www.siamphone.com
แก็ดเจ็ต (Gadget) | วันที่ : 1 มกราคม 2563
ในที่สุดก็มาถึงเวลาที่หลายคนรอคอยกันกับรีวิวหูฟังที่เรียกได้ว่าเป็น 1 ในกระแสหลักของปีนี้เลยสำหรับ AirPods Pro หูฟัง True Wireless แบบ In-ear ตัวล่าสุดจากทาง Apple ที่มาพร้อมกับสเปกว้าวๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องที่มาพร้อมกับเคสชาร์จไร้สาย และระบบตัดเสียงขั้นเทพ Noise Cancellation ที่แค่บีบตรงก้านหูฟังก็ตัดเสียงรบกวนทั้งหมดออกไปทันที นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาอีกพอสมควรสำหรับ AirPods Pro เรามาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง
จับเทียบ Airpods Pro กับ Airpods 2เรื่องเล่ามือถือ EP.3 #AirpodsPro #Airpods
รอบตัวเครื่อง
ตัวหูฟัง AirPods Pro จะเป็นหูฟังแบบ In-ear ก้านหูฟังมีความยาว 30.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 5.4 กรัม และตัวเคสชาร์จแบบไร้สายนั้นมีขนาดอยู่ที่ 45.2 x 60.6 x 21.7 มิลลิเมตร และน้ำหนักที่ 45.6 กรัม
เคสชาร์จไร้สายนั้นเป็นวัสดุแบบมันวาว และมีสีขาวมุก ตรงกลางด้านหน้าเคสชาร์จไร้สายจะมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จ
ด้านล่างของเคสชาร์จ เป็นพอร์ตเชื่อมต่อแบบ Lightning
ด้านหลังของเคสชาร์จ เป็นบานพับสีเทาพื้นผิวด้าน ถัดลงมาเป็นสกรีนข้อมูล และปุ่มสำหรับกดเพื่อเชื่อมต่อ Airpods Pro กับอุปกรณ์
เมื่อเปิดฝาออกมาก็จะพบกับช่องสำหรับเก็บตัวหูฟังและชาร์จแบตเตอรี่
ภายในกล่องของ AirPods Pro จะมาพร้อมกับ
วิธีการเชื่อมต่อ AirPods Pro กับสมาร์ทโฟน
จุดเด่นที่น่าสนใจของ Airpods Pro
คุณภาพเสียงระดับโปรตามชื่อ
แน่นอนว่าเมื่อชื่อลงท้ายด้วยคำว่า Pro นั้น AirPods Pro ก็ต้องมากับคุณภาพเสียงระดับโปร โดย Airpods Pro มาพร้อมกับชิป Apple H1, ไดรเวอร์ลำโพงแบบ High-excursion และ EQ แบบปรับได้เอง ที่จะช่วยปรับแต่งเสียงเพลงให้เหมาะสมกับรูปทรงภายในหูโดยอัตโนมัติ ผลลัพธ์ที่ได้คือคุณภาพเสียงที่ดี เบสในระดับดี โดยภาพรวมคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีกว่า AirPods รุ่นที่ 2 เล็กน้อย ถ้าใครที่ชื่นชอบหูฟังแบบ In-ear อยู่แล้ว AirPods Pro น่าจะเป็น 1 ในตัวเลือกของคุณได้อย่างแน่นอน
สั่งการแบบใหม่ ใช้แค่นิ้วบีบ
ปกติการสั่งงานต่างๆ ใน AirPods รุ่นก่อนๆ จะเป็นการใช้นิ้วเคาะไปที่ตัวหูฟัง และแยกการทำงานของทั้งสองข้าง แต่ใน AirPods Pro การสั่งการทำงานต่างๆ จะใช้การบีบบริเวณก้านของหูฟังแทน และไม่แยกการทำงานทั้งสองข้าง สั่งงานข้างไหนก็ได้ โดยการทำงานหลักๆ นั้นมีดังนี้
เมื่อบีบสั่งการในแต่ละครั้ง (เฉพาะการบีบสั้น) ก็จะมีเอฟเฟกต์เสียงแก๊กๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกับเราบีบไปที่ตัวก้านหูฟังจริงๆ แต่สำหรับการบีบค้างนั้น เมื่อสั่งการสำเร็จจะมีเสียงเตือนดังขึ้น และสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้ในแต่ละครั้งและแต่ละข้างนั้นทำงานแบบ ซึ่งจะมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบหลักคือ
โดยส่วนของ Noise Control นี้ เราสามารถตั้งค่าให้เปลี่ยนระหว่างสองโหมด หรือจะเลือกให้สลับกันสามโหมดเลยก็ได้เช่นกัน
Noise Cancellation ตัดเสียงรบกวนในพริบตา
Airpods Pro มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่โดดเด่นคือ Noise Cancellation (NC) หรือการตัดเสียงรบกวนออกไป ทำให้เมื่อนำ Airpods Pro ไปใช้ฟังเพลงในที่ที่มีเสียงรบกวนเยอะได้ดียิ่งขึ้น การเปิดใช้งั้นนั้นเพียงแค่บีบตรงก้านหูฟังค้างไว้ประมาณ 2 วินาทีจนกระทั่งได้ยินเสียงเตือน เสียงรบกวนรอบๆ ก็จะหายไป ได้ยินแต่เสียงเพลงที่มาจากหูฟังเท่านั้น (หากใช้งานครั้งแรกโหมดนี้จะเปิดมาอัตโนมัติ โดยเมื่อใส่หูฟังทั้งสองข้างแล้ว NC จะทำงานทันที) ถือว่าเป็นฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์มาก โดยการตัดเสียงนั้นสามารถตัดเสียงรบกวนออกไปได้ราวๆ 80% เลยทีเดียว จากที่ทดลองใช้งานทั้งการเดินทางโดยรถเมล์ และใช้ภายในห้อง ถ้าเป็นเสียงที่ได้ยินผ่านทางหูนั้นหายไปแทบทั้งหมดเลย แต่ถ้าเป็นเสียงที่มาจากการสั่นสะเทือนที่ร่างกายเรารู้สึกได้นั้น เช่น เสียงรถเมล์สั่นเวลาวิ่ง เสียงรถไฟเวลาวิ่งบนราง แม้จะเปิดโหมดนี้ก็ยังได้ยินอยู่แต่ไม่ดังเท่าที่ได้ยินจากหูปกติ
