www.siamphone.com

ข่าว

Xperia C5 Ultra vs Zenfone Selfie กล้องหน้า-หลัง 13 ล้านพิกเซลเหมือนกัน แต่ราคาต่างกัน 1,000 รุ่นไหนดี..?

สมาร์ทโฟน (Smartphone)   |   วันที่ : 13 กันยายน 2558

ถึงแม้จะมีรุ่นใหญ่ในราคา 2 หมื่นเปิดตัวหลายรุ่นในปีค.ศ. 2015 ทว่าสมาร์ทโฟนระดับกลางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และก็ยังมีราคาที่ไม่แพงนั้นก็มีหลายรุ่นเช่นกัน อย่างไรก็ดีปัจจัยหนึ่งที่ผู้ใช้ได้นำมาเป็นข้อตัดสินใจซื้อก็คือ ความสามารถด้านการถ่ายภาพของกล้องหน้าและกล้องหลัง เพราะฉะนั้นบทความนี้จึงขอหยิบยกสองแอนดรอยด์โฟนระหว่าง Asus Zenfone Selfie VS Sony Xperia C5 Ultra ที่มีกล้องหน้าและหลังความละเอียด 13 ล้านเหมือนกัน แต่ดันมีราคาต่างกัน 1,000 บาท โดยถ้าต้องการซื้อนั้นจะเลือกรุ่นไหนดีละ...?

เริ่มกันที่ระบบปฏิบัติการ

โดยทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนด้วยแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 5.0 ทั้งคู่ แต่ในส่วนของ Asus Zenfone Selfie ก็จะครอบทับด้วย Zen UI ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวก อาทิ.....

  • ZenMotion โดยสามารถเรียกใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ที่มีอยู่ภายในเครื่องได้ทันที ผ่านปลายนิ้วในขณะที่หน้าจอแสดงผลล็อคอยู่ เช่นวาดตัว S บนหน้าจอ เพื่อเข้าสู่โหมดเซลฟี่
  • Personalized UI ให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งฟอนต์, ธีม หรือการ Setup ได้ตามสไตล์ของเราเอง
  • SnapView โหมดที่ช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัว ด้วยการตั้งค่ารหัสปลดล็อคที่ต่างกันนั้นให้เข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ไม่เหมือนกัน 
  • โหมดสำหรับเด็ก (Kid Mode) โดยจะกำจัดการใช้งาน อาทิ การดาวน์โหลดแอปฯ และการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ เป็นต้น

ด้านดีไซน์

Asus Zenfone Selfie เป็นสมาร์ทโฟนที่ต่อยอดมาจาก Zenfone 2 ซึ่งก็จะมีดีไซน์ที่ไม่ต่างกันมากนัก ในขณะที่ฝาหลังเป็นพลาสติกผิวด้าน อีกทั้งยังออกแบบให้มีความโค้งมน เพื่อสอดรับกับฝ่ามือทำให้การจับถือสะดวกยิ่งขึ้น โดยจะมาพร้อมกับเฉดสีที่สดใส 3 สีได้แก่ สีขาว, สีชมพู และสีนํ้าเงิน

Sony Xperia C5 Ultra อัพเกรดการออกแบบจากรุ่น C4 พอสมควร แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์แบบ "OmniBalance" ฝาหลังใช้วัสดุพลาสติกลักษณะมันวาว ส่วนด้านข้างเป็นอะลูมิเนียม โดยก็มาพร้อมขอบหน้าจอบางเฉียบเพียง 0.8 มม. และก็ขอบตัวเครื่องที่โค้งมน ทำให้การใช้งานมือเดียวไม่ยากเย็นเกินไปบนหน้าจอขนาดกว้าง 6 นิ้ว และจะมีเฉดสี 3 สีได้แก่ สีขาว, สีดำ และสีเขียวมินท์

ด้านขนาดตัวเครื่องและนํ้าหนัก 

  • Asus Zenfone Selfie : 156.5 x 77.2 x 10.8 มม. และนํ้าหนัก 170 กรัม
  • Sony Xperia C5 Ultra : 164.2 x 79.6 x 8.2 มม. และนํ้าหนัก 187 กรัม

ด้านหน้าจอ

Asus Zenfone Selfie จะใช้หน้าจอชนิด IPS ขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว ความละเอียด FullHD และเทคโนโลยี ASUS TruVivid ที่จะทำให้หน้าจอสามารถแสดงสีสันได้คมชัด สมจริง อีกทั้งยังมีมุมมองแบบ VIEWING ANGLE ซึ่งจะให้ภาพที่กว้างลึกถึง 178 องศา บนความหนาแน่นต่อพิกเซล 403ppi นอกจากนี้ยังครอบทับหน้าจอด้วย Corning Gorilla Glass 4 ทำให้ปกป้องรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี

Sony Xperia C5 Ultra นั้นมีหน้าจอแบบ IPS แต่ให้การแสดงผลระดับเดียวกับ BRAVIA TV บนหน้าจอแสดงผลขนาดกว้าง 6 นิ้วความละเอียด FullHD ที่มีขอบหน้าจอสุดบาง ทำให้สามารถรับชมรายละเอียดของคอนเทนต์ได้ครบถ้วนมากขึ้น รวมถึงการมีคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วน อีกทั้งก็ยังมีปุ่มควบคุมการทำงานของสมาร์ทโฟนแบบ On Screen และถึงแม้จะหน้าจอใหญ่ใช้งานมือเดียวยากลำบาก แต่โซนี่ก็ไม่ลืมข้อนี้ด้วยการใส่ระบบการใช้งานมือเดียว 

ด้านฮาร์ดแวร์ (CPU, GPU, Ram, Rom และแบตเตอรี่)

