5G คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร เรื่องใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด

พัฒนาอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว เรียกได้ว่าตอนนี้กลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนทุกภาคส่วน ล้วนแล้วได้รับอานิสงฆ์จากยุค 4G ทั้งสิ้น เมื่อวันเวลาผ่านย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ล่าสุด ข่าวคราวของยุคการติดต่อสื่อสารไร้สาย หรือ "5G" ก็เกิดขึ้นจริงแล้ว และกำลังแพร่หลายในทุกภาพส่วนธุรกิจทั่วโลก ในประเทศไทยเองก็ได้เริ่มเปิดให้บริการจากหลายโอเปอเรเตอร์แล้ว ดังนั้นเรามาทำความทำความรู้จักกันให้มากขึ้น

5G คืออะไร?

โดยยังคงสื่อถึงว่า "เราเดินมาถึงยุคการสื่อสารในเจนเนอเรชั่นที่ 5 แล้ว" ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนาเพื่อตอบโจทย์โลกหมุนเปลี่ยนไป รวมถึงการมาของ Internet of Things อย่างเช่น Smart Home, Smart Infrastructure, Smart City, Smart Car เป็นต้น ตามคอนเซ็ปต์ “Anything that can be connected, will be connected.” หรืออะไรที่สามารถเชื่อมต่อได้ก็จะถูกเชื่อมต่อด้วยระบบอินเทอร์เน็ต แต่เพื่อให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด และอะไรที่ต้องการแสดงผลเรียลไทม์จึงจำเป็นต้องมีความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลเช่น การศึกษา, การขนส่ง, การแพทย์ เป็นต้น

ประโยชน์ของ 5G มีดียังไง

แน่นอนว่าต้องมีความเร็วเพิ่มขึ้น เพื่อตรงกับคอนเซ็ปต์ในการใช้งาน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีอัตราดาวน์โหลดและอัพโหลดแรงเท่าใด ทว่ามีแต่การคาดการณ์กันว่าเร็วแรงมากกว่ายุค 4G ถึง 10 - 100 เท่า ซึ่งจะทำให้เปลี่ยนวิถีชีวิตของเราได้หลายอย่างในอนาคต และช่วยผลักดันเศรษฐกิจ ทั้งส่งผลให้เกิดผลิตภัณฑ์หรือบริบทใหม่ของการบริการเช่นกัน 

ข้อด้อยของ 5G ที่ทำให้ไม่น่าคบหา 

เนื่องจากต้องใช้คลื่นความถี่ที่สูงมากหรือคลื่นเทคโนโลยีความถี่ระดับมิลลิเมตร โดยถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนา สามารถดำเนินการได้ด้วยข้อมูลจำนวนมาก และมีสัญญาณการถ่ายโอนข้อมูลที่มีค่า latency ต่ำ (ความล่าช้าน้อยที่สุด)

และด้วยประโยชน์ดังกล่าว จึงต้องแลกมาด้วยปัญหาต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพราะว่าสัญญาณที่ส่งผ่านคลื่นความถี่สูงจะส่งผ่านในระยะสั้นเท่านั้น และก็ไม่สามารถเจาะอาคารได้ดี ทำให้ต้องอาศัยเสาสัญญาณกับเทคนิคอื่นๆ เข้าช่วย ดังนั้นจึงน่าสนใจว่าค่าใช้บริการจะเป็นอย่างไร

สมาร์ทโฟน 4G สามารถใช้งาน 5G ได้ไหม?

มีปัจจัยสองอย่างที่เกี่ยวข้อง คือ โมเด็มรับสัญญาณอาจไม่รองรับการรับคลื่นความเร็วสูง ถึงรองรับแต่ก็ไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะไม่ได้ถูกพัฒนามาเพื่อการใช้งาน 5G โดยเฉพาะนั่นหมายความว่าถ้าคุณต้องการใช้งาน 5G จำเป็นต้องซื้อสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งานมาตั้งแต่ต้น ดังนั้น “สำหรับสมาร์ทโฟน 4G จะไม่สามารถใช้งาน 5G ได้”

5G เหนือกว่า 4G อย่างไร?

