ทำความรู้จักสามพี่น้อง Nokia 3, 5, 6 ก่อนเจอตัวจริงงาน Thailand Mobile Expo 2017

ก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในบ้านเรา สำหรับสมาร์ทโฟนสายพันธุ์แอนดรอยด์ที่เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยสามารถจับจองเป็นเจ้าของ ณ งาน Thailand Mobile Expo 2017 รอบสองครบทั้งสามรุ่นเลยทีเดียว Nokia 3, Nokia 5, Nokia 6 ซึ่ง HMD ประเทศไทยก็จะทำการเปิดตัวภายในงาน อย่างไรก็ดีด้านราคากับเฉดสีของแต่ละรุ่นยังคงต้องติดตามกันต่อไป ดังนั้นเรามาทบทวนกันหน่อยว่าแต่ละรุ่นมีสเปกใดบ้าง

ฟีเจอร์เด่นของ Nokia 6 มีอะไรบ้าง....?

1. วัสดุตัวเครื่อง : สำหรับ Nokia 6 ก็จะทำจากอลูมิเนียมซีรีย์ 6000 ใช้กระบวนต่างๆ ในการขึ้นรูปหลายชั่วโมง เพื่อให้ได้คุณภาพสูงสุดและโครงสร้างที่แข็งแรง

2. เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ : ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและส่วนตัวในการใช้งาน และรองรับฟีเจอร์ Mobile Payment ด้วย

3. หน้าจอที่ใช้งานกลางแจ้งได้ : โนเกียเคลมว่าสร้างกระบวนการระหว่างเลเยอร์ของ Laminated กับ Polarizer เพื่อให้ใช้งานกลางแจ้ง (enabling excellent sunlight) อย่างไม่มีปัญหา ด้วยรูปแบบขอบที่บาง (slim form)

4. ชิปเสียงคู่ (TFA9891) : เพิ่มประวิทธิภาพการขับเสียงดีกว่าเดิมอีก 6dB

5. ลำโพงคู่มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos

สรุปสเปกของรุ่น Nokia 6

• แอนดรอยด์วเอร์ชั่น 7.1.1
• ขนาดตัวเครื่อง : 154 x 75.8 x 7.85 มม.
• หน้าจอ : IPS-LCD ขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ครอบทับกระจกโค้ง Corning Gorilla Glass 3 แบบ 2.5D ให้ความสว่าง 450 nits มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 403ppi
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 430 CPU Octa-Core แบบ 64-บิต 
• GPU : Adreno 505 
• Ram : 4GB LPDDR3 
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 64GB
• MicroSD Card : สูงสุด 128GB
• รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด
• กล้องหลังความละเอียด : 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชคู่ ระบบจับโฟกัส PDAF รูรับแสง f/2.0 ขนาดพิกเซล 1.0um
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1.12um รูรับแสง f/2.0 มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 84 องศา 
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
• ลำโพงคู่ Dual speakers ด้านบนตัวเครื่องและด้านล่างตัวเครื่อง
• Dual smart amplifiers (TFA9891)
• ระบบเสียง Dolby Atmos
• ระบบเชื่อมต่อ : 4G LTE Cat. 4 (DL 150 Mbps / UL 50 Mbps), WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.1, GPS, USB OTG, Micro USB 2.0, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, 
• เซ็นเซอร์ : Light sensor, Proximity sensor, Accelerometer (gravity sensor), Electronic compass, Gyroscope, Hall sensor
• แบตเตอรี่ : 3000 mAh พร้อมโหมด Doze

Nokia 5 : บอดี้โลหะออกแบบให้สามารถจับถนัดกระชับมือ โดยจะไร้เส้นสัญญาณอากาศด้านหลังตัวเครื่องถูกย้ายตำแหน่งไปไว้บนตัวเครื่องด้านบนกับด้านล่างแทนมีขนาดตัวเครื่อง 149.7 x 72.5 x 8.05 มม. มาพร้อมระบบเสียงแบบ Smart amplifier (TFA9891)

สรุปสเปกของรุ่น Nokia 5

• ระบบปฏิบัติการ : แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1.1 (Nougat)
• หน้าจอแสดงผล : IPS - LCD ขนาดกว้าง 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (720p) ซึ่งครอบทับกระจกขอบโค้ง 2.5 (Corning Gorilla Glass 3) ให้ความสว่างสูงสุด 500nits
• หน่วยประมวลผล : Snapdragon 430 CPU Octa-Core 
• GPU : Adreno 505
• Ram : 2GB 
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 16GB
• MicroSD Card : สูงสุด 128GB
• รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด Hybrid
• กล้องหลังความละเอียด : 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชคู่ ระบบจับโฟกัส PDAF รูรับแสง f/2.0 ขนาดพิกเซล 1.12um
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1.12um รูรับแสง f/2.0 มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 84 องศา
• ระบบเชื่อมต่อ : 4G LTE Cat. 4 (DL 150 Mbps / UL 50 Mbps), Micro USB (USB 2.0), USB OTG, Bluetooth 4.1, Wi-Fi, NFC และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
• เซ็นเซอร์ : Accelerometer (G-sensor), ambient light sensor, e-compass, gyroscope, proximity sensor
• แบตเตอรี่ : 3000 mAh 

รุ่นเล็กสุด Nokia 3 ดีไซน์โพลีคาร์บอเนตขอบเครื่องเป็นโลหะมาพร้อมหน้าจอแสดงผล IPS - LCD มีขนาดกว้าง 5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (720p) โดยครอบทับกระจกขอบโค้ง 2.5D (Corning Gorilla Glass 3) ให้ความสว่างสูงสุด 450nits จะมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 143.4 x 71.4 x 8.48 มม. 

สรุปสเปกของรุ่น Nokia 3 

• หน่วยประมวลผล : MediaTek MT6737 CPU Quad-Core 1.3GHz แบบ 64-บิต 
• GPU : Mali-T720 MP2
• Ram : 2GB 
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 16GB
• MicroSD Card : สูงสุด 128GB
• รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด Hybrid
• กล้องหลังความละเอียด : 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช ระบบจับโฟกัส PDAF รูรับแสง f/2.0 ขนาดพิกเซล 1.12um
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1.12um รูรับแสง f/2.0 มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 84 องศา ไฟแฟลชหน้าจอ
• ระบบเชื่อมต่อ : 4G LTE Cat. 4 (DL 150 Mbps / UL 50 Mbps), Micro USB (USB 2.0), USB OTG, Bluetooth, Wi-Fi, NFC และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
• เซ็นเซอร์ : Accelerometer (G-sensor), ambient light sensor, e-compass, gyroscope, proximity sensor
• แบตเตอรี่ : 2650 mAh 

สำหรับราคาทั้งสามรุ่นยังไม่มีรายละเอียดต้องรอติดตามอีกครั้ง แต่ว่าเจอแน่นอนงาน TME 2017

แน่นอนว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของงาน Thailand Mobile Expo คือการลดแลกแจกแถม งานนี้คงต้องลุ้นกันว่า HMD ประเทศไทยจัดเซอร์ไพร์สใดให้ผู้สนใจบ้างและอย่าลืมพบเราทีมงาน Siamphone.com กันด้วย เราจะรายงานความเคลื่อนไหวให้ทราบอย่างครบถ้วน