www.siamphone.com
หูฟัง Earbuds (Earbuds) | วันที่ : 9 พฤศจิกายน 2560
Apple Watch Series 3 (GPS) นาฬิกาอัจฉริยะจาก Apple มาพร้อมหน่วยประมวลผลโปรเซสเซอร์ S3 แบบ Dual Core รุ่นใหม่ทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น 70% และรองรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธและ Wi-Fi ด้วยชิพระบบไร้สาย W2 ที่ช่วยให้การทำงานดีขึ้นกว่าเดิม 85% และยังประหยัดพลังงาน รันบนระบบปฎิบัติการ Watchos 4 จอภาพ OLED Retina รุ่นที่ 2 พร้อมเทคโนโลยี Force Touch ที่ช่วยให้การใช้งานสัมผัสได้ง่ายแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นคู่หูด้านสุขภาพ และการออกกำลังกายด้วยความเสถียรมากขึ้นกว่าเดิม
ตัวเรือนผลิตมาจากวัสดุอะลูมิเนียม หน้าปัดตัวเรือนทำมาจากกระจก Ion-X ที่มีความทนทานสูง และกันรอยขีดข่วน
ด้านข้างซ้ายของตัวเรือน ด้านบนเป็นช่องลำโพงเสียง ถัดลงมาด้านล่างจะเป็นช่อง ระบายอากาศ และไมค์สำหรับสนทนา
ด้านข้างขวาของตัวเรือนด้านบนมี Digital Crown (เม็ดมะยม) ด้านล่างเป็นปุ่ม Side Button (แอพที่ใช้ล่าสุด) และเปิด/ปิดเครื่อง
ด้านหลังของตัวเรือน บริเวณตรงกลางมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดชีพจรหัวใจ มีการครอบทับด้วยกระจกแซฟไฟร์
ด้านบนและด้านล่างมีปุ่มกดสำหรับปลดสายนาฬิกา โดยการเลื่อนสายออก
ตัวสายนาฬิกาทำมาจากยาง Fluoroelastomer มีความยืดหยุ่น และทนทาน
อุปกรณ์ภายในกล่อง
การเชื่อมต่อเข้ากับ iPhone
ก่อนเริ่มต้นใช้งานนั้น จะต้องทำการปลดล๊อคตัวเรือนนาฬิกาก่อน ซึ่งจำเป็นต้องทำการเชื่อมต่อ Apple Watch เข้ากับ iPhone ผ่านทาง Bluetooth โดย Apple Watch Series 3 (รุ่น GPS) ต้องทำงานร่วมกับ iPhone 5s หรือใหม่กว่า และ iOS ตั้งแต่เวอร์ชั่น 11 ขึ้นไป
การปลดล็อค Apple Watch นั้นจะใช้เวลาโดยประมาณ 2-3 นาที สำหรับเครื่องใหม่ ซึ่งเมื่อทำการปลดล็อคแล้ว Apple Watch เครื่องนี้ก็พร้อมที่จะนำไปใช้งาน แต่หากเคยปลดล็อคมาแล้วก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้อีก โดยสามารถนำนาฬิกาไปเชื่อมต่อกับ iPhone ได้เลย
สำหรับการเชื่อมต่อ (Pair) เข้ากับ iPhone นั้น สามารถทำได้ด้วยการเปิด Bluetooth บน iPhone เปิดแอพพลิเคชั่น Apple Watch และกดปุ่ม Start Pairing หลังจากนั้นบนหน้าปัดของ Apple Watch จะปรากฏรูปกราฟฟิกขึ้นมา และเข้าไปที่เมนู Apple Watch บน iPhone จากนั้นสแกนไปที่รูปกราฟฟิกดังกล่าว เพื่อทำการเชื่อมต่อ
ซึ่งหลังจากนาฬิกากับโทรศัพท์สามารถเชื่อมต่อกันได้แล้ว ระบบจะทำการตั้งค่าแอพฯ (Activity) และบริการต่างๆ บนเครื่อง iPhone ให้อัตโนมัติ
WatchOS 4