ไม่ได้ทำแค่ตัดเสียง แต่ดึงเสียงจากภายนอกก็ทำได้
หลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่าถ้าตัดเสียงรบกวนไปอย่างนี้เวลาใช้ AirPods Pro ก็จะไม่ได้ยินเสียงพูดของใครรอบตัวเลยน่ะสิ แล้วเราจะต้องถอดหูฟังออกมาคุยกับคนอื่นเวลาใช้ AirPods Pro หรือเปล่า? ปัญหานี้ถือว่า Apple คิดมาดี จึงใส่โหมดที่เรียกว่า Transparency Mode เข้ามา เพื่อทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับตัดเสียง คือดึงเสียงจากรอบข้างเข้ามาในหูฟัง ทำให้เราได้ยินเสียงในระดับที่แทบจะเทียบเท่ากับการใช้หูฟังแบบ Earbuds เลย แต่โหมดนี้นั้นจะมีข้อสังเกตนิดหน่อยคือ เวลามีอะไรก็ตามมาสัมผัสผ่านบริเวณไมโครโฟนดูดเสียงระหว่างใช้งานโหมดนี้ เราจะได้ยินเสียงเหมือนกระดาษหยาบๆ 2 แผ่นถูกันเข้ามาในหูฟังของเรา ซึ่งอาจสร้างความรำคาญให้เราได้เล็กน้อย
ขนาดที่แนบสนิทกับหูของทุกคน
AirPods Pro มาพร้อมกับจุกหูฟังถึง 3 ขนาด (ขนาดที่ใส่มากับตัวหูฟังคือขนาดกลาง) แต่ละขนาดนั้นก็จะมีขนาดที่พอดีกับช่องภายในหูของหลายๆ คน ทำให้มั่นใจได้ว่า AirPods Pro จะแนบสนิทซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพเสียงดีเต็มที่ และเมื่อใส่แล้วก็จะไม่หลุดง่ายอย่างแน่นอน หรือหากไม่มั่นใจว่า AirPods Pro แน่นช่องหูพอหรือยัง ในการตั้งค่า AirPods Pro ก็จะมีให้ทดสอบ Ear Tip Fit ด้วย ซึ่งก็จะใช้เวลาสักครู่ ถ้าผลออกมาว่า Good Seal นั่นแสดงว่า AirPods Pro แน่นพอดีช่องหูของคุณ
จุดเด่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ก็ถือว่า AirPods Pro นั้นทำออกมาได้น่าใช้งานมากเลยทีเดียว สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ในระบบ iOS ที่ยังไม่มี AirPods ใช้งานและมองหาหูฟังตัวใหม่มาใช้คู่กับอุปกรณ์ของคุณ ก็ขอแนะนำให้คุณลองนำ AirPods Pro ไปเป็นตัวเลือกหนึ่งของคุณด้วย แต่ถ้ามี AirPods รุ่นที่ 2 อยู่แล้ว ทั้งแบบเคสชาร์จปกติและเคสชาร์จไร้สาย แนะนำว่าให้ใช้อันเดิมไปก่อน เนื่องจากคุณภาพเสียงที่ไม่ได้ต่างกันมาก หรือถ้าอยากได้ NC ที่เพิ่มเข้ามา ก็สามารถหาซื้อได้เลย โดย AirPods Pro นั้นวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 9,490 บาท สามารถหาซื้อได้จาก Apple Online Store, Apple Store ไอคอนสยาม และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
วันที่ : 1 มกราคม 2563
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย2 ชั่วโมงที่แล้ว
Sonos จัดเต็มส่งท้ายปีกับโปรโมชั่น 12.12 ให้คุณช้อปฟินด้วยส่วนลดสูงสุดกว่า 30%11 ธ.ค. 67 07:00
Infinix ปล่อยเซอร์ไพรส์ HOT 50 Pro+ Series สีสันพิเศษ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข10 ธ.ค. 67 21:41
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ10 ธ.ค. 67 19:29
iQOO 13 5G เจ้าของความแรง Snapdragon Elite 8 + RAM สูงสุด 16GB เคาะราคาในไทย 27,900 เท่านั้น9 ธ.ค. 67 15:00
ลือ! iPhone 17 และ iPhone 17 Air ยังไม่มีซูม Optical 5x ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะรุ่น Pro
รีวิว Apple iPad mini 7 ควรอัปเกรดไหม? แตกต่างจาก iPad mini 6 อย่างไร!
Apple จัดโปรโมชั่น Black Friday และ Cyber Monday ปี 2024 ลดสูงสุด 6,800 บาท
Apple เปิดตัวฟีเจอร์ Genmoji ใน iOS 18.2 สร้างอิโมจิแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใครด้วย AI บน iPhone