www.siamphone.com
หมวดอื่นๆ (Other) | วันที่ : 20 พฤศจิกายน 2559
ถือได้ว่าเป็นดีลน่าสนใจเลยระหว่าง Samsung Electronics กับ Harman International Industries ที่เมื่อไม่กี่วันก่อนซัมซุงได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการของฮาร์แมน เพื่อจะปูทางเข้าสื่อธุรกิจระบบเสียงอันเลื่องชื่อในทั่วโลก, โซลูชั่นเกี่ยวกับระบบการติดต่อสื่อสารกับรถยนต์ หรือ Connected Car หรือแม้แต่ว่า การได้ครอบครองบริษัทในเครือที่มีกลุ่มธุรกิจอย่างกว้างขวาง นั่นทำให้ซัมซุงคาดการณ์เข้าซื้อครั้งนี้ยังไงก็ได้ผลประโยชน์ในระยะยาว ลองมาดูกันว่าทั้งลูกค้าเอง และตัวซัมซุงจะได้ประโยชน์อย่างไร
Harman คือใคร Samsung จะได้ประโยชน์อย่างไรจากการเข้าซื้อครั้งนี้
ต้องบอกว่าฮาร์แมนมีบริษัทชั้นนำภายในเครืออยู่มาก ซึ่งที่ขึ้นชื่อและรู้จักกันเป็นอย่างดี คงหนีไม่พ้น Harman Kondon, JBL, AKG เป็นต้น อย่างไรก็ตามธุรกิจหลักของบริษัทแม่จะเน้นโซลูชั่นด้านยานยนต์เป็นหลัก โดยก็คิดรายได้ประมาณ 65% จากรายได้ทั้งหมด นับรายได้ตลอดระยะเวลา 12 เดือน จนถึงเดือนกันยายน 2016 มูลค่ากว่า $7 พันล้านเหรียญสหรัฐ และจะยังมีรายการสั่งซื้อในอนาคตอีกประมาณ $24 พันล้านเหรียญสหรัฐ (นับรายการสั่งซื้อถึงเดือนมิถุนายน 2016) จึงสามารถสะท้อนได้ว่า Harman กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับ Harman ต้องบอกว่ามีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจอย่างยิ่ง สังเกตได้จากการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแบรนด์สินค้าระดับโลกต่างไว้ใจให้เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมธุรกิจหลากหลายไหนจะประสบการณ์, สิทธิบัตร, บุคลากร, ความมีชื่อเสียงของแบรนด์, มีเทคโนโลยี, ผลิตภัณฑ์, โซลูชั่นที่ให้บริการอยู่ และ Supplier จึงเป็นประเด็นที่ทำให้ Samsung ตัดสินใจเข้าซื้อ เพื่อปูทางเข้าสู่ด้านยานยนต์ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และก็กลายเป็นความสมาร์ทและจะสามารถเชื่อมต่อได้เหมือนกับโทรศัพท์มือถือในอดีตที่เปลี่ยนแปลงมาเป็นสมาร์ทโฟน
รวมถึงระบบเสียงต่างๆ ช่วยตอบโจทย์ผลิตภัณฑ์ทั้งหลายดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันด้วย ถึงขนาดที่รองประธาน Oh-Hyun Kwon ระบุเลยว่าคุ้มค่ามากกับราคาเท่านี้
สรุปการซื้อขาย Samsung จ่ายไปเท่าใด กระบวนการเข้าซื้อเสร็จสิ้นตอนไหน
ต้องบอกว่าเป็นดีลครั้งใหญ่ของ Samsung เลยทีเดียว และหากจะบอกว่าใจถึงก็คงไม่ผิด เพราะให้ราคาสูงมาก เปรียบได้ว่าเข้าซื้อครั้งนี้ต้องสำเร็จในครั้งเดียวเนื่องจากไม่มีข่าวลือใดปรากฏให้เห็นเลย มิเช่นนั้นอาจทำให้บริษัทอื่นจับไต๋ และกระโดดเข้ามาร่วมแจม ส่งผลให้กลายเป็นอุปสรรคได้
ส่วนการซื้อซัมซุงได้ตัดสินใจจ่ายเงินซื้อหุ้นจำนวน $112.00 ต่อหุ้น จากจำนวนจริงที่ปิดตลาดเมื่อวานคือ $87.65 คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ $8 พันล้านเหรียญสหรัฐ กระบวนการซื้อขายคาดเสร็จสิ้นตอนกลางปี 2017 เพราะต้องได้รับอนุมัติเงื่อนไขต่างๆ จากผู้ถือหุ้นใน HARMAN และคณะกรรมการของทั้งสองบริษัทอย่างเอกฉันท์
มีการเปลี่ยนแปลงอะไรกับ Harman บ้าง หลังจากการเข้าซื้อครั้งนี้
Samsung ระบุว่านาย Dinesh Paliwal จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานผู้บริหารของ Harman ต่อไป เช่นเดียวกับทีมงานและทำงานแยกกับซัมซุง ไม่ต้องขึ้นหรือถูกกำกับการบริหารงานภายใต้ซัมซุงแต่อย่างใด และยังระบุอีกว่าการร่วมกันทำงานในครั้งนี้จะเป็นเพิ่มการพัฒนาในอาชีพและโอกาสเติบโตในหน้าที่การงานของพนักงานทั้งสองบริษัท