WatchOS 4 เป็นระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุดบน Apple Watch Series 3 (GPS) ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผล Dual Core รุ่นใหม่ทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น 70% และรองรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธและ Wi-Fi ดีขึ้นกว่าเดิม 85% นอกจากนี้ยังปรับปรุงฟังชั่นก์วัดอัตราการเต้นของหัวใจใหม่ ให้ข้อมูลที่ละเอียดขึ้นเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจ ได้แก่ การวัดระหว่างการพัก การออกกำลังกาย การฟื้นตัว การเดิน และขณะใช้แอพหายใจ ที่จะรับการแจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจสูงกว่าเกณฑ์ที่ระบุในขณะที่ไม่ได้ใช้งานได้เช่นกัน
Siri อัพเกรด
นอกจากตัวระบบการทำงานของ Apple Watch Series 3 ที่เร็วขึ้นแล้ว เป็นครั้งแรกบนน Apple Watch ที่ Siri สามารถโต้ตอบด้วยเสียงผ่านลําโพงในตัว และยังสามารถใช้งาน Siri ผ่านหูฟัง Air Pods ที่เชื่อมต่อกับ Apple Watch ได้อีกด้วย
หน้าจอแสดงผล/การใช้งานพื้นฐาน
Apple Watch Series 3 ได้เพิ่มหน้าปัดนาฬิกาแบบใหม่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถเลือกพื้นหลังหน้าปัดนาฬิกาได้หลากหลายมากขึ้น เพียงเลื่อนหน้าจอซ้าย-ขวา จะแสดงหน้าจอที่ต้องการเห็นได้ในทันทีตามที่ตั้งค่าไว้ ทั้งนี้ยังมีความพิเศษที่จะพาตัวการ์ตูนอย่าง Woody, Jessie และ Buzz Lightyear จากการ์ตูน Toy Story ให้ออกมาเคลื่อนไหวบนหน้าปัดราวกับมีชีวิต
การตั้งค่าหน้าปัดหน้าจอสามารถเลือก และปรับแต่งได้บน iPhone หรือเพียงกดลงไปบนหน้าจอ Apple Watch จะสามารถเพิ่มได้เช่นกัน
เมื่อปัดหน้าจอขึ้นจะพบกับการแสดงผลค่าสถานะ และโหมดต่างๆ ของตัวเครื่อง
ปุ่ม Digital Crown (เม็ดมะยม)
มีหน้าที่หลักคล้ายปุ่ม Home บน iPhone ซึ่งสามารถกด 1 ครั้งเพื่อกลับไปยังหน้าหลักได้ หรือกดค้างไว้เพื่อใช้งาน Siri ในขณะที่ตัวปุ่มถูกออกแบบมาให้สามารถหมุนขึ้น-ลง เพื่อเลื่อน (Scroll) ดูรายการเมนูต่างๆ ได้ รวมไปถึงการซูมเข้า-ออกด้วยเช่นกัน
ปุ่ม Side Button
เป็นปุ่มที่สำหรับใช้เปิดหน้าจอของนาฬิกา เมื่อกด 1 ครั้งขณะใช้งานจะเป็นการเรียกดูแอพที่เข้าใช้ล่าสุด กด 2 ครั้งติดกันจะเข้าสู่โหมด Apple Pay หรือถ้ากดค้างไว้การโทรฉุกเฉิน และปิดเครื่อง
การแจ้งเตือน
Apple Watch Series 3 สามารถดูการแจ้งเตือนต่างๆ ได้โดยการปัดหน้าจอลงมา จะแสดงผลการแจ้งเตือนต่างๆ เมื่อมีการแจ้งเตือนมาในตัว iPhone ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดดูการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ เช่น อีเมล์, ไลน์, ข้อความ, สายที่ไม่ได้รับ ฯลฯ ได้ทันทีจากข้อมือ อีกทั้งสามารถตอบกลับได้ทันทีโดยการพูดผ่านไมค์ด้านข้างตัวเครื่อง
การสั่งการแอพฯ บน iPhone (Remote)
เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจของ Apple Watch ที่สามารถสั่งการแอพฯ ต่างๆ โดยที่ไม่ต้องหยิบตัวเครื่อง iPhone ขึ้นมาโดยสามารถใช้งานผ่านตัวนาฬิกาได้เลย มีดังนี้
รับสาย-โทรออก
Apple Watch Series 3 สามารถรับสายเรียกเข้าบน iPhone ได้ทันที พร้อมทั้งยังสามารถสนทนาผ่านไมค์สนทนาบนตัวเรือนนาฬิกาได้ ทั้งนี้ยังสามารถโทรออกจากตัวนาฬิกาได้อีกด้วย
กล้องถ่ายรูป
