www.siamphone.com
เทคโนโลยี (Technology) | วันที่ : 1 สิงหาคม 2560
หลังจากที่ Mark Zuckerberg ได้โต้ตอบ Elon Musk ในประเด็นด้านความปลอดภัยของ AI (Artificial Intelligence) ในอนาคตว่า AI จะช่วยให้มนุษย์อยู่อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไปอีกขั้นอย่างแน่นอน ซึ่งขัดกับ Musk ที่บอกว่า AI คือความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดที่เรากำลังจะเจอในอนาคต (ข่าวย้อนหลัง) ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาต้องกลับมานั่งพิจารณาถึงคำพูดของ Elon Musk อีกครั้ง หลังจากที่ Facebook ต้องเช็คหนึ่งในระบบ AI หลังจากที่นักวิจัยตรวจพบว่ามันเริ่มสื่อสารด้วยภาษาของตัวมันเองซึ่งเป็นภาษาที่มนุษย์ไม่เข้าใจ
เหตุการณ์ข้างต้นเกิดขึ้นเมื่อนักวิจัยพบว่า AI 2 ตัวนามว่า Bob และ Alice ที่ถูกพัฒนาโดย Facebook อยู่เหนือการควบคุมซึ่งมันไม่ได้ส่งผลไปถึงขั้นการปิดระบบคอมพิวเตอร์ทั้งโลกหรือเหตุการณ์ร้ายแรงอะไร แต่มันหยุดการใช้งานภาษาอังกฤษที่ถูกหลักไวยากรณ์และเริ่มใช้ภาษาที่สร้างขึ้นมาเพื่อคุยกันเองตามข้อความด้านล่างนี้Bob: "I can can I I everything else."Alice: "Balls have zero to me to me to me to me to me to me to me to me to."
โดยเหตุการณ์นี้นักพัฒนาระบบได้ฝึกฝนทักษะการเจรจาต่อรองกับมนุษย์และก็เป็นมาด้วยดีมาโดยตลอด แต่จากข้อความด้านบนจะเห็นได้ว่ามนุษย์ไม่สามารถแปลข้อความเหล่านี้ได้ จนเป็นเหตุให้นักวิจัยได้วิเคราะห์ถึงข้อความเหล่านี้ว่า Bob ต้องการเจรจาแลกเปลี่ยนสิ่งของกับ Alice โดยอาจจะตีความหมายเป็นภาษาปกติได้ว่า "I’ll have three and you have everything else. (ฉันจะเอา 3 อัน ส่วนที่เหลือให้เธอหมดเลย)"
แม้ว่าภาษาอังกฤษจะใช้ได้อย่างมีประสิทภิภาพต่อมนุษย์ แต่สำหรับ AI แล้ว ภาษาอังกฤษหรือประโยคต่างๆ กลับถูกมองว่าซ้ำซากและไร้ประสิทธิภาพในการเจรจาต่อรอง ซึ่งมันก็ได้มองว่าคำภาษาอังกฤษเหล่านี้ไม่สามารถทำให้มันบรรลุเป้าหมายเพื่อได้รับ "Reward" หรือระบบรางวัลตามที่นักวิจัยกำหนดขึ้นมาได้ มันจึงได้ใช้ภาษาของตัวเองขึ้นมาเพื่อให้การสนทนาระหว่าง AI ด้วยกัน เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
นอกจากนี้ นักวิจัยของ Facebook ได้อธิบายเรื่องระบบรางวัลว่าในตัวของ AI ทั้ง Bob และ Alice จะต้องการสิ่งของที่ตัวเองคิดว่ามีค่ามากที่สุด โดยจะต้องทำการเจรจาและต่อรองเพื่อให้ได้ของสิ่งนั้นมาไว้ในครอบครอง และเมื่อมันไม่ได้สิ่งของตามที่ตัวเองต้องการ จึงเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ตามข่าวที่ออกมาจากสื่อในต่างประเทศยังไม่คงไม่ได้รับการยืนยันที่แน่ชัดจากบริษัท โดยตรงว่าเหตุการณ์ที่เกิดนั้นมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ ทั้งนี้ ผู้อ่านสามารถอ่านรายละเอียด (ภาษาอังกฤษ) ของโครงการ Deal or no deal ได้จากเว็บไซต์หลักของทาง Facebook
ที่มา : www.theepochtimes.com วันที่ : 1 สิงหาคม 2560
Redmi Note 15 Pro อาจมีรุ่น 4G ให้เลือก คาดใช้ชิป Helio G200 Ultra กล้องหลัง 200MP3 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว BMB Entry Level ตำนานเครื่องเสียงญี่ปุ่น ครบจบเรื่องคาราโอเกะ19 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว iPad Pro M5 เพิ่มความแรงอีกขั้นกับชิป M5 ใครเครื่องเดิมอยู่ดีๆ เริ่มช้า ต้องเปลี่ยน19 ชั่วโมงที่แล้ว
Redmi Note 15 Series หลุดทั้งภาพ และข้อมูลสเปคก่อนเปิดตัวแบบ Global15 ธ.ค. 68 07:00
vivo Y31 5G สมาร์ตโฟน 5G รุ่นทนทานยันแบตเตอรี่ เริ่มวางขายในประเทศไทย14 ธ.ค. 68 15:00
Motorola Moto G67 Power 5G มาพร้อม Snapdragon 7s Gen 2 และมาตรฐานทหาร MIL-STD-810H
Figure 03 หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์อัจฉริยะทำงานบ้านแทนคน จ่อผลิตแสนตัว ลุ้นราคาไม่เกิน 6 แสน
JLab Go Party และ JLab Pop Party คู่หูสายปาร์ตี้ ลำโพงพกพาพร้อมไฟ RGB สุดเท่
MediaTek Dimensity 7360 ชิปฯ 4nm ตัวใหม่ แรงขึ้น ประหยัดไฟกว่าเดิม เขย่าตลาดสมาร์ตโฟนระดับกลาง
5 สมาร์ตโฟนเน้นแบตฯ อึด ใช้งานได้ข้ามวัน สำหรับสายเดินทาง ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
สุดยอดสมาร์ตโฟนถ่ายวิดีโอดีที่สุดสำหรับสาย YouTuber ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
5 สมาร์ตโฟนกล้องคุ้มเกินราคา ในงบไม่เกิน 15,000 บาท ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
realme C85 Series 5G ลุยได้ทุกจังหวะชีวิตด้วยแบต 7000mAh ราคาเริ่มต้น 5,xxx
5 สมาร์ตโฟนจอใหญ่ ถนอมสายตา เหมาะกับผู้สูงอายุ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025