อย่างไรก็ดีหน่วยงานกลุ่มธุรกิจยานยนต์ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม ปี 2015 ก็จะถูกย้ายไปทำงานร่วมกับทีมของ HARMAN อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างการเรียนรู้ที่ทจะทำให้เติบโตในระยะยาว
มีโอกาสเป็นไปได้ไหมสมาร์ทโฟนจาก Samsung มีระบบเสียง Harman Kardon หรือ JBL
เป็นไปได้ครับ อย่างที่เราเห็น Samsung ทำธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร มีอะไรในบริษัทก็ยัดเข้ามาเป็นจุดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์นั้นๆ เพื่อสร้างจุดขายและความได้เปรียบทางการค้า โดยคาดว่าในซีรีย์ S กับ Note น่าจะมีอย่างแน่นอน แต่ซีรีย์อื่นๆ คงต้องติดตามกันต่อไป อย่างไรก็ตามระยะเวลาที่จะนำระบบเสียงอันเลื่องชื่อของทั้งสอง มาชูโรงในลำโพงของสมาร์ทโฟนอาจเป็นช่วงปีคริสต์ศักราช 2018 ส่วนจะใช่ Galaxy S9 หรือไม่ รอลุ้นกันครับ
ลูกค้าได้ประโยชน์อะไร
Samsung คาดหวังว่าจากการร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองบริษัทมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถมอบผลประโยชน์ให้กับลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีสมบูรณ์แบบจากซัมซุงกับฮาร์แมน
โอกาสการเติบโตร่วมกันจะสามารถสร้างผลลัพธ์ได้ดีกว่าเดิมอย่างไร
1. ด้านยานยนต์ : อย่างที่เกริ่นข้างต้น Harman เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารในรถยนต์ และอยู่ในระดับสูงด้าน Infotainment, Cyber security, Over-the-air updates และ Telematics ขณะที่ Samsung มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ เช่น 5G, UX/UI, Display Technology และโซลูชั่นระบบความปลอดภัย โดยทั้งหมดเหล่านี้จะนำมาควบรวมกัน เพื่อเสริมสร้างธุรกิจด้านยานยนต์ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม (Next-generation Connected Cars)
2. ด้านเสียง : Harman ก็มีบริษัทเสียงชั้นนำภายในเครือ อาทิ JBL, Harman Kardon, Lexicon, Mark Levinson, Infinity, AKG, Revel และยังมีใบอนุญาตของ Bowers & Wilkins กับ Bang & Olufsen ทั้งหมดนี้จึงสามารถเสริมความสามารถในการแข่งขันของ Samsung’s mobile, Display, ธุรกิจ Virtual reality รวมถึงผลิตภัณฑ์สวมใส่ เพื่อนำประสบการณ์ด้านพลังเสียงให้แก่ลูกค้า
3. ความเป็นมืออาชีพ : สองบริษัทมืออาชีพทำงานร่วมกันก็จะทำให้ระดับสเกลการทำงานใหญ่ขึ้นไปอีก เช่น งานคอนเสิร์ต หรือสเตเดียมกีฬาขนาดใหญ่ และศูนย์กลางงานจัดแสดงสินค้า หรือศิลปะ เป็นต้น
4. ด้านบริการการเชื่อมต่อ : Samsung สามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์จำนวนกว่า 8,000 รายการของ Harman และวิศวกรผู้ที่จะมาปลดล็อคตลาด Internet of Things ให้ง่ายยิ่งขึ้นทั้งได้ยกระดับการให้บริการ Cloud ไปอีก Next Generation รวมถึงการบริการแบบ End-to-End ในตลาดยานยนต์ด้วย
ก็นับเป็นก้าวครั้งใหญ่ของ Samsung เลยทีเดียว ดังนั้นจึงต้องติดตามกันต่อไปว่า ผลิตภัณฑ์ของตนเองนั้นจะสามารถยกระดับขึ้นมาอีกขั้นตามที่ได้วางแนวคิดไว้หรือไม่ และในส่วนของธุรกิจสมาร์ทโฟน รวมถึงสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ พลังเสียงอันเลื่องชื่อจะถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งเมื่อใด
หลังจากได้เจาะลึกการเดินหมากในครั้งนี้ของ Samsung กับบริษัท Harman ไปแล้ว ลำดับต่อไปมาดูในส่วนของข่าวคราว Galaxy S8 กันบ้างว่ามีรายละเอียดอย่างไร
สำหรับ Galaxy S8 ดูแล้วอาจจะยังไม่น่าเปิดตัวในงาน Mobile World Congress 2017 อาจล่าช้าไปหนึ่งถึงสองเดือน เพราะหากตามหลักแล้ว ทางซัมซุงต้องชี้แจงแถลงไขเกี่ยวกับเหตุการณ์ของรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมให้ได้เสียก่อน เพื่อลดข้อครหาและสร้างความเชื่อมั่นอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนข่าวคราวที่มีการลือออกมามีดังต่อไปนี้