สามารถใช้งานเป็น Remote ในการกดชัตเตอร์ถ่ายภาพได้ โดยที่ภาพจาก iPhone จะปรากฏอยู่ที่น่าจอเหมือนกัน ในขณะเข้ากล้องถ่ายรูป
รูปภาพ
สามารถเรียกดูรูปภาพที่มีอยู่บน iPhone ได้ และสามารถซูมเข้า-ออกได้โดยการหมุนที่ปุ่ม Digital Crown
Music
Apple Watch Series 3 สามารถเข้าโหมดการเล่นเพลงได้ทันทีหลังจากที่ตัวเครื่อง iPhone เข้าสู่โหมดการเล่นเพลง สามารถปรับเลือกเล่นเพลงก่อน-หลังได้ รวมไปถึงการปรับระดับเสียงโดยการหมุนขึ้นลงที่ Digital Crown (เม็ดมะยม) ทั้งยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Air Pods เพื่อฟังเพลงผ่าน Apple Music ได้อีกด้วย
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในการฟังเพลงของ Apple Watch Series 3 ที่สามารถค้นหาเพลงที่สนใจ หรือที่ชอบได้อย่างง่ายๆ บนข้อมือด้วยแอพพลิเคชั่น Shazam ไม่ว่าเพลงไทยหรือต่างชาติก็สามารถค้นหาได้หมดเลย
Apple Watch Series 3 มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำที่สามารถทนน้ำลึกได้ถึง 50 เมตร ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำในสระ หรือน้ำทะเล จะช่วยเพิ่มความสะดวกและวัดผลในการทำกิจกรรมทางน้ำได้เป็นอย่างดี โดยที่การใช้ลงน้ำจะต้องเปิดโหมดกันน้ำ หลังจากใช้งานเสร็จจำเป็นต้องไล่น้ำออกจากเครื่องด้วยเสียงที่จะช่วยในการไล่น้ำให้ออกจากลำโพง โดยแรงสั่นของเสียง
แอพฯ อัตราการเต้นของหัวใจให้ค่าวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ละเอียดขึ้น
WatchOS 4 มีแอพฯ อัตราการเต้นของหัวใจที่ได้รับการอัพเดทใหม่ ซึ่งให้ข้อมูลที่ละเอียดขึ้น เกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจ ได้แก่ การวัดระหว่างการพัก การออกกำลังกาย การฟื้นตัว การเดิน และขณะใช้แอพหายใจ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกที่จะรับการแจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจสูงกว่าเกณฑ์ที่ระบุในขณะที่ไม่ได้ใช้งานได้เช่นกัน
พร้อมกันนี้ Apple Watch Series 3 จะคอยติดตามการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบของผู้ใช้ ไม่ว่าจะขี่จักรยาน เดิน วิ่ง หรือนั่งอยู่เฉยๆ จะทำให้ตัวผู้ใช้รู้สึกมีแรงกระตุ้นตลอดเวลาด้วยวงแหวนกิจกรรม ที่จะมาสร้างแรงบรรดาลใจ ให้ผู้ใช้เคลื่อนไหวมากขึ้นเพื่อปิดวงแหวนให้ได้ จะทำหน้าที่คอยเตือนว่า นั่งนานเกินไปรึเปล่า ก้าวไปกี่ก้าว และเผาผลาญแคลอรี่ไปเท่าไหร่ ทั้งยังช่วยกำหนดเป้าหมายให้ผู้ใช้ในการออกกำลังกายให้ได้วันละ 30 นาที โดยไม่ต้องทำภายในครั้งเดียวก็ได้ และยังสามารถแชร์วงแหวนกิจกรรมให้กับเพื่อนๆ และเปรียบเทียบกันได้อีกด้วย
แอพฯ แนะนำสำหรับคนรักสุขภาพ ที่จะช่วยให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ และง่ายขึ้น ทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับ Apple Watch Series 3 ได้อีกด้วย
Zones for Training
