www.siamphone.com
หมวดอื่นๆ (Other) | วันที่ : 4 พฤษภาคม 2560
เทคโนโลยีนิวเคลียร์ได้ถูกพัฒนาให้มีความใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้น ในโรงพยาบาลหรือสถานประกอบการต่างๆ ได้มีการใช้เทคโนโลยีชนิดนี้อย่างแพร่หลาย ทั้งด้านการแพทย์การศึกษาวิจัย อุตสาหกรรมและด้านการเกษตร โดยหลังจากพระราชบัญญัติ พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ.๒๕๕๙ เริ่มมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ในฐานะหน่วยงานด้านการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีของประเทศ จึงได้ร่วมมือกับ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการพัฒนาประเทศ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันโดยมุ่งเน้นให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป
ดร.อัจฉรา วงศ์แสงจันทร์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เปิดเผยว่า “การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฯ ในครั้งนี้จะนำมาซึ่งความร่วมมือในการดำเนินงานด้านวิชาการและการบริการต่างๆ อาทิ การเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมระงับเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี มาตรการวิทยาทางรังสี การรับรองผลการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยเครื่องกำเนิดรังสี การจัดการกากกัมมันตรังสี การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และการพัฒนาบุคลากรด้านนิวเคลียร์และรังสี ด้านความปลอดภัยสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ รวมทั้งจะเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และเผยแพร่ การวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ และการประยุกต์ใช้ในเชิงสันติ ตลอดจนเทคโนโลยีสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การสร้างนวัตกรรม เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และงานบริการ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต อีกทั้งจะยังสนับสนุนทั้งในด้านการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร รวมถึงการสร้างเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ และความร่วมมือในการใช้ประโยชน์และการแลกเปลี่ยนข้อมูลของทั้งสองหน่วยงาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงานส่วนที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
ดร.พรเทพ นิศามณีพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า “นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ระหว่าง สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เกิดขึ้นในวันนี้ เพราะในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์นั้น จำเป็นจะต้องมีการบูรณาการความร่วมมือเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้พลังงานนิวเคลียร์และรังสี ที่มุ่งเน้นให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม การลงนามครั้งนี้ ได้ครอบคลุมถึงการตรวจสอบคุณภาพเครื่องกำเนิดรังสี การตรวจสอบความปลอดภัยในการควบคุมปริมาณรังสีที่ใช้ทางการแพทย์ เพื่อให้คุณภาพเครื่องเอกซเรย์วินิจฉัยของประเทศไทยมีมาตรฐานที่สอดคล้องกับสากล ทั้งนี้ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) มีศักยภาพและความพร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบคุณภาพเครื่องเอกซเรย์วินิจฉัย เป็นการเพิ่มช่องทางให้บริการและอำนวยความสะดวกให้แก่ โรงพยาบาล และสถานประกอบการอุตสาหกรรมอื่นๆ ในอนาคต”
“จุดเด่นของบริการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของเครื่องเอกซเรย์วินิจฉัยโดย สทน. นั้นจะเน้นที่การให้บริการที่รวดเร็ว ฉับไว โดยใช้เวลาในกระบวนการตรวจสอบรวมและออกใบรับรองมาตรฐานการตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ สามารถเข้าทำการตรวจนอกเวลาทำการได้ โดยเรามีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกทั้งในด้านการนัดหมาย และการบริการอื่นๆ”
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทร.๐๖๑ ๓๘๕ ๒๓๒๘
ที่มา : www.oap.go.th วันที่ : 4 พฤษภาคม 2560
ทำความรู้จัก TCL 501 และ TCL 503 มือถือราคาประหยัดราคาไม่เกิน 2,000 บาท3 ชั่วโมงที่แล้ว
HMD Arc มือถือระบบ Android 14 (Go edition) ดีไซน์สวย ทนทาน ทรงประสิทธิภาพ19 ชั่วโมงที่แล้ว
สรุปจุดเด่นและสเปค HONOR X9c แบตฯ 6600mAh ชาร์จเร็ว 66W กันน้ำ IP65M กล้องหลัง 108MP+OIS23 ชั่วโมงที่แล้ว
Hohem iSteady M7 ไม้กันสั่นสำหรับมือถือ พร้อมกล้อง AI Tracker ติดตามและจดจำเป้าหมายได้แม่นยำ5 ม.ค. 68 07:00
Samsung เดินหน้าขยายการใช้ AI Home ทั่วทุกมุมบ้าน ส่งจอสุดล้ำบุกเครื่องใช้ไฟฟ้า4 ม.ค. 68 15:00