WatchOS 5.1.2 มาพร้อมฟีเจอร์อ่านค่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และแจ้งเตือนหัวใจเต้นผิดปกติ

Apple ปล่อยอัพเดต watchOS 5.1.2 สำหรับนาฬิกา Apple Watch ซึ่งอัพเดตเวอร์ชั่นนี้จะทำให้

• ผู้ใช้ Apple Watch Series 4 สามารถอ่านค่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) โดยยังจำกัดให้ใช้งานได้เฉพาะในอเมริกาเท่านั้น
• แจ้งเตือนจังหวะการเต้นหัวใจที่ผิดปกติ
• แก้ปัญหาการแจ้งเตือนผิดพลาด

ตอนที่ Apple เปิดตัวนาฬิกา Apple Watch Series 4 เดือนกันยายนที่ผ่านมา ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญนอกจากหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นอาจเป็นเรื่องของความสามารถในการอ่านค่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) โดยปุ่มหมุนเม็ดมะยมข้างหน้าปัดจะทำหน้าที่เป็นขั้วไฟฟ้า

หากต้องการใช้ฟีเจอร์ EKG ผู้ใช้งานเพียงเปิดแอพ EKG บนนาฬิกาและวางนิ้วชี้ลงบนปุ่มหมุนเม็ดมะยมเป็นเวลา 30 วินาที นาฬิกาจะทำหน้าที่เหมือนเครื่องอ่านคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบสแตนอโลนเพื่ออ่านจังหวะการเต้นหัวใจและบันทึกลงในแอพ Health บนสมาร์ทโฟน จากตรงนี้ผู้ใช้งานสามารถส่งไฟล์ PDF ที่บันทึกค่าที่วัดได้ให้กับแพทย์ประจำตัวได้

Apple Watch กำลังก้าวข้ามจากอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายขึ้นไปสู่การเป็นอุปกรณ์ติดตามสุขภาพ

การวัดอัตราการเต้นหัวใจบน Apple Watch จะไม่ทำงานตลอดเวลาโดย Apple บอกว่ามันเช็คจังหวะการเต้นหัวใจทุกสองชั่วโมงหรือบ่อยกว่านั้น (ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้อยู่เฉยๆ กับที่หรือเคลื่อนไหว) หากพบค่าที่ผิดปกติต่อเนื่อง 5 ครั้งซึ่งดูเหมือนเป็นสัญญาณที่ไม่ปกติ ระบบจะแจ้งเตือนและแนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ ในกรณีที่คุณเป็นผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ขั้นตอนการติดตั้ง Apple Watch จะแนะนำว่าคุณไม่ควรเปิดใช้ฟีเจอร์นี้

Apple พยายามสื่อสารออกไปว่า Apple Watch ไม่ใช่หรือไม่ใกล้เคียงเครื่องมือวินิจฉัยทางการแพทย์ ในความเป็นจริง Apple คาดหวังว่าฟีเจอร์ EKG ควรถูกนำมาใช้ในกรณีที่รู้สึกว่ามีอาการผิดปกติและผู้ใช้ควรจะรายงานผลกับแพทย์ประจำตัวโดยตรง (ไม่ใช่ด่วนสรุปผลด้วยตัวเอง)

Apple เพิ่งได้รับการอนุมัติจากองค์กรอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ให้อยู่ในประเภท “de novo” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความเสี่ยงต่ำ ผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้เองโดยตรง โดยสำหรับ Apple Watch Series 4 ถูกจัดอยู่ในลำดับชั้น “Class II” ซึ่งทั้ง “Class II” และ “Class I” นั้น FDA เพียงสรุปว่า “ปลอดภัย” แต่ไม่ได้ “เห็นชอบ” ให้ใช้งานเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์

คนส่วนใหญ่มองว่า Apple Watch เป็นอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกาย แต่อีกไม่ช้ามันกำลังจะกลายเป็นอุปกรณ์เพื่อสุขภาพ (โดยเฉพาะรุ่น Apple Watch Series 4)

นอกเหนือจากฟีเจอร์ EKG แล้วยังสามารถตรวจจับได้ว่าผู้สวมใส่กำลังล้มลงไปกองกับพื้น (Fall Detection) หรือไม่

ในโลกแกตเจ็ตที่มีของใหม่ให้ใช้งานมากมาย การทำความเข้าใจว่าอุปกรณ์ติดตามสุขภาพสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้นั้นเป็นเรื่องจำเป็น แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะช่วยให้คุณสรุปหรือวินิจฉัยอาการผิดปกติเหล่านั้นด้วยตัวเอง เพียงแต่เป็นข้อมูลสนับสนุนหรือเป็นหลักฐานที่คุณสามารถใช้คุยกับแพทย์ได้

ย้ำอีกทีว่าฟีเจอร์ EKG แม้จะมาพร้อมอัพเดท WatchOS 5.1.2 แต่ยังคงถูกจำกัดการใช้งานไว้เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น