• ตอบสนองไวขึ้น สามารถสั่งงาน และควบคุมสิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้น ตอบสนองได้ไว 1 ส่วนพันวินาที
• รับ-ส่งข้อมูลได้มากกว่า ถ้าเป็น 4G จะสามารถ รับ-ส่ง ข้อมูลได้ราว 7.2 Exabytes ต่อเดือน แต่สำหรับ 5G จะเพิ่มขึ้นราว 7 เท่า หรือ 50 Exabytes ต่อเดือน
• เร็วขึ้นกว่าเดิม 5G มีความเร็วมากกว่า 20 เท่า สามารถดาวน์โหลดดูวิดีโอ 8K หรือ ดาวน์โหลดภาพยนตร์ 3 มิติ ได้ในภาย 6 วินาที
• ความถี่มากกว่า 5G สามารถใช้งานคลื่นความถี่ได้จนถึง 30GHz ซึ่งเป็นความถี่ย่านใหม่ที่ไม่เคยมีการใช้งานมาก่อน
• รองรับการใช้งานมากกว่า รองรับจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 10 เท่า จากที่สามารถรับคนได้ราว 1 แสนคนต่อพื้นที่ 1 ตร.กม. กลายเป็น 1 ล้านคนต่อพื้นที่ 1 ตร.กม.

5G มีอันตรายหรือไม่

อันตรายที่เรากำลังพูดถึงนี้คือในแง่ของสุขภาพทางกายภาพและอวัยวะภายใน โดยคลื่น 5G ที่ทั่วโลกใช้อยู่คือ คลื่นกำลังต่ำ ไม่ได้มีผลต่อร่างกายของเราอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นสมอง, ประสาท, รังสี เป็นต้น ซึ่งทุกวันนี้คือคลื่นกำลังต่ำ ทว่าในอนาคตต้องติดตามกันว่าถ้าเป็นคลื่นกำลังสูงที่ใครหลายคนคาดว่าจะใช้งานนั้นจะมีมาตรการอย่างไร ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีผลกระทบใดๆ

ต่อไปเรามาพูดถึงสมาร์ทโฟนกันหน่อย

ต้องบอกว่าผู้ผลิตยักษ์ใหญ่หลายแบรนด์ ต่างเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปที่รองรับการเชื่อมต่อความเร็วระดับ 5G โดยแต่ละรุ่นที่หยิบยกมาราคายังแพง และในประเทศไทยก็มีตัวเลือกน้อย

รวมถึงปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้องไม่เพียงพอต่อการกระจายสัญญาณ อาทิ คลื่นสัญญาณ 3 ช่อง LOW-MID-HIGH BAND รวมถึงคลื่น 4G ที่ใช้อยู่ในไทย แต่ถ้าหากได้ถูกอัพเกรดเป็น 5G แล้ว นั่นหมายความว่าคุณยังมีโอกาสรอรุ่นใหม่ๆ ที่จะเปิดตัว ทำให้เรามีตัวเลือกมากขึ้น ราคาสมาร์ทโฟนประหยัดลง และในยุคนี้แล้วด้วย ผู้แข่งขันเยอะ ราคาย่อมไม่แรง

ความเคลื่อนไหวเป็นอย่างไรแล้วตอนนี้...?

ต้องบอกว่าเริ่มต้นตั้งแต่ต้นปีพุทธศักราช 2559 ข่าวสารต่างประเทศก็มีความเคลื่อนไหว โดยตลอดเกี่ยวกับยุคที่ 5 ของการติดต่อสื่อสารไร้สาย มีบริษัทชั้นนำจากหลากหลายประเทศร่วมมือกันพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นในห้องแลป หรือภาคสนาม ซึ่งผลลัพธ์การทดลองต่างลงความเห็นกันว่าเป็นที่พอใจการันตีได้ว่าเร็วแรงกว่า 4G แน่นอน แต่ปัญหาติดอยู่ที่คลื่นสัญญาณอย่างที่เกริ่นข้างต้น 

ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารประเทศสหรัฐอเมริกาชี้แจงว่าจะจัดการประชุมเกี่ยวกับข้อเสนอการติดต่อสื่อไรสายยุคที่ 5 ขึ้นภายในเดือนกรกฏาคมศกนี้ และถ้ามีมติโหวตผ่านจะจัดเตรียมเปิดแถบคลื่นสัญญาณสูง และเพื่อเริ่มต้นใช้งาน ส่งผลให้กลายเป็นประเทศแรกของโลกเลย ("If the Commission approves my proposal next month, the United States will be the first country in the world to open up high-band spectrum for 5G networks and applications,")

เมื่อไหร่จะได้ใช้ 

เว็บไซต์ ThenextWeb และ reuters.com รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ระบุว่า ถ้ามติถูกโหวตผ่านใน FCC ก็อาจจะมีการเปิดให้ใช้ในเชิงพาณิชย์พุทธศักราช 2563 (ค.ศ. 2020) อีกไม่นานเท่านั้นทว่าด่านแรกก็ต้องดูกันก่อนว่าจะมติผ่านหรือไม่ ถึงแม้ผ่านแต่จะมีอุปสรรคใดอีกไหม แต่หากไม่มีไรเกิดขึ้นเลย งานนี้ได้เห็น 5G กันที่สหรัฐแน่นอนครับ

