สรุปราคาไทย iPhone 12 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Apple iPhone 12 Series โดยคราวนี้มาพร้อมกันมากถึง 4 รุ่น 4 สไตล์ ได้แก่ iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ และทุกรุ่นรองรับ 5G แล้ว เรียกได้ว่าเป็นปีแห่งการก้าวกระโดดอย่างแท้จริง รายละเอียดทุกอย่างที่ต้องรู้ ในบทความนี้ได้รวบรวมไว้ให้แล้ว ซึ่งแบ่งเป็นสองส่วน อยากรู้เรื่องไหนก่อน จิ้มได้เลย ที่ด้านล่าง ?
สรุปสเปค+ราคาเปิดตัว iPhone 12 ทุกรุ่น
*** อัพเดตล่าสุด 10 พฤศจิกายน 2563 ***
สรุปราคาวางจำหน่าย iPhone 12 ทุกรุ่น
Apple iPhone 12 mini / Apple iPhone 12
ความแตกต่างของทั้งสองรุ่นข้างต้น คือ ขนาดตัวเครื่องและขนาดหน้าจอเท่านั้น โดยดีไซน์จะเหมือนกันเลย เริ่มจากมีน้ำหนักเบากับขนาดตัวเครื่องที่บางขึ้นทำให้เล็กกะทัดรัดจับถือถนัดมากกว่าเดิม คล้ายๆ จิ๋วแต่แจ๋ว ส่วนของหน้าจอแสดงผลมีการทำเทคโนโลยีเซรามิกเข้ามาเป็นส่วนผสมกับกระจกทำให้มีความแข็งแรงทนทานกว่ากระจกทั่วไป เคลมว่าทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้นถึง 4 เท่า พร้อมมองเห็นได้ชัดกว่า ส่วนขอบตัวเครื่องทั้งคู่ใช้ขอบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศให้คุณสัมผัสได้ถึงความพรีเมียม เนื้อโลหะเดียวกัน บางเบา แต่แข็งแรง ไม่บิดเบี้ยว อีกทั้งตัวเครื่องด้านหลังมีลักษณะเงาวาว (Glossy) แต่ด้านข้างตัวเครื่องเป็นแบบด้าน นอกจากนี้ยังรองรับมาตรฐาน IP68 ด้วย ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของแอปเปิ้ลรุ่นเล็ก เพราะเดิมๆ จากรองรับแค่มาตรฐาน IP67 เท่านั้น
ทั้งสองรุ่นสามารถรับรู้การสัมผัสที่หน้าจอแสดงผลแตกต่างกันได้ เพื่อฟีเจอร์การใช้งานในแต่ละประเภท โดยจะรองรับการแสดงผลภาพแบบ HDR ในแบบ Dolby Vision, HDR10, HLG ตอบโจทย์คอนเทนต์วิดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการแสดงผลเฉดสีแบบ True Tone มีขอบเขตสีกว้างตามมาตรฐาน P3 และอัตราส่วน
ไฮไลท์อื่นที่น่าสนใจ คือ ชิปเซ็ตประมวลผลที่แรงเหมือนรุ่นพี่ นั่นคือ Apple A14 Bionic ถือว่าเป็นชิปเซ็ตที่แรงกว่าใครเพื่อนในขณะนี้ ในการประมวลผลของ CPU/GPU มีทรานซิสเตอร์ประมวลผลมากกว่า 11.8 พันล้านตัว หรือดีกว่า 40% เมื่อเทียบกับชิปเซ็ต Apple A13 รุ่นก่อน และยังเร็วแรงกว่าโดยรวมถึง 50% กับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีระบบเสียงสเตอริโอ โดยแบ่งเสียงเป็นลำโพงเหนือด้านบนหน้าจอและด้านล่างตัวเครื่อง พร้อมเทคโนโลยีเสียง Dolby ATMOS โดยตัวเครื่องมีระบบยืนยันตัวตนแบบ Face ID ด้วยเทคโนโลยี TrueDepth ที่ใช้กล้องหน้าเป็นตัวตรวจจับ
Apple เซอร์ไพรส์เปิดตัวสมาร์ทโฟน iPhone 12 เฉดสีใหม่ คือ สีม่วง โดยจะมาใน iPhone 12 และ iPhone 12 mini เท่านั้น เปิดให้สั่งซื้อในไทยล่วงหน้า 23 เมษายนนี้ ส่วนสเปกต่างๆ ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
กล้องดิจิตอลที่ดีกว่าเคย Welcome to DarkSide !?
แม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กแต่แอปเปิ้ลได้ยัดฟีเจอร์การถ่ายภาพแสงน้อย / กลางคืน เข้ามาแล้ว ทั้งกล้องหลังและกล้องเซลฟี่ โดยได้ปรับแต่งให้เลนส์กล้องรับแสงได้มากกว่า 27% มีจุดรบกวนน้อยลง ด้วยหลักการ Deep Fusion ที่จะวิเคราะห์ภาพจากหลายค่าแสงทุกอณู เพื่อให้รายละเอียดสมจริงเป็นธรรมชาติด้วยการทำงานอัตโนมัติ
สเปกเพิ่มเติมของ Apple iPhone 12 mini / Apple iPhone 12
Apple iPhone 12 Pro / Apple iPhone 12 Pro Max
ในแง่ของการดีไซน์ตัวเครื่องจะมีลักษณะเหมือนกับรุ่นน้อง เพียงแต่ว่าขอบจอจะบางขึ้น ได้พื้นที่หน้าจอเต็มๆ แน่นอนว่าเลือกใช้กระจกเซรามิกด้วย แต่ขอบตัวเครื่องมีความทนทานสูงกว่าด้วยการเลือกใช้สเตนเลสเกรดเดียวกับที่ใช้ในผลิตเครื่องมือศัลยกรรม โดยมีมาตรฐาน IP68 นอกจากนี้ตัวเครื่องด้านหลังจะเป็นแบบด้านแทน และขอบตัวเครื่องมีความเงางาม ซึ่งตรงกันข้ามกับรุ่นน้อง มีทั้ง 4 สี คือ สีแปซิฟิกบลู, สีทอง, สีเงิน และสีกราไฟต์
ส่วนจุดเด่นอื่นๆ ก็มีเหมือนกับรุ่นน้อง โดยหน้าจอแสดงผลจะมีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้
ทั้งสองรุ่นสามารถรับรู้การสัมผัสที่หน้าจอแสดงผลแตกต่างกันได้ เพื่อฟีเจอร์การใช้งานในแต่ละประเภท โดยจะรองรับการแสดงผลภาพแบบ HDR ในแบบ Dolby Vision, HDR10, HLG ตอบโจทย์คอนเทนต์วิดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการแสดงผลเฉดสีแบบ True Tone มีขอบเขตสีกว้างตามมาตรฐาน P3 และอัตราส่วน
การประมวลผลทั้งสองรุ่นก็ใช้ชิปเซ็ต Apple A14 Bionic เช่นกัน...
