www.siamphone.com
เทคโนโลยี (Technology) | วันที่ : 12 กรกฎาคม 2560
งานวิจัยล่าสุดของ สมาคมจีเอสเอ็ม หรือ GSMA เผยรายงานล่าสุด “The Mobile Economy: Asia Pacific 2017” ชี้ตลาดในเอเชียกำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีมือถือ 5G เพื่อหวังนำมาใช้ในเขตชุมชนเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เนื่องด้วยกลุ่มผู้ให้บริการมือถือทั้งหลายต่างมองหาหนทางที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ และเสริมการทำงานของสัญญาณเคลื่อนที่บนแถบความถี่กว้าง หรือ บรอดแบนด์ ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น โดยประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนกลยุทธ์เพื่อปรับเปลี่ยนสู่ความเป็นสังคมดิจิทัล ผ่านกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการวางแผน ส่งเสริม พัฒนา และลงมือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล
นอกจากนี้ ในรายงานยังระบุด้วยว่า ภายในสิ้นปี 2020 คาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหม่เพิ่มขึ้นถึงราว 753 ล้านรายทั่วโลก โดย 27 เปอร์เซ็นต์ (206 ล้านราย) จะอยู่ในตลาดอินเดีย และ 21 เปอร์เซ็นต์ (155 ล้านราย) จะอยู่ในตลาดจีน
“อุตสาหกรรมมือถือในภูมิภาคเอเชียจะเป็นกลไกสำคัญในการขยายจำนวนผู้ใช้บริการทั่วโลกตลอดช่วงปีที่เหลือของทศวรรษนี้ โดยมีอินเดียและจีนเป็นหัวเรือใหญ่ และจะสามารถสร้างการสื่อสารเพื่อเชื่อมต่อลูกค้ารายใหม่ ๆ จำนวนกว่าห้าร้อยล้านรายทั่วภูมิภาคได้ภายในปี 2020” นายแมตส์ แกรนรีด ผู้อำนวยการทั่วไปของสมาคมจีเอสเอ็ม กล่าว พร้อมเสริมอีกว่า “เรายังพบด้วยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดไปสู่การใช้เครือข่ายสัญญาณเคลื่อนที่บรอดแบนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบ 4G ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้หลากหลาย ทั้งในกลุ่มตลาดพัฒนาแล้ว และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคนี้ ในขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการชั้นนำในเอเชียจะกลายเป็นกลุ่มแรกๆ ของโลกที่จะเปิดให้ใช้เครือข่าย 5G ในเชิงพาณิชย์ได้ก่อนสิ้นสุดทศวรรษนี้”
เป็นที่คาดการณ์ว่า จำนวนแท้จริงของผู้ลงทะเบียนมือถือ (unique mobile subscribers) ของทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะเพิ่มจำนวนจาก 2.7 พันล้านราย ณ สิ้นปี 2016 มาเป็น 3.1 พันล้านรายในปี 2020 คิดเป็นสองในสามของการขยายตัวทั่วโลก
เอเชียนำทัพเข้าสู่ยุค 5G
จำนวนของผู้ใช้บริการมือถือที่เพิ่มสูงขึ้นในเอเชียแปซิฟิก สามารถเจาะตลาดในภูมิภาคได้กว้างขึ้น (หากคิดเป็นสัดส่วนของจำนวนประชากร) โดยเติบโตจากร้อยละ 66 ในปี 2016 มาเป็นร้อยละ 75 ในปี 2020 แต่ด้วยลักษณะของภูมิภาคที่มีความหลากหลายสูง จึงทำให้การรุบคืบของตลาดมือถือในแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งนี้ เมื่อดูจาก 5 อันดับต้นของประเทศที่มีสัดส่วนผู้ใช้มือถือสูงที่สุดในโลก จะเห็นได้ว่าเป็นประเทศในเอเชียอยู่ถึง 4 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไต้หวัน แต่ในขณะเดียวกัน เอเชียก็มีประเทศที่มีการเข้าถึงของมือถือต่ำสุดด้วยเช่นกัน อาทิ เกาหลีเหนือ
ปัจจุบัน สัญญาณเคลื่อนที่บรอดแบนด์ (3G ขึ้นไป) กำลังเป็นเทคโนโลยีที่ครองตลาดในภูมิภาค และสามารถไต่ระดับจนเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ได้รับความนิยมเกินครึ่งหนึ่งของตลาดไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ในงานวิจัยชิ้นนี้ยังแสดงให้เห็นว่า ตลาดในเอเชีย อาทิ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีส่วนขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีสัญญาณเคลื่อนที่แบบ 5G โดยคาดว่าการเชื่อมต่อบนระบบ 5G (ไม่นับรวมการใช้งาน Internet of Things - IoT) จะมีมากถึง 670 ล้านรายในเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2025 คิดเป็นสัดส่วนเกือบถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ของการเชื่อมต่อบนระบบ 5G ของทั่วโลกในเวลานั้น
