www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 6 มิถุนายน 2559
Advertorial : นอกจากเรื่องของกล้องถ่ายรูปและสเปกตัวเครื่อง ที่มีการพัฒนายกระดับขึ้นไปอีกขั้นแล้ว ในด้านของดีไซน์หรือการออกแบบตัวเครื่องเอง ก็นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งของ OPPO F1 Plus ที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นมาใหม่จากรุ่นก่อนให้สวยงาม ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ารวมไปถึง Color OS ระบบปฏิบัติการที่เป็นหัวใจหลักในการทำงานบนสมาร์ทโฟนของ OPPO ก็ได้รับการปรับปรุงหน้าตาใหม่ให้ดูสวยงาม น่าใช้มากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกัน!
การออกแบบตัวเครื่อง (Design)
OPPO F1 Plus มาพร้อมคอนเซ็ปท์ในการออกแบบตัวเครื่อง "Stylish metallic Unibody" ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบที่เกิดจากการผสมผสานแนวคิดระหว่างความสวยงามของธรรมชาติ กับเทคโนโลยีในการออกแบบขั้นสูง ที่มีการนำวัสดุโลหะไปผ่านกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน จนนำไปสู่ตัวเครื่องแบบ Unibody ที่ดูสวยงาม หรูหรา และไร้รอยต่อ
นอกจากตัวเครื่องที่ดูสวยงาม หรูหราขึ้นแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษจากการออกแบบตัวเครื่องของ OPPO F1 Plus นั้น คือการที่ OPPO ได้เลือกใช้วิธี Diamond cut หรือการใช้เครื่องเจียระไนเพชร มาใช้ในการทำขอบของตัวเครื่อง ซึ่งทำให้พบกับ "light-catching edge" หรือ การเห็นสันขอบของตัวเครื่องทุกครั้งที่มองผ่านแสง
"Comfort Grip" เป็นอีกหนึ่งคอนเซ็ปท์สำคัญ ที่นำมาใช้ในการออกแบบตัวเครื่องของ OPPO F1 Plus ซึ่งจะเป็นการเน้นออกแบบให้ตัวเครื่อง สามารถถือหรือจับใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย รวมทั้งยังสามารถควบคุมการใช้งานต่างๆ ได้อย่างคล่องตัวภายในมือเดียวด้วยเช่นกัน
ในขณะที่ด้านหน้าตัวเครื่องของ OPPO F1 Plus ก็มีการปรับเปลี่ยนการออกแบบใหม่ ด้วยการเพิ่มพื้นที่หน้าจอแสดงผล AMOLED ที่มีขนาด 5.5 นิ้ว ให้ขยับเข้าไปใกล้กับขอบของตัวเครื่องมากขึ้น (Ultra-thin Bezels) จนทำให้มีความบางหรือระยะห่างจากขอบของตัวเครื่องกับหน้าจอเพียง 1.66 มิลลิเมตรเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงจาก F1 มาสู่ F1 Plus ไม่ได้มีเพียงแค่ภายนอกเท่านั้น ด้านภายในหรือระบบปฏิบัติการ Color OS ที่เป็นหัวใจหลักในการทำงานบนสมาร์ทโฟน OPPO ทุกรุ่น ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน
Color OS
OPPO F1 Plus มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Color OS เวอร์ชั่น 3.0 ที่ทาง OPPO ได้ทำการปรับปรุงการออกแบบหน้า UI ใหม่อีกครั้ง โดยในครั้งนี้ได้ทำการปรับปรุงให้ดูทันสมัย ใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น และยังตอบรับกับไลฟ์สไตล์ในการใช้งานของผู้ใช้งานได้ทุกวัยด้วยเช่นกัน
ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
นอกจากหน้าตาของ UI ที่เปลี่ยนไป ดูสวยงาม ทันสมัยมากขึ้นแล้ว ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงาน และระบบการใช้งานต่างๆ ยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ได้ถูกปรับปรุง พัฒนาใหม่ให้ดีขึ้นด้วย ตามคอนเซ็ปท์ของ Color OS 3.0 ที่ว่า " Fast, Smooth and Easy to Use"
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มหลงเสน่ห์ของ OPPO F1 Plus กันบ้างแล้ว ซึ่งต้องบอกว่านับเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นของ OPPO ที่มีดีไซน์สวยงาม ทันสมัย ไม่น้อยหน้าใครเลยทีเดียว แต่! นอกจากความสวยงามในด้านของดีไซน์แล้ว F1 Plus ยังมีคุณสมบัติการใช้งานที่น่าสนใจแอบซ่อนอยู่อีกหลายอย่างด้วยเช่นกัน ส่วนจะเป็นอะไรนั้นคงต้องติดตามกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้าครับ
**บทความเพื่อการโฆษณา**
วันที่ : 6 มิถุนายน 2559
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging6 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย11 ชั่วโมงที่แล้ว
Sonos จัดเต็มส่งท้ายปีกับโปรโมชั่น 12.12 ให้คุณช้อปฟินด้วยส่วนลดสูงสุดกว่า 30%11 ธ.ค. 67 07:00
Infinix ปล่อยเซอร์ไพรส์ HOT 50 Pro+ Series สีสันพิเศษ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข10 ธ.ค. 67 21:41
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ10 ธ.ค. 67 19:29
OPPO A3 Pro 5G สมาร์ทโฟน AI สวย เก่ง เกรด A ในราคาใหม่สุดคุ้ม
OPPO Reno 13 Series ชิปเซ็ต Dimensity 8350 กันน้ำกันฝุ่น IP69 และชาร์จเร็ว 80W!
OPPO Find X8 Series สมาร์ทโฟนแฟลกชิปพลัง AI ซูมไกล 120 เท่า ด้วย AI Telescope Zoom
รีวิว OPPO Find X8 Series ทีเด็ดซูมพลัง AI ไกลยังไงก็สวย ถ่ายคมชัดด้วย Hasselblad Portrait Mode
OPPO Pad 3 Pro แท็บเล็ตเรือธงรุ่นใหม่ หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3
ทำความรู้จัก TECNO SPARK 30C หน้าจอ 120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP54 ลำโพงสเตอริโอ มีชาร์จเร็ว
สรุปจุดเด่นและสเปค OPPO Pad 3 Pro หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ลำโพง 8 ตัว แบตฯ 9510mAh
iQOO Neo 10 Series สเปคเทพ กล้องสวย ดีไซน์โดนใจ เปิดตัว 29 พฤศจิกายนนี้
OPPO Enco Air4 และ OPPO Pad 3 Pro คู่หูอุปกรณ์ IoT สุดล้ำที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
iQOO 13 5G เจ้าของความแรง Snapdragon Elite 8 + RAM สูงสุด 16GB เคาะราคาในไทย 27,900 เท่านั้น