มาย้อนรอยกันหน่อย 'Nokia N Series' คืออะไร และมีจุดเริ่มต้นอย่างไร...?

Nokia อีกหนึ่งบริษัทในตำนานที่เชื่อว่าทุกคนรู้จักกันอย่างดี ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 150 ปี ซึ่งก็ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมายสู่ท้องตลาด อีกทั้งก็ยังเป็นผู้นำด้านโทรศัพท์มือถือมาตลอด แต่การก้าวเดินผิดพลาดครั้งสำคัญ จากการไม่ตระหนักถึงความสำคัญของสมาร์ทโฟน ที่ยังคงรูปแบบเดิมไม่มีเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมที่หวือหวา ทำให้วางกลยุทธ์ และทิศทางเดินทั้งภายใน และภายนอกองค์กรผิดพลาด ส่งผลให้กำไรที่ได้ลดลง จนบริษัทไมโครซอฟท์เข้ามาซื้อกิจการด้านโทรศัพท์ไป ทว่าก่อนหน้านี้ยุคที่ถือได้ว่ารุ่งเรืองของโนเกีย ก่อนโดนเข้าซื้อก็คือตระกูล N Series เพราะฉะนั้นเรามาย้อนวันวานกันสักหน่อย ว่าซีรีย์ดังกล่าวมีความหมาย และจุดเริ่มต้นมาอย่างไร...?

ก่อนไปดูหน้าตา และความสามารถของสมาร์ทโฟนมือถือตระกูล "N" เรามาดูกันว่าทำไมโนเกีย ถึงตั้งใจใช้ชื่อนี้นำหน้า...?

สำหรับ N Series โนเกียตั้งใจว่าสมาร์ทโฟนทั้งหมดที่ใช้ชื่อดังกล่าวนำหน้าจะต้องรองรับการใช้งานมัลติมีเดียเต็มรูปแบบ "High-end multimedia smartphones" เสมือนมีเครื่องคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงขนาดพกพา ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกวีดีโอ, การถ่ายภาพ, การฟังเพลง, ส่งอีเมล์พร้อมไฟล์แนบ หรือระบบเชื่อมต่อทั้งหลายที่ครบถ้วน

โดยจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟน "N Series" นั้นมีด้วยกัน 3 รุ่น ซึ่งเปิดตัวในปีค.ศ. 2005 หรือพ.ศ. 2548 วันที่ 27 เมษายน ได้แก่ N70, N90 และ N91 ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไปดังนี้

1. Nokia N70 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์คล่องตัว แข็งแรงทนทาน และเน้นความบันเทิงเต็มรูปแบบ อาทิ การเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย 3G, กล้องดิจิตอลหลังความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า VGA สามารถสนทนาแบบ Video Calling หรือเครื่องเล่นเพลง และวีดีโอ

2. Nokia N90 สมาร์ทโฟนแบบฝาพับสุดคลาสสิค โดยสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ 4 ลักษณะ อีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของกล้องดิจิตอลประสิทธิภาพสูงจาก Carl Ziess โดยมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส และระบบป้องกันตาแดง

3. Nokia N91 ถูกเปิดตัวมาเพื่อเอาใจผู้ที่รักการฟังเพลง โดยมาพร้อมปุ่มควบคุมการเล่นเพลง และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในขนาด 4GB ทำให้บันทึกเพลงได้เกือบ 3,000 เพลง นอกจากนี้ยังผลิตด้วยวัสดุที่ทนทานอย่าง Stainless Steel จึงกลายเป็นคู่แข่งกับเครื่องเล่นเพลงยอดฮิตอย่าง iPod ไปโดยปริยาย

และปีเดียวกันก็ยังได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีย์ N อีก 3 รุ่นเพิ่มเติม ได้แก่ N71, N80 และ N92 สานต่อความสำเร็จจากสามรุ่นก่อนหน้านี้ โดยทั้งหมดรันบนระบบปฏิบัติการ Symbian OS ครอบทับด้วย S60 UI

4. Nokia N71 กลับมาคราวนี้ได้เปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิมคือมาในลักษณะฝาพับ และหน้าจอมีความละเอียดคมชัดมากขึ้น โดยยังกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซลเช่นเดิม อีกทั้งยังรองรับการใช้งานภาษาไทยมาแต่เดิม ทำให้ไม่ต้องไปดาวน์โหลดเพิ่มเติมแต่อย่างใด