กล้องดิจิตอลมีความแตกต่างสแกนได้แม้กระทั่งดาวอังคาร
ความโดดเด่นที่น่าสนใจคือ ทางแอปเปิ้ลได้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในเทคโนโลยีกล้องหลังของ Apple iPhone 12 Pro / Apple iPhone 12 Pro Max ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นาซ่านำมาใช้ในการสแกนพื้นที่เพื่อลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคาร ด้วยหลักการใช้งานแบบการสะท้อนแสงกลับมาของวัตถุ นั่นก็เพื่อการใช้งานฟีเจอร์ AR ที่สมจริงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยตรวจจับการโฟกัสในสภาวะแสงน้อยได้ดีมากขึ้นถึง 6 เท่า รายละเอียดของกล้องหลังมีดังต่อไปนี้....ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มีเทคโนโลยี Deep Fusion รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K/HDR - Dolby Vision
อย่างไรก็ตามในแง่ของสเปกเพิ่มเติมก็จะมีเหมือนกันกับ iPhone 11 ดังนั้นทั้ง 4 รุ่น (2 Part) สรุปความแตกต่างเป็นใจความสำคัญได้ว่า...
รู้หรือไม่! ด้วยแนวทางของแอปเปิ้ลและมลภาวะของโลกตอนนี้ ทำให้มีการเลิกแถมอะแดปเตอร์และชุดหูฟังแล้ว ไม่เพียงเฉพาะ iPhone 12 Series ทั้ง 4 รุ่น แต่ก็มีทั้ง iPhone SE 2020, iPhone 11 และ iPhone XR ด้วย
อุปกรณ์เสริม MagSafe คืออะไร
โดยไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะเคยใช้งานร่วมกับ MacBook มาก่อนแล้ว มากกว่า 10 ปี โดย MagSafe จะสามารถล็อกโทรศัพท์เข้ากับแท่นชาร์จ รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่เป็นแม่เหล็กได้ ทำให้แอปเปิลสามารถออกอุปกรณ์เสริม เช่น นามบัตร หรือกระเป๋าใส่บัตรที่มีแม่เหล็ก
ส่วนราคาวางจำหน่าย ทาง Apple ระบุว่าอุปกรณ์เสริม MagSafe ที่ชาร์จ MagSafe ราคา 1,490 บาท / กระเป๋าสตางค์ MagSafe 2,190 บาท / ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ ราคา 4,990 บาท / ซองหนังสำหรับ iPhone 12 | 12 Pro พร้อม MagSafe ราคา 4,990 บาท / ซองหนังสำหรับ iPhone 12 mini พร้อม MagSafe ราคา 4,990 บาท ส่วนใครอยากซื้ออาจต้องรออีกหน่อย เพราะคาดว่าจะวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 27 พฤศจิกายนศกนี้เหมือนกับ iPhone 12 Series
สรุปราคาวางจำหน่าย iPhone ทุกรุ่น
สำหรับราคาข้างต้นทาง Apple Store ประเทศไทย ได้ประกาศออกมาแล้ว การวางขายหน้าร้านวันที่ 27 พ.ย. 2020
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 21 เมษายน 2564
vivo Y200 5G สมาร์ทโฟนน้องเล็กสายแกร่ง พร้อมท้าทุกการใช้งาน ยาวนาน 4 ปีเต็ม
รีวิว vivo Y200 5G สุดทน หน้าจอคมชัด ทนน้ำทนฝุ่น แบตฯ อึดทนใช้นาน 4 ปี ท้าชนทุกสเปก
ทำความรู้จัก Samsung Galaxy A16 5G อัปเดต OS นาน 6 ปี นานที่สุดที่เคยมีมา เคาะราคาไทยแล้ว!
vivo Y200 5G พร้อมจำหน่ายในไทย ได้จอ AMOLED 120Hz แบตเตอรี่ทนนาน 4 ปี
vivo Y300 Plus 5G ฝาหลังลายผ้าไหม หน้าจอ 120Hz กล้องเซลฟี่ 32MP ชาร์จเร็ว 44 วัตต์
ZTE Blade V70 สมาร์ทโฟนระดับกลาง สเปคจัดเต็ม ดีไซน์บางเบา12 ชั่วโมงที่แล้ว
iPhone SE 4 ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ สู่ยุค 5G เต็มรูปแบบ12 ชั่วโมงที่แล้ว
Samsung Galaxy S25 Slim สุดยอดกล้องระดับไฮเอนด์ในตัวเครื่องที่บางเฉียบ20 ชั่วโมงที่แล้ว