ใช่รุ่นระดับท๊อปของ Nokia เหมือนอย่าง Nokia Lumia 930 ก็ตาม แต่ก็ยังมาพร้อมความน่าสนใจในด้านการถ่ายภาพตามแบบฉบับของ Nokia อย่างครบครั้นเลยทีเดียว

สำหรับรายละเอียดด้านสเปกของ Nokia Lumia 830 มีดังนี้

• หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 พิกเซล
• CPU Quad-Core Snapdragon 400 ความเร็ว 1.2 GHz
• RAM 1 GB
• ROM 16 GB รองรับการใช้งาน MicroSD Card สูงสุด 128 GB
• กล้องหน้าความละเอียด 1 ล้านพิกเซล
• กล้องหลังพร้อมเลนส์ Carl Ziess ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (PureView + OIS)
• Windows Phone 8.1
• รองรับการใช้งานเครือข่าย 3G ทุกเครือข่าย
• แบตเตอรี่ขนาดความจุ 2200 mAh

ด้านกล้องถ่ายรูปของ Nokia นั้น เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้จักชื่อเสียงกันเป็นอย่างดีด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนของพวกเค้าอย่าง PureView นั้น ค่อนข้างขึ้นชื่อด้านการถ่ายในแสงน้อยอยู่แล้วนั้นเอง และกล้องบน Nokia Lumia 830 นั้นก็ยังคงมาพร้อมเทคโนโลยีดังกล่าวด้วยเช่นกัน แถมยังมีการใช้เลนส์ Carl Ziess ชื่อดังมาใช้เป็นเลนส์กล้องบนตัวเครื่องอีกด้วย ซึ่ง Nokia วางจำหน่าย Nokia Lumia 830 ในราคา 13,990 บาท

Sony Xperia Z3 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่จากค่ายอารยธรรม Sony ที่มาคราวนี้ยังคงมาพร้อมดีไซน์แบบ Omnibalance และมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นเหมือนเช่นเดิม ในขณะที่ด้านกล้องถ่ายรูปนั้นยังคงอัดแน่นไปด้วยคุณภาพตามแบบฉบับ Sony เหมือนเช่นเคย

สำหรับรายละเอียดด้านสเปกของ Sony Xperia Z3 มีดังนี้

• หน้าจอ Triluminos ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล
• CPU Quad-Core Snapdragon 801 ความเร็ว 2.5 GHz
• RAM 3 GB
• ROM 16 GB รองรับการใช้งาน MicroSD Card สูงสุด 128 GB
• กล้องหน้าความละเอียด 2.2 ล้านพิกเซล
• กล้องหลังความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซล (Exmor RS Sensor, Lens G)
• Android OS 4.4 Kitkat
• รองรับการใช้งานเครือข่าย 3G ทุกเครือข่าย/ 4G LTE
• แบตเตอรี่ขนาดความจุ 3100 mAh

มาที่ด้านกล้องถ่ายรูปของ Sony Xperia Z3 กันบ้าง Z3 มาพร้อมกล้องถ่ายรูปความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซล ใช้ Lens G ที่กว้างถึง 25 มิลลิเมตรที่มีประสิทธิภาพในการรับแสงได้ดีขึ้นเป็นเลนส์กล้อง รวมถึงยังมีการใช้ Sensor Exmor RS ตัวใหม่ที่มีความไวต่อการรับแสงทำให้มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพ Low-Light อยู่ในระดับดีเยี่ยมเลยที่เดียว นอกจากนี้กล้องบน Z3 ยังสามารถปรับค่า ISO ได้มากถึง 12800 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกบนสมาร์ทโฟนอีกด้วยที่สามารถปรับค่า ISO ได้มากเกือบเทียบเท่ากล้อง DSLR และยังมีฟังก์ชั่น Steady Shot ที่ช่วยลดการสั่นไหวของภาพขณะถ่ายด้วยเช่นกัน โดย Sony จะวางจำหน่าย Sony Xperia Z3 ในราคา 23,990 บาท

Hands On Galaxy Note 4

Samsung Galaxy Note 4 แฟ็บเล็ตในซีรีย์ Note ตัวใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์แบบใหม่ที่เรียกว่า "Metal Frame" รวมถึงยังมีการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่ให้ใช้งานได้จริงและครบครั้นมากขึ้นจากเดิม ปากกา S Pen ก็เป็นอีกสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับแรงกดมากขึ้นจากรุ่นก่อน

สำหรับรายละเอียดด้านสเปกตัวเครื่อง Galaxy Note 4 มีดังนี้

• หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 2560x1440 พิกเซล (QHD)
• CPU Octa-Core Exynos 5433 แบบ 64 Bit ความเร็ว 1.9 GHz (Quad-Core 1.2 GHz + Quad-Core 1.9 GHz)
• RAM 3 GB
• ROM 32 GB รองรับการใช้งาน MicroSD Card สูงสุด 64 GB
• กล้องถ่ายรูปด้านหน้าความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล (Angle View 90 องศา + f/1.9)
• กล้องถ่ายรูปด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (Smart OIS + Fast Auto Focus+ Real HDR)
• รองรับการใช้งานเครือข่าย 3G ทุกเครือข่าย / 4G LTE
• Android OS 4.4.4 Kitkat
• แบตเตอรี่ขนาดความจุ 3220 mAh ( Fast Charging 30 นาที จากแบตฯ 0-50%)

กล้องถ่ายรูปของ Galaxy Note 4 นั้นใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพ ISOCELL ที่ทาง Samsung ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยมีความสามารถในการจับ Focus ได้เร็วเพียง 3 วินาทีเท่านั้นและยังสามารถปรับระดับแสงหรือ HDR Mode ให้อัตโนมัติ (Real HDR) นอกจากนี้กล้องของ Galaxy Note 4 นั้นยังมาพร้อมระบบ Smart OIS ที่ป้องกันภาพสั่นไหวขณะถ่ายภาพด้วยเช่นกัน โดย Samsung จะวางจำหน่าย Samsung Galaxy Note 4 ในราคา 25,900 บาท (หากจองในงานจะได้รับสิทธิราคา 24,900 บาท)

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงสมาร์ทโฟนและแฟ็บเล็ตที่น่าสนใจส่วนนึงจากภายในงานเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพของกล้องถ่ายรูปในการถ่ายภาพ Low Light หรือการถ่ายภาพได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยนั้นเอง ส่วนจะถูกใจหรือตอบโจทย์การใช้งานของแต่ละคนได้มากน้อยแค่ไหนนั้นคงต้องแนะนำให้ไปลองและไปสัมผัสทดสอบการใช้งานของตัวเครื่องจริงอีกครั้งภายในงาน TME 2014 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2-5 ตุลาคมนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Foxconn เร่งเครื่องผลิต iPhone 16 ตอบรับความต้องการตลาด
• 
  iPhone 16 สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่