www.siamphone.com
หลังจากที่ Google เปิดตัวระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดอย่าง Android 8.0 Oreo มาตั้งแต่กลางปี 2017 สมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ นอกเหนือจากตระกูล Google Pixel และ Nexus ดูเหมือนจะได้รับการอัพเดตอย่างช้าๆ และค่อยเป็นค่อยไป จนในตอนนี้ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ ซึ่งภายในระบบก็มีการเปลี่ยนแปลงทั้งฟีเจอร์และจุดเด่นไปพอสมควร ดังนั้น ลองมาดูกันว่ามีอะไรใหม่ๆ มาให้เราเล่นบ้าง
ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo
เร็วขึ้น 2 เท่า
ใน Android 8.0 เราจะได้รับความเร็วในการใช้งานเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า ตั้งแต่การบูทเปิดเครื่องใหม่ๆ จนถึงการใช้งานภายในเครื่อง (ความเร็วอาจขึ้นอยู่กับ UI ของแต่ละแบรนด์)
จำกัดการทำงานของแอพฯ เบื้องหลัง
Android 8.0 จะช่วยลดการทำงานของแอพพลิเคชั่นที่อยู่เบื้องหลังให้น้อยลง เพื่อช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่และความเร็วภายในเครื่อง
Autofill
โหมด Autofill หรือการเพิ่มข้อความโดยอัตโนมัติ ระบบจะจดจำชื่อผู้ใช้งานและรหัสขณะล็อกอินเพื่อเข้าแอพพลิเคชั่นต่างๆ (ถ้าเปิดการอนุญาตเอาไว้) ซึ่งถือว่ามีประโยชน์สำหรับผู้ที่ใช้งานหลายแอพฯ หลายรหัสผ่าน อย่างไรก็ตาม โหมด Autofill จะทำงานต่อเมื่อมีรหัสยืนยันตัวจนจากเจ้าของเครื่อง อย่าง PIN หรือการสแกนลายนิ้วมือ เป็นต้น
การเลือกข้อความอัจฉริยะ
Android 8.0 Oreo มีความฉลาดเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อเราเลือกข้อความต่างๆ ที่แสดงผลอยู่บนหน้าจอ ระบบจะวิเคราะห์และแนะนำแอพฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อความนั้นได้ทันที
Picture-in-Picture (PiP)
อีกฟีเจอร์หนึ่งที่เป็นจุดเด่นของระบบปฏิบัติการรุ่นนี้ คือ โหมด Picture-in-Picture หรือการย่อหน้าต่างวิดีโอลงและยังคงทำงานต่อไป เพื่อให้เราใช้งานแอพฯ อื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งแอพฯ ที่รองรับในตอนนี้จะมีเพียงไม่กี่อย่าง ได้แก่ Google Maps, Google Play Movies, Google Duo, Google Chrome, Netflix, VLC, Whatsapp และ YouTube Red (Youtube หลักยังใช้ไม่ได้)
ทั้งนี้ แอพฯ อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ก็คงต้องทางผู้พัฒนาอัพเดตเพื่อรองรับฟีเจอร์นี้เพิ่มเติม
Notification Dots
เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ไปอีกขั้นสำหรับการแจ้งเตือนแบบใหม่นี้ ซึ่งแต่ละแอพจะมีการแจ้งเตือนเป็นจุด (Dots) และเมื่อเรากดค้างที่แอพฯ ก็จะขึ้นแจ้งเตือนในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น โดยที่เราไม่ต้องกดเข้าไปดูในแอพฯ รวมไปถึงการปัดซ้าย/ขวาเพื่อเคลียร์การแจ้งเตือนออกไปอย่างงายดาย
Android Instant Apps
เมื่อเราใช้งานผ่านเบราว์เซอร์และต้องคลิ๊กเพื่อเปิดแอพต่างๆ (ที่รองรับ) ฟีเจอร์นี้ก็จะช่วยให้เราเปิดแอพได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้ง
Google Play Protect
ระบบ Google Play Protect จะช่วยให้เราปลอดภัยจากแอพพลิเคชั่นทำงานผิดปกติ ด้วยการสแกนมากกว่า 5 หมื่นล้านแอพฯ ต่อวัน แม้ว่าเรายังไม่ได้ทำการติดตั้งก็ตาม
เลื่อนการเตือนแอพพลิเคชั่น
หากเรายังไม่ต้องการรับการแจ้งเตือนจากแอพในช่วงระยะเวลาหนึ่งก็สามารถทำการเลื่อนแจ้งเตือนชั่วคราว (Snoozing) ได้ทันที โดยวิธีการใช้งาน ก็เพียงแค่เราเลื่อนแอพที่แจ้งเตือนจากหน้าต่างแจ้งเตือนไปทางขวาเล็กน้อย จากนั้นให้เรากดที่รูปกระดิ่ง และเลือกเวลาที่จะปิดการแจ้งเตือนชั่วคราว