5. Nokia N80 โดยมาพร้อมจุดเด่นอย่างกล้องดิจิตอลความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ที่มี Photo Light ให้ความสว่างของภาพในเวลากลางคืน และยังมีโหมดถ่ายภาพในระยะใกล้ (Macro) ส่วนเรื่องของดีไซน์ก็ออกแบบมาเท่ๆ ในลักษณะสไลด์

6. Nokia N92 ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องเรื่องความบันเทิง โดยมาพร้อมรูปแบบการใช้งานหลายลักษณะ มีหน้าจอที่กว้าง และสีสันคมชัด นอกจากนี้ยังสามารถชมรายการโทรทัศน์แบบสดๆ และบันทึกรายการโทรทัศน์ที่ต้องการได้

ต่อมาปีค.ศ. 2006 หรือพ.ศ. 2549 โนเกียยังคงเดินหน้าสานต่อความสำเร็จกับ 6 รุ่นก่อนหน้านี้ โดยการเปิดตัวอีก 7 รุ่น ได้แก่ N70 Black, N72, N73, N73 Black, N75, N91 Black, N95 ในช่วงเดือนเมษายน และกันยายน

7. Nokia N72 ถือว่าเป็นรุ่นที่เรียกว่าแฟชั่นโฟนก็ไม่ผิด โดยถูกเปิดตัวมาในสองเฉดสี ได้แก่ สีดำและสีชมพู ซึ่งแต่ละสีต่างก็มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังปรับเปลี่ยนด้านดีไซน์ให้มีความทันสมัย

8. Nokia N73 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่เอาใจคนรักการถ่ายรูป และความบันเทิง ด้วยสโลแกน "the Ultimate Challenge to the Digital Camera" แปลว่า แบ่งปันที่สุดประสบการณ์สู่ทุกสายตาด้วยภาษาภาพ กับเลนส์กล้อง Carl Zeiss โดยมีความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส อีกทั้งด้านบน และด้านล่างตัวเครื่องก็มีลำโพงสเตอริโอแบบ 3D 

9. Nokia N75 เพลิดเพลินไปกับหลากหลายเพลงที่สามารถบันทึกลงการ์ด MicroSD Card ได้ โดยเพิ่มได้สูงสุด 2GB ส่วนดีไซน์เป็นแบบฝาพับ โดยบริเวณฝาพับจะมีปุ่มควบคุมการเล่น 3 ปุ่ม ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเข้าไปที่หน้าจอแต่อย่างใด

10. Nokia N93 ตอบโจทย์การใช้งานด้านการถ่ายภาพ หรือจะบันทึกวีดีโอได้เป็นอย่างดี โดยมีกล้องดิจิตอลความละเอียด 3.1 ล้านพิกเซล ที่มีการซูมแบบออพติคอลและออโต้ โฟกัส อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth, IrDa ทำให้การแชร์ข้อมูลไม่เป็นอุปสรรค

11. Nokia N95 ที่สุดแห่งสมาร์ทโฟนของซีรีย์ N ตั้งแต่เปิดตัวมา โดยรวบรวมความบันเทิงเต็มรูปแบบในเครื่องเดียว และมีการประมวลผลที่รวดเร็ว มาพร้อมระบบปฏิบัติการสุดเสถียร Symbian OS 9.2 ตามสโลแกน It’s what computer have become. 

รุ่น Music Player โดยรวมมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ที่เห็นได้ชัดคือปุ่มควบคุมด้านขวา จะเป็นปุ่มลัดเข้าหน้าเครื่องเล่นเพลง แทนที่ปุ่มเข้าเมนูทั่วไป

ต่อมาช่วงต้นปีค.ศ. 2007 โนเกียเดินเกมส์ต่อโดยการส่ง 3 สมาร์ทโฟนมาให้ยลโฉม ได้แก่ N76, N77, N93i ในขณะที่ช่วงเดือนสิงหาคมก็เปิดตัวอีก 3 รุ่นคือ N81, N81 8GB และ N95 8GB

12. Nokia N76 เป็นรุ่นที่นอกจากจะสามารถใช้งานโทรเข้า โทรออกได้ ยังนำมาส่องหน้า ส่องผมตรวจเช็ดความเรียบร้อยได้ ด้วยแผงโลหะที่มีลักษณะคล้ายกระจก

