www.siamphone.com
เทคโนโลยี (Technology) | วันที่ : 29 พฤศจิกายน 2560
ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาจนถึงในปัจจุบัน เทคโนโลยีได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วและไกลมากขึ้นในทุกๆ ปี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของใช้ส่วนตัวอย่างโทรศัพท์มือถือ, นาฬิกา และรถยนต์ หรือจะเป็นของใช้ภายในบ้านที่เริ่มจะกลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะไปเสียทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีที่ก้าวไปอย่างรวดเร็วก็ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่หลายๆ แห่งตั้งใจจะนำมาใช้ทำงานแทนมนุษย์บางอาชีพเพื่อประหยัดรายได้ในส่วนของเงินเดือนไป แล้วคำว่า "บางอาชีพ" ที่เราพูดถึง จะมีอาชีพอะไรที่เสี่ยงต่อการตกงานจากเทคโนโลยีกันบ้าง?
พนักงานเก็บเงิน (แคชเชียร์) หรือคนเก็บค่าทางด่วน (Toll booth operator)
อาชีพแคชเชียร์หรือคนเก็บค่าทางด่วนถือว่ามีส่วนสำคัญกับใครหลายๆ คนเพื่อมาเก็บเงินในช่วงปิดเทอมหรือมีเวลาว่าง ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอาชีพที่เสี่ยงต่อการตกงานมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากเทคโนโลยีสามารถรับมือกับการคิดหรือเก็บเงินได้อย่างแน่นอน โดยยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือระบบ Easy Pass ที่เป็นบัตรที่ใช้ในระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติเพื่อแก้ปัญหารถติดยบริเวณหน้าด่าน และยังช่วยให้เกิดความสะดวกสบายต่อผู้ใช้งานได้อีกด้วยทั้งนี้ Robert Hetu นักวิเคราะห์จากบริษัท Gartner ในสหรัฐอเมริกาได้ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า "ร้านขายของทั่วไปกำลังจะเจอปัญหาใหญ่จากเทคโนโลยีในอนาคต เพราะฉะนั้นพวกเขาต้องจัดการกระบวนการต่างๆ ด้วยตัวเองเพื่อทำให้ผู้ค้าปลีกอยู่รอดในช่วงทศวรรษนี้"
คนขับรถ
บริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกบางแห่งได้ใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในการสร้างหุ่นยนต์หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อมาแทนที่แรงงานที่เป็นมนุษย์ โดยสิ่งที่เริ่มจะมีให้เห็นกันมากขึ้นก็คือ รถยนต์ไร้คนขับ (Self-driving Cars) ที่บริษัทรถยนต์และบริษัทเทคโนโลยีหลายๆ แห่ง เช่น General Motors (GM), Uber และ Qualcomm ต้องการให้ตัวเองเป็นที่หนึ่งในด้านนี้
ทางด้าน Vivek Wadhwa ผู้ประกอบการจากอเมริกาและผู้เขียนหนังสือ "The Driver in the Driverless Car" ได้กล่าวว่า จะมีคนขับรถตกงานมากถึง 5 ล้านคนภายในปีค.ศ. 2020-2029อย่างไรก็ตาม ในอาชีพนี้ มันมีอะไรที่มากกว่าการขับรถ เพราะ AI ไม่สามารถยกสินค้าหนักๆ หรือใช้ความคิดตัดสินใจได้เหมือนมนุษย์ ไปจนถึงที่ว่าหุ่นยนต์ไม่สามารถที่จะห่ออาหารแล้วไปส่งอาหารที่หน้าบ้านของลูกค้าได้
งานด้านบริการในร้านอาหาร
กระทรวงแรงงานของสหรัฐอเมริกา (BLS) ได้ประมาณการถึงอาชีพในร้านอาหารจานด่วน (Fast food) ว่าจะลดลงถึง 80,000 ตำแหน่งภายในปี 2024 โดยการเพิ่มรายได้ของผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ คือ การลดจำนวนคนลงเพื่อให้เครื่องจักรกลได้ทำงานแทนโดยไม่ต้องจ่ายเงินใดๆ เพิ่มเติม
Edward Rensi อดีตผู้บริหารระดับสูงสุดของ McDonald (แมคโดนัลด์) ได้เผยผ่านรายการ Fox Business Network ของอเมริกาในปี 2016 ว่า "ค่าใช้จ่ายด้วยจำนวนเงิน 35,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) เพื่อซื้อหุ่นยนต์บริการภายในร้านนั้น คุ้มค่ากว่าการจ้างพนักงานหนึ่งคนด้วยค่าจ้าง 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงเสียอีก ทั้งนี้ จากสถิติของเรา ยังได้ลดการจ้างงานคนลงมากกว่าครึ่งเนื่องจากระบบอัตโนมัติต่างๆ นับตั้งแต่การเปิดธุรกิจในช่วงปีค.ศ. 1955"
นอกเหนือจากอาชีพที่เรายกตัวอย่างมาแล้วนั้น ก็ยังมีอาชีพอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำที่เทคโนโลยีจะเข้ามาแย่งตำแหน่ง ได้แก่
และเราก็ขอย้ำทิ้งท้ายไว้ว่า อาชีพที่เรายกตัวอย่างขึ้นมานั้นเป็นเพียงการคาดคะเนเท่านั้น สุดท้ายนี้ เราเชื่อว่ามนุษย์ก็ยังคงสามารถทำงานร่วมกับหุ่นยนต์หรือเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเข้ามาในอนาคตได้อย่างแน่นอน
ที่มา : money.cnn.com วันที่ : 29 พฤศจิกายน 2560
Infinix NOTE 40 Series ชิปแรง ชาร์จไว พร้อมที่ชาร์จไร้สาย MagCase9 ชั่วโมงที่แล้ว
Google Pixel 8a หลุดสเปคและฟีเจอร์เด็ด เตรียมเปิดตัวพร้อม Android 15 14 ชั่วโมงที่แล้ว
True ออกโปรเสริมพิเศษแบบเติมเงิน สำหรับผู้พิการหรือผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ16 ชั่วโมงที่แล้ว
Huawei MateBook X Pro 2024 ดีไซน์บางเฉียบ ขุมพลัง Intel Core Ultra พร้อมโมเดล AI20 ชั่วโมงที่แล้ว
Infinix GT 20 Pro หน้าจอ 6.78 นิ้ว FHD+ กล้องหลัง 108MP แบตเตอรี่ 5000mAh24 ชั่วโมงที่แล้ว
Google Pixel 8a หลุดสเปคและฟีเจอร์เด็ด เตรียมเปิดตัวพร้อม Android 15
Huawei MateBook X Pro 2024 ดีไซน์บางเฉียบ ขุมพลัง Intel Core Ultra พร้อมโมเดล AI
BYD Blade Battery พลิกวงการรถยนต์ไฟฟ้าด้วยราคาประหยัด ระยะทางวิ่งไกลถึง 1,000 กม.
Insta360 X4 กล้อง Action 360 องศารุ่นเรือธง ยกระดับความคมชัดสู่ยุค 8K พร้อมฟีเจอร์ครบครัน
Sony เปิดตัวซีรีส์ ULT POWER SOUND เสียงเบสกระหึ่ม เต็มอารมณ์
MG4 Electric 2024 ดีไซน์สปอร์ต สมรรถนะเร้าใจ เริ่มต้น 7 แสนบาท