www.siamphone.com

ข่าว

Samsung Galaxy Fit และ Galaxy Fit-e สมาร์ทแบรนด์สาย Healthy สำหรับคนรักสุขภาพ

หูฟัง Earbuds (Earbuds)   |   วันที่ : 19 กรกฎาคม 2562

นับว่าเป็นครั้งแรกที่ Samsung ได้เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ 2 รุ่นใหม่อย่าง Galaxy Fit และ Galaxy Fit-e สมาร์ทแบรนด์สำหรับคนรักสุขภาพ ที่สามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ นับก้าว คำนวณแคลอรี่ในการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงการนอนหลับของเราด้วย ดีไซน์มีความทันสมัย น้ำหนักเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน และราคาอยู่ในระดับที่จับต้องได้

เริ่มกันที่ Galaxy Fit มากับจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 0.95 นิ้ว สีสันที่ได้จึงชัดเจนและสวยงาม ตัวเรือนดีไซน์เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความโค้งมน ขนาดประมาณ 18.3 x 45.1 x 11.2 มม. น้ำหนักเบาเพียง 23 กรัม ทำให้ไม่รู้สึกหนักแม้ในเวลาที่สวมใส่

สายรัดมีลักษณะคล้ายยางผิวเรียบลื่น ออกแบบที่เกี่ยวเป็นปุ่มกระดุม เพื่อหลีกเลี่ยงสำหรับผู้แพ้นิกเกล สายส่วนเกินถูกเก็บซ่อนไว้ภายในข้อมือ เวลาส่วมใส่สายจะได้ไม่ไปเกาะเกี่ยวที่อื่น สามารถถอดออกจากตัวเครื่องเพื่อเปลี่ยนสายได้ตามความชอบ

ด้านซ้ายมีปุ่มกด เพื่อเปิด-ปิดเครื่อง เรียกดูหน้าจอ Widjet หรือใช้เป็นปุ่มด่วน ในการจับเวลาของการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็น เดิน, วิ่ง, ว่ายน้ำ ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ในแอพพลิเคชั่น

ด้านหลังมีเซนเซอร์ตรวจจับที่แม่นยำ รวมไปถึงวาล์วน้ำที่เป็นรูเล็กๆ ไว้ระบายความชื้นอยู่ด้วย

Galaxy Fit มีความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 120mAh ใช้งานได้ยาวนาน 1 สัปดาห์ มีระบบ NFC Wireless Chargning ซึ่งเชื่อมต่อกับอุปกรณ์การชาร์จที่มีให้มาในกล่อง กันน้ำได้ในระดับ 5ATM คือ ลงน้ำลึกได้ไม่เกิน 50 เมตร

สำหรับ Galaxy Fit-e รุ่นเล็กลงมาหน่อย ก็มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่ด้อยไปกว่า Galaxy Fit โดยสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, นับก้าวที่เดิน, นับแคลลอรี่ รวมไปถึงดูการนอนหลับได้เช่นเดียวกัน

Galaxy Fit-e มีหน้าจอแบบ PMOLED ระบบสัมผัสขนาด 0.74 นิ้ว แสดงผลเป็นสีเดียว ตัวเรือนมีขนาด 15.8 x 40.1 x 11 มม. สามารถสั่งงานทัชสกรีนได้ด้วยการเคาะที่หน้าจอ อาจต้องลงน้ำหนักหน่อย แต่ก็ถือว่ารับสัมผัสได้ไวพอสมควร มีน้ำหนักเบาเพียง 15 กรัม ส่วมใสได้สบายไม่หนักข้อมือ

สายของ Galaxy Fit-e เป็นยางที่มีเนื้อสัมผัสเรียบลื่น ใช้วัสดุเกรดดี ที่เกี่ยวดีไซน์เป็นปุ่มกระดุม และมีการเก็บสายส่วนเกินไว้ด้านในข้อมือเหมือนกับ Galaxy Fit และสามารถเปลี่ยนสายได้เช่นเดียวกัน

ตัวเรือนไม่มีปุ่มใดๆ ปรากฏอยู่ ด้านหลังมีเซนเซอร์ Accelerometer ตรวจจับความเคลื่อนไหว และเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ถัดลงมาด้านล่างเป็นส่วนเชื่อมต่อในการชาร์จ