13. Nokia N77 ไม่พลาดทุกรายการยอดฮิต ด้วยฟีเจอร์รองรับการดูโทรทัศน์ผ่านระบบ DVB-H (DVB-H TV Broadcast Receiver) โดยมีหน้าจอขนาดกว้าง 2.4 นิ้ว ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล

14. Nokia 93i ยังคงพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับสมาร์ทโฟนที่มีลักษณะหมุนได้ โดยครั้งนี้มีดีไซน์ดูพรีเมี่ยมขึ้น และก็มีไฟ LED คอยแจ้งเตือน ทำให้ไม่พลาดทุกจังหวะการติดต่อสื่อสาร อีกทั้งเมื่อผู้ใช้ถ่ายรูป หรือบันทึกวีดีโอก็สามารถแชร์ไปยังโลกออนไลน์ได้ทันที ตามสโลแกนที่ว่า "Nokia N93i is about easy capturing, reliving and sharing of memories and experiences regardless of time or place."

15. Nokia N81 เอาใจคนรักการเล่นเกมกันหน่อย เมื่อโนเกียตั้งใจออกแบบตัวเครื่องให้รองรับการเล่มเกม N-Gage ได้อย่างเต็มอรรถรส ด้วยปุ่มพิเศษโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีลำโพงสเตอริโอ และปุ่มควบคุมเพลง

16. Nokia N81 8GB เป็นอีกรุ่นที่น่าจับตามองในขณะนั้น ด้วยหน่วยความจำมากถึง 8GB แล้วทางโนเกียก็ยังได้ประกาศเปิดตัวโปรแกรมเล่นเกม N-Gage ก่อนหน้านี้ไป ทำให้รุ่นดังกล่าวกลายเป็นทางเลือกสำหรับคนที่รักการฟังเพลง และเล่นเกม

17. Nokia N95 8GB สมาร์ทโฟนแห่งมัลติมีเดียอย่างแท้จริง ด้วยหน้าจอใหญ่ขึ้น ลำโพงที่ได้รับการออกแบบใหม่ และปุ่มพิเศษต่างๆ อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน หรือระบบ GPS ในตัว อีกทั้งการท่องโลกอินเทอร์เน็ตก็ทำได้หลายช่องทาง เช่น WiFi, 3G, HSDPA โดยมาพร้อมหน่วยความจำ 8GB เก็บเพลงได้มากถึง 6,000 เพลง และวีดีโอ 20 ชั่วโมง ตามสโลแกน "Stunning screen, massive memory."

18. Nokia N82 (It's what cameras have become) มาพร้อมจุดเด่นด้านการถ่ายรูปด้วยกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล + ออโต้โฟกัส + เลนส์จาก Carl Zeiss และไฮไลท์คือไฟลแฟลชจาก Xenon ที่เรียกได้ว่าถ่ายภาพตอนกลางคืนไม่มีมืด อีกทั้งยังมีความสามารถบันทึกวีดีโอ 640 x 480 พิกเซล ที่ 30 เฟรมต่อวินาที และเมื่อบันทึกเสร็จก็ต่อสายเข้ากับทีวีได้เลย

ปี.ค.ศ. 2008 การเดินทางของโนเกีย N Series ยังมีต่อ แต่ก็ต้องเผชิญกับคู่แข่งขันที่เดินหน้าผลิตสมาร์ทโฟนออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ Apple, Samsung, LG หรือ BlackBerry อีกทั้งในช่วงเวลานี้ผู้บริโภคต่างมองหาฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีมากกว่าการโทรเข้าโทรออกเพียงอย่างเดียว จึงทำให้ Nokia ตัดสินใจส่ง 6 สมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ Symbian สู่ตลาดอีก 5 รุ่น ได้แก่ N78, N79, N85, N95 และ N96

19. Nokia N78 เผยโฉมให้เห็นในงาน Mobile World Congress เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ โดยเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับคำชมจากสื่อต่างประเทศว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบทุกด้าน และเริ่มมีดีไซน์ที่ดูทันสมัยมากขึ้น

20. Nokia N79 ใช้งานอย่างมีชีวิตชีวา และทรงพลัง ตามสโลแกน Colourful & Powerful โดยมาพร้อมกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช LED 2 ดวง สามารถแนบตำแหน่งไปกับภาพได้ นอกจากนี้ในส่วนของ GPS ได้รับการพัฒนาให้แสดงข้อมูลที่แม่นยำ และแบตเตอรี่มีความจุมากขึ้นกว่าเดิม

