ส่องฟีเจอร์เด่น Pixel 2 & Pixel 2 XL พร้อมอธิบายเทคนิคกล้องเดี่ยวที่มีลูกเล่นเหมือนกล้องคู่

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Google Pixel 2 กับ Google Pixel 2 XL สมาร์ทโฟนรุ่นท็อปส่งท้ายปีที่ต้องบอกว่าแม้เผยโฉมช้าสุดกว่าแบรนด์อื่นๆ แต่ก็มีหลายอย่างจัดเต็มสมกับเวลาที่ได้พัฒนา ดังนั้นในบทความนี้จึงจะขอหยิบจุดเด่นมาเล่าสู่กันฟังว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ทั้งนี้ใครสนใจรุ่นดังกล่าวก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของผ่านร้านค้า Google Store ได้เลย ซึ่งกูเกิลก็เพิ่งเพิ่มประเทศไทยให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดจำหน่ายสินค้ากับช่องทางออนไลน์ด้วย เพียงแต่ยังไม่มีหน้าร้านเท่านั้น

เริ่มกันที่หน่วยประมวลผลเป็นไปตามคาดว่าใช้ขุมพลัง Snapdragon 835 เป็นหัวใจหลักโดยมี RAM ขนาด 4GB มีพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 64GB และ 128GB ทั้งนี้ไม่สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้ ส่วนแบตฯ ความจุแตกต่างกัน Pixel 2 (2700mAh) กับ Pixel 2 XL (3520mAh) รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วซึ่งอะแดปเตอร์จะแถมมาให้ในกล่องไม่ต้องซื้อเพิ่มแต่อย่างใด ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อจะเป็น Type-C ประเภท 3.1 Gen 1 มาพร้อมระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4G + 5GHz 802.11 a/b/g/n/ac 2x2 MIMO, Bluetooth 5.0 + LE, NFC, GPS และ GLONASS

2. รองรับการใช้งาน eSIM (Embedded SIM) : เชื่อว่าซิมการ์ดประเภทดังกล่าวจะเริ่มใช้งานจริงในอนาคต สำหรับซิมการ์ดนั้นจะถูกฝังอยู่ในตัวสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ ได้เลย โดยก็ไม่ต้องพึ่งพาถาดซิมการ์ดอีกต่อไปแล้ว ลดความยุ่งยากที่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ดไปมา เฉกเช่นเดียวกับกระบวนการต่างๆ ของทุกโอเปอเรเตอร์ในการขอใช้งานซิมการ์ด โดยเมื่อเรายกเลิกหรือก็ต้องการใช้ค่ายใดเพียงแค่โทรติดต่อทำเรื่องและรอ Activate ได้เลย ไม่ต้องใช้เวลาเป็นวันอีกต่อไป

 

3. เก็บภาพหรือวิดีโอได้อย่างจุใจ : แน่นอนว่าใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google ย่อมมีสิทธิพิเศษโดยก็สามารถเก็บข้อมูลแบบไม่มีลดความละเอียดและไม่มีจำกัดใน Google Photo จนถึงปี 2020 ซึ่งหลัังจากนั้นก็สามารถเก็บได้เหมือนเดิมแต่ลดความละเอียดลง

4. ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ : หน้าตาค่อนข้างฉีกแนวจากสมัยนิยมไปพอสมควร มาพร้อมเฉดสีทูโทนที่มีความสวยงามลงตัวใช้วัสดุอะลูมิเนียมและกระจก มีลำโพงคู่ให้ระบบเสียงสเตอริโอกับไมโครโฟน 3 ตัว แบ่งเป็นจับเสียงสองตัวและตัดเสียงรบกวนหนึ่งตัว

5. หน้าจออัตราส่วนใหม่ในรุ่น XL : ใครที่ชื่นชอบหน้าจอใหญ่และเน้นเล่นเกมกับดูภาพยนต์อาจก็ต้องมองรุ่นนี้เลย เพราะมีหน้าจอ pOLED ที่จะให้เฉดสีคมชัดสวยงามเป็นธรรมชาติมีความละเอียดสูงถึง 2880 x 1440 พิกเซล (QHD+) อีกทั้งมี Always ON Display ที่ชาญฉลาดกว่าเดิม เชื่อว่าหลายคนเวลาเดินทางไปสถานที่ไหนมักมีเสียงเพลงรอบตัวเสมอ และเราก็มักจะสงสัยว่านั่นคือเพลงอะไร บางครั้งก็สามารถหาคำตอบได้แต่บางครั้งก็หลงลืมไปซะงั้น ทว่าด้วยฟังก์ชั่นดังกล่าวแค่หยิบสมาร์ทโฟนมาดูข้อมูลของเพลงก็จะแสดงรายละเอียดให้บนหน้าจอ Always ON Display เลย

 

6. ลูกเล่นเพิ่มบีบเพื่อเรียก Google Assistant : หลายคนอาจไม่อยากเรียกหรือกดปุ่มใดให้ยุ่งยากแต่เราสามารถบีบเครื่องเบาๆ เพื่อเรียกใช้งานผู้ช่วยส่วนตัวได้ นอกจากนี้ผู้ช่วยส่วนตัวของเราก็มีความชาญฉลาดมากขึ้น เรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้งานกว่าเดิม เพื่อปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์แต่ละคน