คนออกกำลังกายมักมีเหงื่ออยู่แล้ว Galaxy Fit-e จึงออกแบบให้สามารถกันน้ำได้ในระดับ 5ATM คือ กันน้ำที่ระดับความลึก 50 เมตร จึงใส่ว่ายน้ำหรืออาบน้ำได้สบายๆ เลย

Galaxy Fit-e มีความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 70mAh สำหรับการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง สามารถใช้งานปกติได้ประมาณ 1 สัปดาห์

การเชื่อมต่อ

สำหรับการใช้งาน Galaxy Fit และ Galaxy Fit-e จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Samsung Wearable จาก Google Play Store หรือ Apple Store มาก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ และให้เปิดการใช้งาน Bluetooth บนสมาร์ทโฟนเพื่อเริ่มการเชื่อมต่อ

       

เมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อยและเปิดเข้ามาในแอพพลิเคชั่น Samsung Wearable จะเห็นว่ามีเมนูต่างๆ ให้เลือกใช้ สามารถตั้งค่าและปรับแต่งการใช้งานได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคลได้

หน้าหลัก

 
  • แบตเตอรี่
  • การปลุก
   
  • สภาพอากาศ
 
  • การตอบกลับด่วน
   
  • ค้นหาสายรัดส่วนตัว
 
  • การแจ้งเตือน
 
  • การสั่น/จอภาพ
   

 

  • ขั้นสูง

 

  • บัญชีผู้ใช้และแบ็คอัพ

 

  • เกี่ยวกับ Galaxy Wearable

หน้าปัดนาฬิกา

หน้าปัดนาฬิกาของ Samsung Galaxy Fit สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบ ด้วยหน้าจอ AMOLED จึงทำให้เห็นหน้าปัดที่มีสีสันสวยงามชัดเจน

 

ส่วนหน้าปัดของ Samsung Galaxy Fit-e ก็สามารถเปลี่ยนได้เช่นเดียวกัน แต่จะแสดงผลเป็นแบบโมโนโครม และมีให้เลือกน้อยกว่า

วิดเจ็ด

นอกจากการปรับหน้าปัดนาฬิกาแล้ว Samsung Galaxy Fit ยังสามารถปรับแต่ง Widgets ได้อีกด้วย โดยจะมีหน้าต่างๆ ให้เราเลือก ดังนี้ Health summary, การออกกำลังกาย, อัตราการเต้นของหัวใจ, การนอนหลับ, สภาพอากาศ, ความเครียด, ปฏิทิน, คาเฟอิน, พลังงานที่ใช้, จำนวนก้าว, ตัวจับเวลาและตัวตั้งเวลา รวมไปถึงจำนวนน้ำที่เราดื่มในแต่ละวัน ซึ่งเมนูเหล่านี้เราสามารถเพิ่มเข้าหรือลบออก อีกทั้งจัดอันดับก่อนหลังได้ และการแสดงผลเหล่านี้จะอยู่บย Galaxy Fit นั่นเอง 

  

   

ส่วน Samsung Galaxy Fit-e ก็จะบอกเพียงฟังก์ชันหลักสำคัญๆ ที่หยิบมาใช้ เช่น จำนวนก้าว, พลังงานที่ใช้, การนอนหลับ, สภาพอากาศ, ปฏิทิน และอัตราการเต้นของหัวใจ เป็นต้น

 

ฟังก์ชันที่น่าสนใจใน Samsung Galaxy Fit

  • การนับก้าว/อัตราการเต้นของหัวใจ/การเผาผลาญพลังงาน

ฟังก์ชันเหล่านี้จะตรวจจับการเคลื่อนไหวเมื่อคุณสวมใส่อุปกรณ์ โดยเช็คผ่านเซ็นเซอร์ที่มีความแม่นยำ ช่วยให้คุณเห็นว่า ณ เวลาปัจจุบัน คุณได้มีการก้าวเดินไปกี่ก้าวแล้ว อัตราการเต้นของหัวใจปกติดีหรือไม่ และการเผาผลาญแคลอรีเป็นอย่างไร ทำให้คุณสามารถวางแผนได้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้มีการใช้พลังงานที่มากขึ้น ให้เหมาะสมกับตัวคุณ ช่วยให้ง่ายต่อการดูแลสุขภาพ