21. Nokia N85 มีตัวเครื่องเป็นแบบสไลด์สองทาง เพื่อใช้งานด้านมัลติมีเดียได้คล่องตัวมากขึ้น โดยมาพร้อมหน้าจอขนาดกว้าง 2.6 นิ้ว แบบ OLED ให้สีสันหน้าจอสดใส  ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 8GB

22. Nokia N96 กลับมาคราวนี้ไม่เหมือนกับรุ่นน้องอย่าง N95 เพราะมีการเพิ่มคุณลักษณะการใช้งานให้มากกว่าเดิม อาทิ ปุ่มกดเล่นเพลงด้านหน้าของตัวเครื่อง, Navi wheel, และไฟแฟลชคู่ อีกทั้งยังเป็นรุ่นแรกที่แถมสายชาร์จในรถยนต์มาให้อีกด้วย ตามสโลแกน "Designed for video and TV entertainment"

23. Nokia N97 พิมพ์เอกสารได้อย่างสะดวก ด้วยแผงแป้นพิมพ์ QWERTY ที่เลื่อนออกมาทางด้านข้างได้ พร้อมปรับระดับให้ลาดเอียงโดยอัตโนมัติ ช่วยให้การใช้งานในมุมมองแนวนอนไม่เป็นเรื่องยาก และหน้าจอเป็นแบบสัมผัสขนาดกว้าง 3.5 นิ้ว โดยโนเกียวางสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวให้อยู่ในกลุ่มพรีเมี่ยม หวังสานต่อความสำเร็จจากรุ่น N95 แทนที่รุ่น N96 ซึ่งมียอดขายที่ไม่ประสบความสำเร็จ

24. Nokia N86 สร้างสถิติด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของค่ายที่มีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ใช้เลนส์ Carl Zeiss และมาพร้อมไฟลแฟลชคู่ LED + ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ บนหน้าจอขนาดกว้าง 

25. Nokia N97 Mini แตกต่างจากรุ่นก่อนตรงที่มีขนาดเล็กกว่า กะทัดรัดกว่าเดิม ทำให้การใช้งานมีความคล่องตัว แต่ยังอัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย และหากใครต้องการความพรีเมี่ยมด้วยทองคำ 18 กะรัต ก็เพียงเพิ่มเงินอีกประมาณ 1 หมื่นบาทเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่ไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย

ปีค.ศ. 2010 โนเกียก็เริ่มเผชิญการแข่งขันธุรกิจสมาร์ทโฟนที่รุนแรงรอบด้าน เพราะมีหลากหลายแบรนด์เริ่มเห็นความสำคัญในแวดวงนี้ จึงเริ่มผลิตสมาร์ทโฟนที่มีคุณสมบัติหลากหลาย ใช้งานได้อย่างสมาร์ทๆ ในราคาที่ไม่แพงมากนัก ส่วนประเทศไทยหลังจากที่โนเกียครองส่วนแบ่งทางการตลาดมาอย่างยาวนาน แต่ก็สั่นคลอนให้กับ 2 แบรนด์ คือ Apple iPhone 4 กับ Blackberrry สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นในเรื่องของการแชท

26. Nokia N8 อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Xenon, ออโต้โฟกัส, ระบบป้องกันภาพสั่นไห, ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถบันทึกวีดีโอความละเอียด HD ได้

27. สุดท้ายการเดินทางของโนเกียซีรีย์ N ก็มาถึงจุดจบแล้ว โดยการส่ง "Nokia N9" รุ่นเดียวของปีและรุ่นสุดท้ายในซีรีย์ ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนดีไซน์พรีเมี่ยมสีสันสดใส เปิดตัวในปีค.ศ. 2011 มาพร้อมหน้าจอขนาดกว้าง 3.9 นิ้ว รันบนระบบปฏิบัติการ MeeGo และในส่วนของกล้องดิจิตอลถึงแม้จะมีความละเอียดแค่ 8 ล้านพิกเซล แต่ใครต่อหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพการถ่ายภาพที่ดีที่สุดของโนเกีย 

และนอกจากจะมีสมาร์ทโฟนในรุ่น N - Series อยู่หลากหลายรุ่นแล้ว ในส่วนของแท็บเล็ตก็มีเหมือนกัน ซึ่งมักจะเรียกกันว่า "Internet Tablet" และเผยโฉมมาด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ N800, N810 และ N900 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