ฟีเจอร์อื่นๆ
[Update] ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo
สำหรับ Android 8.1 Oreo ได้เพิ่มความพิเศษตรงที่รองรับระบบปฎิบัติการ Android Oreo (Go edition) สำหรับสมาร์ทโฟนในระดับ Low-End ถึง Medium-End ซึ่งจะประกอบด้วย
การเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยความจำ : พัฒนาการใช้งานของหน่วยความจำ (RAM) เพื่อให้แอพพลิเคชั่นทำงานได้อย่างลื่นไหลกับสมาร์ทโฟนที่มี RAM ต่ำกว่า 1GB
Google Play
ขณะที่แอพพลิเคชั่นทำงานบน Android Oreo (Go edition) ทาง Google Play จะปรับการใช้งานของแอพฯ ต่างๆ เพื่อให้สมาร์ทโฟนทุกรุ่นใช้งานได้อย่างลื่นไหล
การแจ้งเตือน
สำหรับสมาร์ทโฟนที่ทำการปิด-เปิดเครื่องมาใหม่ แล้วจะได้ยินเสียงแจ้งเตือนรบกวนเรื่อยๆ เมื่อมีข้อความเข้ามามาก แต่ในการอัปเดตนี้ จะช่วยให้มีเสียงเตือนเพียง 1 วินาที ต่อ 1 แอพฯ เท่านั้น
เข้าเว็บไซต์อย่างปลอดภัย
ในระบบปฏิบัติการรุ่นนี้ ทาง Google จะตรวจสอบและป้องกันเว็บไซต์ที่มีเข้าข่ายเสี่ยงต่อการกระจายไวรัสมากกว่าระบบเก่า อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีตัวเลือกให้เรากดโหลดหน้าเว็บนั้นอยู่ถ้าเรามั่นใจจริงๆ ว่าจะไม่ส่งผลอะไรต่อสมาร์ทโฟน
เปลี่ยน Font
Google ได้พัฒนาให้มีการปรับเปลี่ยน Font ให้มีหลากหลายขนาด และดูได้สบายตามากกว่าเดิม
บอกแบตเตอรี่กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อบลูทูธ
Google ได้เพิ่มความสะดวกขึ้นไปอีกขั้นด้วยการบอกปริมาณแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth กับสมาร์ทโฟนของเรา
มีหน้าตา UI เปลี่ยนไป
ปกติหน้าตาของ Android 8.0 จะสว่างและดูเรียบๆ แต่ในเวอร์ชั่น 8.1 ทาง Google ได้ปรับเปลี่ยนธีมเล็กน้อยด้วยการเพิ่มหน้าตาในธีมมืดเข้าไปในหน้าหลัก, วิดเจ็ต หรือวอลเปเปอร์ เพื่อช่วยให้ไอคอนของแอพพลิเคชั่นดูโดดเด่นขึ้นมาในทันที
ฟีเจอร์อื่นๆ
ทั้งหมดนี้คือฟีเจอร์และจุดเด่นของระบบปฏิบัติการ Android 8.0 และ 8.1 (Oreo) ซึ่งหากมีเวอร์ชั่นต่อๆ ไปในอนาคต ทางเราจะรีบนำมาอัปเดตทันที
ที่มา : www.android.com วันที่ : 26 มีนาคม 2561
10 สมาร์ตโฟนที่เปิดตัวล่าสุด รองรับ eSIM อัพเดตเดือนกรกฎาคม 20254 ชั่วโมงที่แล้ว
5 สมาร์ตโฟนกล้องเทพในงบไม่เกิน 15,000 บาท ประจำเดือนกรกฎาคม 20259 ชั่วโมงที่แล้ว
HUAWEI WATCH FIT 4 สีเทาใหม่! สาย 3D Woven Nylon ดีไซน์สไตล์แอคทีฟ ฟีเจอร์ครบครัน12 ชั่วโมงที่แล้ว
Besturn Pony EV รถไฟฟ้าสุดน่ารัก ราคาเริ่มต้นเพียง 165,000 บาท16 ชั่วโมงที่แล้ว
HONOR Earbuds A Pro หูฟังไร้สาย TWS ตัวเคสสวยน่ากินดีไซน์แบบขนมมาการอง20 ชั่วโมงที่แล้ว
vivo Y19s GT 5G สมาร์ตโฟน 5G กล้องหลังคู่ 50MP หน้าจอกว้าง 6.74 นิ้ว รีเฟรช 90Hz
vivo Y50 5G สมาร์ตโฟน 5G ระดับเริ่มต้น ชิปเซ็ต Dimensity 6300 ได้มาตรฐาน IP64
vivo Y400 สมาร์ตโฟน 4G หน้าจอ AMOLED รีเฟรช 120Hz พร้อมกล้องหลังคู่ 50+2MP
realme Narzo 80 Lite 4G สมาร์ตโฟนจอกว้าง 6.74 นิ้ว รีเฟรช 90Hz แบตเตอรี่ทนนาน 6300mAh
10 สมาร์ตโฟนราคาไม่เกิน 10,000 บาทที่คุ้มที่สุด อัพเดทเดือนกรกฎาคม 2025
Redmi Pad 2 4G แท็บเล็ตเพื่อความบันเทิง จอความละเอียดสูง พร้อมแบตที่ใช้งานได้ยาวนาน
สุดยอดสมาร์ตโฟนถ่ายวิดีโอดีที่สุดสำหรับสาย YouTuber ประจำเดือนกรกฎาคม 2025
Infinix HOT 60 Pro และ Infinix HOT 60 Pro+ ชิปเซ็ต Helio G200 หน้าจอ AMOLED รีเเฟรช 144Hz
Sony WH-CH520 อิสระแห่งเสียงเพลงในสีสันที่แตกต่าง เมื่อสไตล์และฟังก์ชันมาบรรจบกันอย่างลงตัว