  • การออกกำลังกาย

ตอนเริ่มต้นนั้นจะมีการตั้งค่ากีฬาพื้นฐานมาให้ คือ การเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ และออกกำลังกายอื่นๆ ซึ่งจะมีการนับระยะเวลา และอัตราการเผาผลาญพลังงานจากการที่เราออกกำลังกายไป อีกทั้งสามารถเลือกประเภทกีฬาที่เราทำเป็นประจำ ด้วยการกดเครื่องหมายดินสอ เพื่อทำการตั้งค่าผ่านแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

 
  • ตรวจจับความเครียด

อันนี้เรียกว่าไม่ค่อยเห็นจากอุปกรณ์สวมใส่ที่ไหน เหมาะกับคนที่ต้องใช้สมองคิดเป็นเวลานานๆ จนเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนาฬิกาก็จะตรวจจับความเครียดของเรา พร้อมมีฟังก์ชันฝึกการหายใจ ให้เราได้ผ่อนคลายความตึงเครียด ลดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดในสมองแตก

  • อัตราการนอน

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางวันเราหลับหลายชั่วโมง แต่ตื่นมารู้สึกไม่สดชื่นเอาเสียเลย นั่นเป็นเพราะว่าประสิทธิภาพของการนอนหลับเราไม่ดีนัก ฟังก์ชันนี้จะช่วยบ่งบอกว่าการนอนของคุณมีคุณภาพมาแค่ไหน ด้วยการแยกว่าคุณมีอัตรการนอนแบบตื่นตัว, กึ่งหลับกึ่งตื่น, หลับ และหลับลึก อย่างไรบ้าง คุรจะได้กำหนดเป้าหมายในการนอนต่อวันให้เพียงพอ และหาวิธีเพื่อให้ตัวคุณเองหลับสบายมากขึ้นนั่นเอง

  • อัตราการดื่ม

Samsung Galaxy Fit จะมีฟังก์ชันที่ให้คุณบันทึกว่าคุณดื่มกาแฟหรือน้ำมากน้อยแค่ไหน เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้คุณดูแลสุขภาพ ไม่ดื่มมากหรือน้อยจนเกินไป อีกทั้งประเมิณว่าในแต่ละวันคุณดื่มน้ำเพียงพอหรือเปล่า

  • การแจ้งเตือน

ในขณะที่คุณออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นอยู่นั้น Galaxy Fit ก็สามารถแจ้งเตือนสายเรียกเข้า, ข้อความ, แชท และอีเมลให้กับคุณได้ อีกทั้งคุณยังสามารถตอบกลับได้ทันที ด้วยข้อความสั้นๆ ที่คุณได้ตั้งค่าไว้ในแอพพลิเคชั่น ทำให้ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร

เรียกได้ว่า Samsung Galaxy Fit เป็นอะไรที่เหมาะกับผู้ชื่นชอบในการออกกำลังกาย และรักสุขภาพในยุคเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีดีไซน์ที่สวยงาม น้ำหนักเบาเหมาะสำหรับการสวมใส่ติดตัวแล้ว ยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน อำนวยความสะดวกให้แม้ในช่วงที่ทำกิจกรรมอยู่ และที่สำคัญเมนูการใช้งานยังรองรับภาษาไทยเป็นส่วนใหญ่อีกด้วย ทั้งง่าย ทั้งครบ ราคาก็คุ้มค่า แบบนี้ต้องจัดกันซักหน่อยแล้ว

สำหรับ Samsung Galaxy Fit วางจำหน่าย 2 สี คือ ดำ และเงิน ในราคา 3,290 บาท และ Galaxy Fit-e มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี คือ ดำ, ขาว และเหลือง ราคาวางจำหน่าย 1,290 บาท สามารถหาซื้อได้แล้วที่ Samsung Brand Shop และร้านค้าที่ร่วมรายการ 

วันที่ : 19 กรกฎาคม 2562

9,363
อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข่าวล่าสุด

ไฮไลท์ข่าว

หมวดข่าว

None AMP version