ประเทศไทยผลักดันแผนพัฒนาสังคมดิจิทัลแห่งชาติเต็มรูปแบบ
ข้อมูลจากรายงานนี้ยังแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไทยมีบทบาทสำคัญยิ่งในการสร้างกรอบทิศทาง และผลักดันให้เกิดพัฒนาการสู่รูปแบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงในข้อนี้ ด้วยการสร้างโอกาส และเปิดให้มีการแข่งขันกันอย่างเท่าเทียม เพื่อให้แต่ละฝ่ายสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรม และเข้าถึงชุมชนที่ขาดโอกาสได้อย่างทั่วถึง อาทิ การใช้ระบบเงินมือถือ หรือ mobile money ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสู่การเดินหน้าตามแผนพัฒนาสังคมดิจิทัล ทั้งนี้ นอกเหนือไปจากการกำหนดนโยบาย และการวางระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ แล้ว รัฐบาลไทยยังจำเป็นต้องส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจแบบดิจิทัลที่จะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อผู้คนและธุรกิจของประเทศตลอดไปในอีกหลายปีข้างหน้า
ระบบสัญญาณเคลื่อนที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่เป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ตลาดเทคโนโลยีและบริการการสื่อสารเคลื่อนที่ก่อให้เกิดรายได้ทางเศรษฐกิจมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านเหรียญ (ประมาณ 44.1 ล้านล้านบาท) ในเอเชียแปซิฟิกเมื่อปีที่ผ่านมา เทียบเท่าร้อยละ 5.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ของภูมิภาค และเป็นที่คาดการณ์ว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.6 ล้านล้านเหรียญ (ประมาณ 54.3 ล้านล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 5.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ในปี 2020 และประเทศต่าง ๆ จะได้รับประโยชน์จากประสิทธิผลและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการใช้บริการผ่านระบบสัญญาณเคลื่อนที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมไปกับการนำเทคโนโลยีเคลื่อนที่ใหม่ ๆ มาใช้ อาทิ การสื่อสารตรงระหว่างอุปกรณ์ หรือ machine-to-machine (M2M)
ในปี 2016 ที่ผ่านมา ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบสัญญาณเคลื่อนที่ในภูมิภาคเอเชียสามารถสร้างงานได้ถึงราว 16 ล้านตำแหน่ง ทั้งทางตรงและทางอ้อม และมีส่วนช่วยอย่างมหาศาลในการระดมทุนให้กับภาครัฐ และมีการประเมินว่าภาคส่วนนี้มอบความช่วยเหลือทางการเงินแก่ภาครัฐในรูปของภาษีที่จ่ายให้กับรัฐบาลเป็นมูลค่าสูงถึงราว 1.66 แสนล้านเหรียญ (ประมาณ 5.6 ล้านล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา
อุตสาหกรรมระบบสัญญาณเคลื่อนที่ในเอเชียมีบทบาทสำคัญในการจัดการกับความท้าทายต่างๆ ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคมตามแนวทางสู่เป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals - SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ รายงานฉบับนี้เน้นให้เห็นถึงกรณีศึกษาหลายประการที่แสดงให้เห็นว่าบริการระบบสัญญาณเคลื่อนที่สามารถช่วยขจัดปัญหาความยากจน สร้างเสริมสุขพลานามัยที่ดี ส่งเสริมการศึกษา ความเท่าเทียมทางเพศ และสร้างโอกาสในการทำงาน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยให้เมืองมีความปลอดภัยสูงขึ้น ช่วยแก้ปัญหาภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และจัดการปัญหาอื่นๆ ได้อีกมากมาย
“ระบบนิเวศของอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเอเชียมีวิวัฒนาการที่รวดเร็ว ก่อให้เกิดบริการ และการใช้งานรูปแบบใหม่ๆ ที่จะพลิกรูปแบบการใช้ชีวิต การทำงาน การเล่น และการสื่อสาร ของผู้คนที่แตกต่างหลากหลายในภูมิภาคนี้” นายแมตส์ แกรนรีด กล่าวเพิ่มเติมว่า “การที่เราจะใช้ระบบสัญญาณเคลื่อนที่เป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดมูลค่าที่เด่นชัดทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมได้อย่างเต็มที่นั้น เราต้องขอให้ทางรัฐบาลและผู้กำหนดนโยบายทั้งหลายให้ความร่วมมือกับอุตสาหกรรมระบบสัญญาณเคลื่อนที่ เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลที่ก้าวล้ำและแข็งแกร่ง บนพื้นฐานของกรอบแนวทางข้อกำหนดที่เอื้อต่อการพัฒนาในอนาคต”
ในรายงานยังเผยให้เห็นว่า อุตสาหกรรมมือถือของภูมิภาคนี้มีส่วนช่วยต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมในเอเชียในช่วงเวลาดังกล่าวได้อย่างไร ไปจนถึงบทบาทสู่การริเริ่มเข้าสู่เทคโนโลยี 5G และเน้นให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก ด้วยแรงกระตุ้นของจำนวนสมาร์ทโฟนและการใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือที่เพิ่มขึ้น ราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และมีเนื้อหาที่สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น จึงก่อให้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็วของบริการบนมือถือต่าง ๆ อาทิ วีดีโอ โซเชียลมีเดีย อีคอมเมิร์ซ และบริการทางการเงินในรูปแบบต่าง ๆ การเจาะตลาดอินเตอร์เน็ตบนมือถือในเอเชียแปซิฟิกได้เพิ่มทวีคูณในช่วงห้าปีที่ผ่านมา โดยสามารถเข้าถึงประชากรในพื้นที่ได้เกือบครึ่งของทั้งภูมิภาคเมื่อสิ้นปี 2016
รายงาน ‘The Mobile Economy: Asia Pacific 2017’ ฉบับใหม่ จัดทำขึ้นโดย GSMA Intelligence ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยของ GSMA สามารถอ่านรายงานฉบับเต็มพร้อมดูอินโฟกราฟฟิกที่เกี่ยวข้องได้ที่ www.gsma.com
ที่มา : www.gsma.com วันที่ : 12 กรกฎาคม 2560
รวมข่าวลือ iPad Air 2024 (Gen 6th) เพิ่มทางเลือกหน้าจอ 12.9 นิ้ว เร็วแรงขึ้นด้วยชิป M26 ชั่วโมงที่แล้ว
Apple ลั่นกลองประกาศกิจกรรม 7 พ.ค. 2024 คาดส่ง iPad รุ่นใหม่ อาจเห็น Apple Pencil รุ่น 3 มาด้วย6 ชั่วโมงที่แล้ว
vivo Y100 สมาร์ทโฟนน้องเล็ก สีเขียวฉ่ำรับซัมเมอร์8 ชั่วโมงที่แล้ว
เลือกอะไรดี! OPPO A60 vs realme 12x 5G ราคา 5,999 บาทเท่ากัน แตกต่างกันอย่างไร14 ชั่วโมงที่แล้ว
เปิดตำนาน SELPHY พรินเตอร์พกพา เชื่อมต่อผ่านสมาร์ทดีไวซ์ สั่งพิมพ์ภาพได้ทันที16 ชั่วโมงที่แล้ว
เลือกอะไรดี! OPPO A60 vs realme 12x 5G ราคา 5,999 บาทเท่ากัน แตกต่างกันอย่างไร
6G มาแล้ว! โลโก้อย่างเป็นทางการ ทำความเร็วดาวน์โหลดต่อวินาทีได้มากถึง 100Gbps
HUAWEI FreeBuds Lipstick 2 หูฟังไร้สายดีไซน์ลิปสติก เจาะกลุ่มสาวรักแฟชั่น
Baojun Yep Plus ขุมพลังรถยนต์ไฟฟ้า ดีไซน์เรียบหรูสไตล์เรโทร ขับขี่ไกลสูงสุด 401 กม.
Infinix NOTE 40 Series ชิปแรง ชาร์จไว พร้อมที่ชาร์จไร้สาย MagCase
Google Pixel 8a หลุดสเปคและฟีเจอร์เด็ด เตรียมเปิดตัวพร้อม Android 15
ทำความรู้จัก HONOR X8b หน้าจอ 6.7 นิ้ว กล้องเซลฟี่ 50MP ชาร์จเร็ว 35 วัตต์
OPPO และ OnePlus เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ AI อย่าง AI Eraser ทั่วโลก
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
vivo T3x 5G สมาร์ทโฟนเริ่มต้นระดับกลาง ชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 ได้หน้าจอ 120Hz มาด้วย