ดีไซน์ : น่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์หน้าตา คาดว่ายังคงเหมือนกับรุ่น S7 และ S7 edge แต่หน้าจอก็อาจครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ส่วนปุ่มโฮมอาจทำได้มากกว่าสแกนลายนิ้วมือ และกลับมาหน้าจอหลัก ขณะที่ระบบสแกนม่านตาคาดว่าซัมซุงจะนำมาชูโรงด้วย โดยอาจดีกว่าเดิมเพราะจะต้องเรียกความน่าสนใจอีกครั้งหนึ่ง
ด้านระบบปฏิบัติการ : แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 และก็ครอบทับด้วย UI เวอร์ชั่นใหม่ โดยคาดว่าต้องผสมผสานการทำงานร่วมกับ AI หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่จะมีส่วนทำให้ Galaxy S8 ก้าวไปอีกขั้น
ตัดหรือไม่ตัดสำหรับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร : ต้องบอกว่าสมาร์ทโฟนช่วงท้ายปีที่เปิดตัวมานิยมตัดช่องเสียบหูฟังออกไป ทว่าข่าวลือของเรื่องราวนี้ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา เพราะฉะนั้นคงต้องติดตามกันต่อไป
ด้านฮาร์ดแวร์ : ยังไม่มีข่าวลือต่างๆ ออกมา โดยก็เหมือนเป็นธรรมเนียมเช่นกันที่ทางซัมซุงมักจะเผยโฉมชิปเซ็ตรุ่นใหม่ก่อนเผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นท็อป ขณะที่เทรนด์ Ram 6GB ก็มาแรงเหลือเกิน บางทีเราอาจเห็นรุ่น Ram 4GB/6GB (S8/S8 edge) ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลอาจมาสองเวอร์ชั่น แต่เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ (MicroSD Card) สุดท้ายแบตเตอรี่ต้องรอติดตามกันต่อไป
ด้านกล้องดิจิตอล : เหลือแต่ยักษ์ใหญ่ Samsung ที่ยังไม่ตามเทรนด์กล้องคู่ (Dual Camera) งานนี้ต้องติดตามกันต่อไปเลย ส่วนข่าวลือยังไม่มีการเผยรายละเอียดออกมาเท่าใดนัก
สรุปแล้วที่ดูมีความน่าเชื่อถือที่เราน่าจะได้เห็นใน Galaxy S8 และ S8 edge คือระบบปัญญาประดิษฐิ์ ที่ดูเหมือนทางแบรนด์ให้ความสำคัญ
ที่มา : news.samsung.com วันที่ : 20 พฤศจิกายน 2559
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging7 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย11 ชั่วโมงที่แล้ว
Sonos จัดเต็มส่งท้ายปีกับโปรโมชั่น 12.12 ให้คุณช้อปฟินด้วยส่วนลดสูงสุดกว่า 30%11 ธ.ค. 67 07:00
Infinix ปล่อยเซอร์ไพรส์ HOT 50 Pro+ Series สีสันพิเศษ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข10 ธ.ค. 67 21:41
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ10 ธ.ค. 67 19:29
Blackview Active 10 Pro มาแล้ว! แท็บเล็ต 5G แบตฯ อึด กล้องเทพ ลดแรงแค่ 7 วันเท่านั้น!
Samsung Galaxy S25 Series สรุปข่าวลือล่าสุดก่อนเปิดตัวต้นปี 2025
Samsung Galaxy S25 Slim สุดยอดกล้องระดับไฮเอนด์ในตัวเครื่องที่บางเฉียบ
Samsung Galaxy A16 จอ FHD+ Super AMOLED ใหญ่ชัดเสมือนจริง กล้อง Triple camera แบตยาวนานขึ้น
MacBook Air จอ OLED เลื่อนเปิดตัวอีกแล้ว! ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
iQOO Neo 10 Series สเปคเทพ กล้องสวย ดีไซน์โดนใจ เปิดตัว 29 พฤศจิกายนนี้
Redmi A4 5G หน้าจอ 120Hz ดีไซน์พรีเมียมมากขึ้น ชิปเซ็ต Snapdragon 4s Gen 2 เล่นเกมเพลิน
OPPO Reno 13 Series ชิปเซ็ต Dimensity 8350 กันน้ำกันฝุ่น IP69 และชาร์จเร็ว 80W!
Redmi Watch 5 สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกรันบน HyperOS 2 หน้าจอสี่เหลี่ยม AMOLED กว้าง 2.07 นิ้ว
HMD Fusion สมาร์ทโฟนที่สามารถปรับแต่งและซ่อมเองได้ด้วยมือคุณ!