  Asus Zenfone Selfie Sony Xperia C5 Ultra หน่วยประมวลผล (CPU) Qualcomm Snapdragon 615 (Octa-Core, 64-bit) ความเร็ว 1.5GHz MediaTek MTK6752 (Octa-Core, 64-bit) ความเร็ว 1.7GHz หน่วยประมวลผลกราฟฟิก (GPU) Adreno 405 ARM Mali760 MP2  Ram LPDDR3 (3GB) 2GB หน่วยความจำภายใน (Rom)  32GB  16GB หน่วยความจำภายนอก (MicroSD Card) 128GB 200GB แบตเตอรี่ 3000 mAh Li-Polymer 2930 mAh Li-Polymer

ด้านระบบเชื่อมต่อ

  • Asus Zenfone Selfie สามารถเชื่อมต่อ WLAN 802.11 b/g/n/ac, USB 2.0, Bluetooth V4.0, GPS, GLONASS, AGPS & BDS 
  • Sony Xperia C5 Ultra มีคุณสมบัติเชื่อมต่อ WiFi, WiFi Hotspot, aGPS, GLONASS, DLNA, Miracast, NFC, USB High speed 2.0, Bluetooth 4.1

ด้านซิมการ์ด

สำหรับ Asus Zenfone Selfie จะรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยทั้งสองซิมสามารถสแตนบายได้ 2G/3G/4G แต่ใช้งานเครือข่าย 3G/4G ได้เพียงซิมการ์ดเดียวเท่านั้น และเป็นซิมการ์ดประเภท Micro SIM รวมถึงมีคลื่นความถี่ดังต่อไปนี้

นอกจากนี้ 4G LTE จะใช้งานบนความเร็วสูงสุดที่ Cat 4. ซึ่งให้ความเร็วในการดาวน์โหลดที่ 150Mbps และอัพโหลดสูงสุด 50 Mbps

  • 2G : 800/900/1800/1900 MHz
  • 3G : 850/900/1900/2100 MHz
  • 4G LTE : 800/850/900/1800/1900/2100/2600 MHz

ส่วน Sony Xperia C5 Ultra สามารถใช้ได้เพียงซิมการ์ดเดียว และรองรับการใช้เครือข่ายไร้สายความเร็วสูง 4G LTE บนความเร็วการดาวน์โหลดสูงสุด Cat 4. โดยซิมการ์ดเป็นประเภท Nano Sim Card และก็จะมีคลื่นความถี่ดังต่อไปนี้

  • 2G : 800/900/1800/1900 MHz
  • 3G : 850/900/1900/2100 MHz
  • 4G LTE : 700/850/900/1800/2100/2300/2600 MHz

ด้านกล้อง

Asus Zenfone Selfie จะมีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ไฟแฟลชคู่ LED รูรับแสง f/2.0 พร้อมเลนส์ขนาดใหญ่ 5 ชิ้น และเซ็นเซอร์จาก Toshiba โดยสามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็วเพียง 0.2 วินาทีเท่านั้น

กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้าน โดยมีไฟแฟลชคู่ LED ช่วยถ่ายภาพในพื้นที่สภาวะแสงน้อยได้ดี ซึ่งมีรูรับแสง f/2.2 แถมยังให้มุมมองที่กว้างถึง 88 องศา อีกทั้งยังมีโหมดต่างๆ อาทิ โหมด Low-Light, Beautification, Selfie Panorama เป็นต้น

Sony Xperia C5 Ultra ก็มีกล้องหลัง และกล้องหน้า (เลนส์มุมกว้าง 22 มม. พร้อมมุมมอง 88 องศา) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเช่นกัน แต่แตกต่างตรงที่จะมีไฟแฟลช LED แค่ดวงเดียวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยจะใช้เซ็นเซอร์ Exmor RS ในการถ่ายภาพ ซึ่งโซนี่บอกว่าภาพที่ได้นั้นจะมีความสว่างเป็นธรรมชาติในสภาวะแสงน้อย 

นอกจากนี้ก็ยังมีโหมด SteadyShot, HDR สำหรับภาพถ่ายและวิดีโอ และการบันทึกวีดีโอความละเอียดระดับ FullHD ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

ด้านราคา

  • Asus Zenfone Selfie วางจำหน่ายในราคา 11,990 บาท
  • Sony Xperia C5 Ultra วางจำหน่ายในราคา 12,990 บาท

ด้านสรุปข้อดีของแต่ละรุ่น

Asus Zenfone Selfie

  • ราคาถูกกว่า 1,000 บาท
  • ฟีเจอร์อำนวยความสะดวกต่อการใช้งาน ZenMotion
  • Ram และ Rom มากกว่า
  • กล้องด้านหลังมี Laser auto-focus ทำให้จับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด

Sony Xperia C5 Ultra

  • หน้าจอที่ใหญ่กว่า แต่มีโหมดการใช้งานมือเดียว และคมชัดระดับทีวี BRAVIA TV ของ Sony
  • ระบบเสียงอันโดดเด่น ClearAudio+ และ xLOUD
  • โหมดประหยัดพลังงาน (Battery STAMINA)
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 2 วัน
  • รองรับหน่วยความจำภายนอก หรือ MicroSD Card สูงสุดถึง 200GB

จบลงแล้วสำหรับการเปรียบเทียงสองสมาร์ทโฟนเซลฟี่ที่มีกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล อย่างไรก็ดีต้องบอกว่าแต่ละรุ่นนั้นก็มีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป ซึ่งโจทย์สำคัญของผู้ใช้งานคือ "การเลือกใช้ให้ตรงตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง" เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เพราะราคารวมถึงสเปกก็ไม่แตกต่างกันจนเกินไป

วันที่ : 13 กันยายน 2558

10,413
อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข่าวล่าสุด

ไฮไลท์ข่าว

หมวดข่าว

None AMP version