แล้วในประเทศไทย เป็นอย่างไรบ้าง โดยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ได้มีการแถลงข่าวของนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีการลงนามความร่วมมือสร้างโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 5G เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิดเป็นพื้นที่ให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (โอเปอเรเตอร์) ที่ชนะการประมูล 5G ในวันที่ 16 ก.พ. 2563 สามารถติดตั้งระบบ 5G ได้ทันทีในเดือน มี.ค. 2563 หลังได้รับใบอนุญาต ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาในการติดตั้งระบบ 2-3 เดือน หรือประมาณเดือน พ.ค. 2563 ก็จะสามารถเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ โดยระบบ 5G ที่การท่าอากาศยานทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ และ สนามบินดอนเมือง คาดว่าจะให้บริการได้ เช่น การตรวจสอบใบหน้า,การบริหารจัดการคลังสินค้า และการช่วยเหลือฉุกเฉินของรถพยาบาลภายในสนามบิน เป็นต้น

สรุปแล้วควรมี 5G ไหม หรือ 4G ก็เพียงพอแล้ว

อย่างไรก็ตามเทรนด์ของปี 2020 การสตรีมมิ่งมาแรงอย่างมาก ดูหนัง ฟังเพลง ยูทูป ฯลฯ โดยเฉพาะคอนเทนต์วิดีโอที่มีความหลากหลายยิ่งขึ้น ทั้ง NetFlix, Disney+, AMAZON Prime Video, Apple TV+ รวมฝั่งเพลงที่มีการพัฒนาคลื่นความถี่ย่านสูงและความถี่ย่านต่ำ เพื่อให้ผู้ใช้ได้อรรถรสที่ดีกว่าเดิม จะเห็นได้ว่าต้องใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อความต่อเนื่อง นอกจากนี้เทคโนโลยีการติดต่อสื่อสาร 5G เป็นเรื่องมากกว่าใช้งานแค่เพียงอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง แต่เป็นเรื่องของการใช้งานระดับมหภาค

กรณีตัวอย่างประโยชน์ของ 5G ที่มีการนำมาใช้งานจริงแล้ว

สำหรับประเทศจีนต้องบอกว่าก้าวหน้าอย่างมากกับโครงข่าย 5G เพราะมีการนำไปใช้งานจริงในหลายภาพส่วน เหมือนกับโรงพยาบาลมณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน ได้ถ่ายทอดสัญญาณผ่าตัดทางไกลแบบเรียลไทม์ 

สำหรับการผ่าตัดทีมศัลยแพทย์ผ่าตัดปอดบางส่วนของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดระยะเริ่มต้น ระหว่างการผ่าตัดได้มีการขอคำแนะนำจากทีมแพทย์อื่นอีกหนึ่งโรงพยาบาล พร้อมใช้เทคโนโลยี VR ที่สามารถเห็นภาพเสมือนจริงอย่างชัดเจน ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างถูกต้อง โดยใช้เครือข่ายเชื่อมต่อระดับ 5G ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพเสียงคมชัดไร้การหน่วงเป็นแบบเรียลไทม์ การผ่าตัดจบได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วเพียงสองชั่วโมงเท่านั้น

หรืออีกหนึ่งการต่อยอดที่ชัดเจนช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เชื่อว่าหลายคนต้องเจอปัญหา เมื่อโดยสารด้วยรถไฟจะเกิดอุปสรรคการติดต่อสื่อสาร ซึ่งสัญญาณจะไม่เสถียร สาเหตุก็คือความเร็วและโครงข่ายสัญญาณ ทำให้ไม่สามารถจับสัญญาณได้ ทว่าล่าสุดประเทศจีนอีกตามเคย ระบุว่าให้บริการ 5G ในรถไฟได้ที่ความเร็ว 141 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตั้งแต่ต้นสายจนถึงปลายสาย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลก

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องเล่าที่หยิบยกมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งอีกไม่นานนี้ประเทศไทยเราจะได้ใช้กัน แน่นอนอีก 1-2 ปีข้างหน้า ทว่าข่าวคราว 5G ยังไม่ทันเก่า ก็มี 6G มาแล้ว.. 

• ยังไม่ทันได้ใช้ 5G! CHINA MOBILE และมหาวิทยาลัย TSINGHUA กำลังศึกษา 6G แล้ว