Nokia N800 ถูกเปิดตัวขึ้นในปีค.ศ. 2007 ในงาน CES ที่ลาสเวกัส โดยโนเกียตั้งใจผลิตออกมาเพื่อสานต่อความสำเร็จจากรุ่น Nokia 770 ซึ่งก็มาพร้อมคุณสมบัติแบบมัลติมีเดียที่ครบครันมากกว่าเดิม ทำให้ถูกจัดมาอยู่ในตระกูล N มีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอขนาดกว้าง 4.1 นิ้ว, Webcam, Flash Player, ช่องเพิ่มหน่วยความจำ 2 ช่อง (Two MicroSD Card Slort) เป็นต้น

Nokia N810 โดยยังคงเดินหน้าสานต่อความสำเร็จจากรุ่นน้อง ซึ่งถูกเปิดตัวขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีเดียวกัน และมาพร้อมคุณสมบัติที่ยังครบครันด้านมัลติมีเดียเช่นเคย แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือการอัพเกรดประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผล รวมถึงหน้าจอให้ดีขึ้นกว่าเดิม และที่เด่นชัดก็คือแผงปุ่มกดแบบ QWERTY ที่มีมาให้ในรุ่นนี้

Nokia N900 ถือว่าการเปิดตัวรุ่นดังกล่าวของโนเกีย สามารถสร้างความฮือฮาได้พอสมควร กับระบบปฏิบัติการ Meamo 5.0 แบบโอเพนซอร์ส ทำให้นักพัฒนาที่สนใจสามารถสร้างแอปพลิเคชัน และนำมาใช้บนโทรศัพท์มือถือได้อย่างไร้ขีดจำกัด อีกทั้งจุดเด่นของรุ่นนี้คือการทำงานแบบ Multi-Tasking, แผงปุ่มกด QWERTY, และสนับสนุนการท่องเว็บไซต์เต็มรูปแบบด้วย Mozilla Firefox ที่รองรับ Adobe Flash Player , Javascript เป็นต้น หรือกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์คุณภาพสูงจากเยอรมัน และเพิ่มการปกป้องอีกขั้นด้วยฝาเลื่อนปิดหน้ากล้องแบบสไลด์

สุดท้ายเรามาย้อนรอยกันอีกสักนิดระหว่าง Nokia N Gage และ N Gage QD สองสมาร์ทโฟนคู่หูปฏิวัติวงการเกม โดยเชื่อว่าใครหลายคนต้องเคยผ่านมือ หรือจับจองกันเป็นเจ้าของกันมาแน่นอน ซึ่งหลังจากโนเกียเปิดตัวมาก็ได้ทุ่มกลยุทธ์การโฆษณาอย่างเต็มที่หวังสร้างกระแสความแปลกใหม่ ตื่นเต้น และใครที่ได้ไปเดินตามสถานที่ต่างๆ ในช่วงนั้นก็จะเห็นแผ่นป้ายโฆษณาติดให้เห็นอยู่เสมอ....เคยเล่นเกมอะไรกันบ้างครับนำมาแชร์กัน?

สำหรับบริษัทโนเกียมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน สามารถสร้างชื่อเสียงให้โด่งดังไปทั่วโลก แต่กับไม่สามารถประคองตัวเองให้อยู่ในตลาดได้ เนื่องจากการเดินกลยุทธ์ที่ผิดพลาด และถึงแม้ล้มเหลวในการแข่งขัน ทว่าก็นับได้ว่าโนเกียนั้นกลายเป็นผู้เริ่มต้นธุรกิจนี้อย่างประสบความสำเร็จ ด้วยที่มีผลิตภัณฑ์ให้ได้ใช้มากมาย แล้วเราจำกันได้ไหมครับว่าเคยใช้อะไรกันมาบ้าง...?

อย่างไรก็ดีตามข่าวล่าสุดโฆษกของบริษัทโนเกียยืนยันมาเองเลยว่า พวกเขา (Nokia) กำลังมองหา"พันธมิตรชั้นนำระดับโลกที่คู่ควร" ที่จะสามารถดูแลการผลิต, การขาย และการตลาด รวมถึงบริการหลังการขายของโทรศัพท์มือถือภายใต้แบรนด์ Nokia สามารถคลิกอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ Siamphone.com