สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 4 ตุลาคม 2560

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ 2 สมาร์ทโฟนตัวล่าสุดจาก Google ทั้ง Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL โดยก่อนหน้ามีทั้งข่าวหลุดและภาพตัวเครื่องออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว ซึ่งแน่นอนจะมาพร้อมระบบปฏิบัติการแบบ Pure Android แต่จะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นล่ะ ? ลองมาคาดการณ์กันดีกว่าว่าจะมีฟีเจอร์อะไรบ้างที่จะพาให้ Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL สามารถต่อกรกับเหล่าสมาร์ทโฟนในปัจจุบันได้

1) กล้องตัวเดียวที่อาจใช้งานได้ดีกว่ากล้องคู่

จากภาพหลุดเรนเดอร์ของ Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL แสดงให้เห็นว่าทั้ง 2 รุ่นจะมีกล้องหลังและกล้องหน้าเป็นแบบกล้องตัวเดียว แต่อย่างไรก็ตามกล้องตัวเดียวก็อาจสร้างเสียงว้าวได้เช่นกันถ้าเกิดสามารถทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ตัวอื่นๆ ได้อย่างราบรื่น ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า Google Pixel เป็นกล้องเดียวเหมือนกันแต่ในปี 2016 กลับทำคะแนน DxOMark ได้สูงถึง 90 คะแนน และกล้องตอนนั้นยังมีเพียงเทคโนโลยี EIS (Electronic Image Stabilization) ในการป้องกันการสั่นไหว เนื่องจากตอนนี้มีเทคโนโลยี OIS (Optical Image Stabilization) ที่สามารถป้องกันการสั่นไหวได้ดีกว่า EIS ถึงหลายเท่าตัว ซึ่งน่าจะมีการนำมาใช้ใน Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL

นอกจากนี้ LG จะเป็นตัวแทนผลิต Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL ให้กับ Google ซึ่งแน่นอนว่ากล้องต้องออกมาดีเหมือนกับ LG V30 ที่พึ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ทั้งระบบการจัดการกับสิ่งแวดล้อมรอบด้านไม่ว่าจะเป็น ISO, Shutter Speed และแน่นอนว่าการปรับ Aperture เพื่อการถ่ายรูปในที่แสงน้อย

2) ลำโพงคู่ด้านหน้า

ในยุคนี้เป็นยุคของหน้าจอ Bezel-Less อย่างแท้จริง แต่มันก็ยังมีจุดที่ไม่เป็นประโยชน์อยู่เยอะโดยเฉพาะลำโพงด้านหน้าที่ต้องถูกนำออกไป ซึ่งจะทำให้ประสบกาณ์ในด้านความบันเทิงลดลงอย่างแน่นอนในยามที่ไร้หูฟัง ทำให้สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL มีข้อได้เปรียบกว่าสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นๆ

3) ยังคงมาพร้อมกับแจ็คเสียบหูฟัง

ตอนนี้กระแสสมาร์ทโฟนไร้ช่องเสียบหูฟังกำลังเป็นที่จับตาของเหล่าบริษัทผลิตสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่ทำให้มีพอร์ตเชื่อมต่อน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้สมาร์ทโฟนกันน้ำได้ง่ายขึ้น หรือต้องการจะเปลี่ยนโลกด้วยการให้ผู้ใช้งานหันมาเสียบหูฟังตรงช่อง USB Type-C แทน ซึ่งมันทำเกิดความยุ่งยากในการใช้งาน และที่จริงสมาร์ทโฟนควรออกแบบมาให้ใช้งานอย่างสะดวกสบายมากกว่าที่จะต้องมานั่งปรับเปลี่ยนซื้ออุปกรณ์เสริมแยกต่างหาก

4) ชิพเสียง 32-bit Hi-Fi Quad DAC

หาก Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL จะมาพร้อมกับลำโพงคู่แต่ไม่ได้ใส่ชิพเสียง Hi-Fi Quad DAC มาด้วยงานคงจะกร่อยน่าดู แต่เนื่องจากบริษัท LG ที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนผลิต และก่อนหน้าได้ใส่ชิพเสียง Hi-Fi Quad DAC ไว้ใน LG G6 สมาร์ทโฟนของค่าย ทำให้ไม่น่าพลาดที่จะใส่ลงใน Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL ด้วย โดย Hi-Fi Quad DAC คือชิพเสียงที่ยกระดับคุณภาพของเสียงให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการให้พลังเสียงที่ตรงชัด, ลดเสียงรบกวนไปกว่า 50% ,เสียงไม่ผิดเพี้ยน และสามารถแบ่งแยกสัญญาณเสียงได้ทั้ง 2 ลำโพงได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังสามารถเล่นเพลงในคุณภาพเสียงระดับ 32bit ได้อีกด้วย

5) มีการเชื่อมกับอุปกรณ์เสริมผ่าน Bluetooth ที่ลงตัว

หลังจากที่มีการเปิดตัว QuietComfort 35 II หูฟังไร้สายจากบริษัท Bose และนี้คือหูฟังตัวแรกที่จะมาพร้อม Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ถูกพัฒนาขึ้นจาก Google ซึ่งหากต้องการเชื่อมต่อกับ Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL ก็สามารถเชื่อมต่อได้ทันทีผ่าน Google Assistant โดยไม่ต้องไปตั้งค่าใน Setting ให้ยุ่งยากเหมือนอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ การเชื่อมต่อกับ Bluetooth ที่ผ่านมามักจะพบปัญหาอยู่บ่อยครั้ง แต่สำหรับ Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL มีการออกแบบมาเพื่อรองรับการเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ที่มี Google Assistant ทำให้การเชื่อมต่อมีความรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้นแค่กดปุ่มเพียงปุ่มเดียว

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 ฟีเจอร์ชวนตื่นเต้นใน Google Pixel 2 และ Google Pixel 2 XL ที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ ก็ต้องดูต่อไปว่าจะมีอะไรมากกว่านี้และจะสามารถมาต่อกรกับเหล่าสมาร์ทโฟนที่ได้เปิดตัวพร้อมกับวางขายไปแล้วช่วงนี้ได้หรือไม่

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่