7. ระบบกล้องไม่เหมือนใคร : ใครบอกต้องอาศัยกล้องคู่อย่างเดียวเพื่อทำภาพเบลอหรือให้ภาพนั้นมีมิติมากกว่าเดิมอาจต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่ แม้ว่าจะมีรุ่นอื่นทำได้เหมือนกันแต่ภาพที่ได้นั้นยังไม่สมจริงเป็นธรรมชาติ ซึ่งกูเกิลใช้หลักการของการผสมผสานเทคโนโลยี HDR+ ร่วมกับ Dual Pixel เพื่อให้ภาพสามารถเบลอได้อย่างสมจริง

สำหรับ HDR+ จะทำให้เลนส์จับภาพที่มีไดนามิคดีขึ้นกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น คุณถ่ายภาพวิวที่มีแสงปริมาณมาก ทว่าเมื่อคุณถ่ายภาพออกมาแล้วจะยังคงได้ภาพที่สวยงามเป็นธรรมชาติไม่มีแสงที่เยอะจนเกินไปหรือพูดง่ายๆ ว่าปรับให้อยู่ในสภาพแสงที่เหมาะสมนั่นเอง นอกจากนี้เฉดเงาต่างๆ จะสมจริงดูมีรายละเอียดกว่าเดิมทำให้ความรู้สกของภาพเปลี่ยนไปในทางที่รับรู้ได้

ส่วนอีกหนึ่งเทคโนโลยี Dual Pixel กล่าวคือทุกทุกพิกเซลเลนส์กล้องจับภาพได้จะเป็นแบบสองพิกเซล โดยปกติแล้วจะใช้เพื่อให้จับโฟกัสภาพได้เร็ว แต่กูเกิลได้เสริมต่อยอดนำมาสร้างเป็นความลึกของภาพและแยกวัตถุออกมาจากพื้นหลังได้อย่างแนบเนียน จนสถาบันประเมินผลภาพชื่อดังได้ให้คะแนนคอนเฟิร์มถึง 98 คะแนน (อ่านข่าวย้อนหลัง) 

8. รู้รายละเอียดจากภาพได้ : อาจกลายเป็นฟีเจอร์พื้นฐานในอนาคตแน่นอนสำหรับการรับรู้ข้อมูลของภาพถ่ายเพราะเดิมทีเราแค่ถ่ายรูปเพื่อความสวยงาม แต่เราก็ไม่เคยรับรู้ว่าในรูปนั้นคืออะไรหรือมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ยกตัวอย่าง คุณถ่ายภาพวัดแห่งหนึ่งเดิมทีคุณก็ได้แค่รูปภาพวัดปกติ แต่ต่อไปเราจะทราบถึงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย

9. มิติใหม่ของการถ่ายวิดีโอ : นอกจากภาพจะโดดเด่นแล้ว ใครที่ชอบถ่ายวิดีโอก็อาจต้องเหลียวมองสองพี่น้องดังกล่าวแล้ว เพราะมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) + (EIS) ทำงานร่วมกัน

10. เซลฟี่ด้วยโหมด Portrait : ความสวยหล่อของคุณจะโดดเด่นมากขึ้นด้วยภาพหลังที่เบลอได้สวยงามสมจริงและสามารถใช้คำสั่งเสียงเพื่อสั่งภ่ายภาพ 

สรุปสเปกของสองพี่น้อง Pixel 2 และ Pixel 2 XL 

  Pixel 2 Pixel 2 XL  ขนาดตัวเครื่อง 145.7 x 69.7 x 7.8 มม.  157.9 x 76.7 x 7.9 มม.  นํ้าหนัก 143 กรัม 175 กรัม  ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo รองรับการอัปเดตต่อเนื่อง 3 ปี Android 8.0 Oreo รองรับการอัปเดตต่อเนื่อง 3 ปี หน้าจอ 16:9 แบบ AMOLED ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด FullHD ครอบทับกระจก Gorilla Glass 5 แบบ 2.5D    18:9 แบบ pOLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด QHD+ ครอบทับกระจก Gorilla Glass 5 แบบ 3D   หน่วยประมวลผล Snapdragon 835   Snapdragon 835  GPU Adreno 540  Adreno 540   RAM 4GB LPDDR4x 4GB LPDDR4x พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB / 128GB   64GB / 128GB  MicroSD Card  ไม่รองรับ ไม่รองรับ  คุณสมบัติกันนํ้ากันฝุ่น IP67 IP67  เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ รองรับ  รองรับ   ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ไม่รองรับ  ไม่รองรับ  แบตฯ ความจุ 2700mAh รองรับการชาร์จเร็ว 3520mAh รองรับการชาร์จเร็ว

 สำหรับระบบกล้องดิจิตอลของ Pixel 2 และ Pixel 2 XL จะมีสเปกเหมือนกัน

กล้องหลังความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล จุดพิกเซลขนาด 1.4 um ระบบจับโฟกัส Laser + Dual Pixel PDAF รูรับแสง f/1.8 มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS)+(EIS) รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K@30fps

กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จุดพิกเซลขนาด 1.4 um รูรับแสง f/2.4 รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K@30fps

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับจุดเด่นและสเปกของสองพี่น้อง ลองแชร์ความคิดเห็นกันได้..

หรือประมาณ 21,6xx บาท

หรือประมาณ 28,3xx บาท