หญิงชาวจีนถูกจับหลังพยายามลักลอบนำ iPhone กว่า 102 เครื่องมัดติดกับตัวข้ามพรมแดน

หญิงชาวจีนรายหนึ่งถูกจับขณะพยายามลักลอบนำเข้า iPhone จำนวนไม่น้อยกว่า 102 เครื่องจากฮ่องกงข้ามไปยังจีนแผ่นดินใหญ่โดยการรัดสิ่งของเหล่านี้ไว้กับตัว

การลักลอบนำ iPhone ข้ามประเทศครั้งล่าสุดนี้ยังพบของกลางน้อยกว่าเหตุการณ์ที่จับได้เมื่อสองปีก่อนซึ่งเคยมีชายชาวจีนพยายามลักลอบนำ iPhone เข้ามาในประเทศกว่า 146 เครื่องด้วยรูปแบบที่คล้ายคลึงกันคือใช้วิธีใช้เทปพันติดไว้กับตัวและบริเวณขา แต่หญิงสาวรายนี้ใช้วิธีใส่ชุดที่ค่อนข้างหนาซึ่งออกแบบให้มีช่องเก็บของมากกว่าปกติและน่าจะเหมาะกับการใส่ในช่วงหน้าหนาวมากกว่าหน้าร้อนอย่างในปัจจุบัน

เนื่องจาก iPhone ที่ขายในฮ่องกงมีราคาถูกกว่าที่ขายในประเทศจีนจึงกลายเป็นแรงจูงใจให้คนที่อยากรวยทางลัดพยายามหาทางลักลอบนำข้ามพรมแดน แม้ว่าจะมีการตรวจตราอย่างเข้มงวดและจับผู้ก่อเหตุได้เป็นจำนวนมากในแต่ละเดือน หญิงคนนี้ก็ยังเลือกที่จะเสี่ยงและในที่สุดก็หนีไม่พ้นการตรวจค้นของศุลกากร

เจ้าหน้าที่ศุลกากรเผยว่าพวกเขาเห็นอะไรบางอย่างในตัวของหญิงรายนี้นูนออกมามากผิดปกติและร่างกายของเธอบริเวณส่วนลำตัวหนากว่าช่วงแขนและช่วงขาอย่างผิดสังเกตจึงเรียกไปตรวจค้นและพบว่ามี iPhone จำนวน 102 เครื่องและนาฬิกาหรูจำนวน 15 เรือนถูกมัดรวมติดแนบกับตัวหญิงคนดังกล่าวโดยของกลางมีน้ำหนักรวมกันกว่า 19.9 กิโลกรัม

ไม่มีการเปิดเผยว่า iPhone ที่พบในตัวหญิงรายนี้มีรุ่นอะไรบ้าง แต่สมมติว่าเป็น iPhone 7 Plus รุ่นสเปกสูงที่สุดก็จะมีมูลค่ากว่า 3.3 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่นับรวมราคาของนาฬิกาหรูที่ค้นเจอด้วย

การลักลอบนำสินค้าราคาแพงข้ามพรมแดนเป็นธุรกิจมืดขนาดใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ทางการจีนและฮ่องกงพยายามปราบปรามมาโดยตลอดแต่ก็ยังมีรายงานพบเห็นการฝ่าฝืนอยู่เป็นระยะ