ติดตามการออกกำลังกาย นำเสนอในรูปแบบที่น่าสนใจ เพื่อให้คุณเข้าใจและปรับปรุงการออกกำลังกายของคุณ และปรับปรุงการออกกำลังกายของคุณ โดยจะมีโหมดการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบให้เลือก เช่น การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน อีกทั้งยังสามารถเลือกโหมดการออกกำลังกายหนักๆ อย่าง ฟิตเนส แบดมินตัน บาสเกตบอล ต่อยมวย เป็นต้น และอีกหนึ่งโหมดที่น่าสนใจคือโหมด วีลแชร์ สำหรับคนพิการที่จะช่วยให้คนพิการสามารถออกกำลังกายได้เช่นกัน
7 Minute Workout: Seven
แข็งแรง สุขภาพดี ด้วยการออกกำลังกายเพียง 7 นาทีต่อวัน โดยที่แอพฯ นี้จะกำหนดท่าทางในการออกกำลังกายมาให้ผู้ใช้งานปฏิบัติตาม ซึ่งจะมีวีดีโอประกอบที่สามารถดูบนหน้าปัด Apple Watch ได้เลย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะออกกำลังกายได้อย่างง่ายๆ ในเวลาที่ต้องการ
Apple Watch Series 3 มาพร้อมสายรัดข้อมือหลากหลายสไตล์ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สามารถเลือกสายที่โดนใจในสไตล์ของคุณเอง ทั้งสายแบบผ้า หรือซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่นสูง และเอาใจคนชอบออกกำลังกายด้วยสายสปอร์ตแบบ Nike
Apple Watch Series 3 (GPS) มีวางจำหน่าย 2 ขนาด ได้แก่ ตัวเรือน 38 มม. มีราคาเริ่มต้นที่ 11,900 บาท และตัวเรือน 42 มม. มีราคาเริ่มต้นที่ 12,900 บาท สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.apple.com/th/apple-watch-series-3/
วันที่ : 9 พฤศจิกายน 2560
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging4 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย8 ชั่วโมงที่แล้ว
Sonos จัดเต็มส่งท้ายปีกับโปรโมชั่น 12.12 ให้คุณช้อปฟินด้วยส่วนลดสูงสุดกว่า 30%11 ธ.ค. 67 07:00
Infinix ปล่อยเซอร์ไพรส์ HOT 50 Pro+ Series สีสันพิเศษ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข10 ธ.ค. 67 21:41
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ10 ธ.ค. 67 19:29
Sonos จัดเต็มส่งท้ายปีกับโปรโมชั่น 12.12 ให้คุณช้อปฟินด้วยส่วนลดสูงสุดกว่า 30%
Blackview Active 10 Pro มาแล้ว! แท็บเล็ต 5G แบตฯ อึด กล้องเทพ ลดแรงแค่ 7 วันเท่านั้น!
DJI Mic Mini ไมโครโฟนไร้สายขนาดเล็กรุ่นใหม่ในตระกูล OsmoAudio
Redmi Watch 5 สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกรันบน HyperOS 2 หน้าจอสี่เหลี่ยม AMOLED กว้าง 2.07 นิ้ว
OPPO ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่แบบจัดเต็ม ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยพร้อมโปรโมชั่น
Xiaomi Store สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน จัดกิจกรรมและโปรโมชันพิเศษฉลองเปิดสาขา
Blackview Active 10 Pro มาแล้ว! แท็บเล็ต 5G แบตฯ อึด กล้องเทพ ลดแรงแค่ 7 วันเท่านั้น!
Samsung Galaxy S25 Series สรุปข่าวลือล่าสุดก่อนเปิดตัวต้นปี 2025
iQOO Neo 10 Series สเปคเทพ กล้องสวย ดีไซน์โดนใจ เปิดตัว 29 พฤศจิกายนนี้
OPPO Reno 13 Series ชิปเซ็ต Dimensity 8350 กันน้ำกันฝุ่น IP69 และชาร์จเร็ว 80W!