Infinix Hot 10S และ Hot 10S NFC ขุมพลัง Helio G85 ได้หน้าจอ 90Hz กับราคาประมาณ 4,000 บาท

ตามมาอีก 2 รุ่นกับ Infinix Hot 10 Series โดยเป็น Infinix Hot 10S และ Infinix Hot 10S NFC สมาร์ทโฟนรุ่นกลางๆ เน้นการใช้งานพื้นฐานเป็นหลัก ซึ่งมีจุดเด่นที่หน้าจออัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz ในราคาราวๆ 4,000 บาท และใช้ขุมพลัง MediaTek Helio G85 ทั้งนี้ยังเป็น 2 สมาร์ทโฟนรุ่นแรกจากแบรนด์ Infinix ที่ได้รันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง

Infinix Hot 10S และ Infinix Hot 10S NFC ทั้งคู่ไม่มีอะไรแตกต่างมากนัก แค่ไม่รองรับ NFC กับมี NFC และรุ่นแรกจะมีแบตเตอรี่ 6,000mAh ส่วนรุ่นหลังจะมีแบตเตอรี่ 5,000mAh สนับสนุนการชาร์จแบบ 10W สามารถฟังเพลงติดต่อกันได้ทั้งวัน ตามที่ Infinix ได้เคลมเอาไว้

Infinix Hot 10S มาพร้อมหน้าจอแสดงผลกว้าง 6.82 นิ้ว ความละเอียด HD+ มีอัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz และอัตราความไวในการสัมผัส 180Hz ส่วนดีไซน์รอยแหว่งเป็นแบบทรงหยดน้ำ ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 8MP มีโหมด Bokeh ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ

ในขณะที่กล้องหลังติดตั้งมา 3 เลนส์คือ เลนส์หลัก ความละเอียด 48MP, เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP และเลนส์ AI สามารถบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียดสูงสุด 1080p และ Slow-Mo ที่ 240fps รวมไปถึงโหมดถ่ายรูปตอนกลางคืนอย่าง Super Nightscape ก็มีมาให้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีที่สแกนลายนิ้วมือที่ฝาหลังตัวเครื่องอีกด้วย

สเปคภายใน Infinix Hot 10S จะได้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 ขนาด 12 มิลลิเมตรมาขับเคลื่อนความแรงให้ ซึ่งมีความแรงของ GPU มากกว่า Snapdragon 665 ถึง 32% ส่วนซอฟแวร์จะรันบนระบบปฏิบัติการ XOS 7.6 บนพื้นฐาน Android 11 มาพร้อม RAM สูงสุด 6GB กับ ROM 128GB รายละเอียดอื่นๆ รองรับ Dual SIM 4G VoLTE ใช้พอร์ต Micro USB และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

สเปคของ Infinix Hot 10S

• ขนาดตัวเครื่อง : 171.5x77.5x9.2 มิลลิเมตร
• หน้าจอแสดงผล : IPS-LCD กว้าง 6.82 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1640x720 พิกเซล) ดีไซน์รอยแหว่งแบบทรงหยดน้ำ
• ชิปเซ็ต : MediaTek Helio G85 แบบ 12 นาโนเมตร ความเร็ว 2.0GHz
• RAM : 6GB
• ROM : 128GB เพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 512GB
• ระบบปฏิบัติการ : XOS 7.6 บนพื้นฐาน Android 11
• กล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช 4 ตัว- เลนส์หลัก ความละเอียด 48MP- เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP- เลนส์ AI
• กล้องหน้า ความละเอียด 8MP
• เครือข่าย : 4G VoLTE รองรับ Nano SIM 2 ช่อง
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth, GPS, OTG, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต Micro USB
• ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือหลังตัวเครื่อง
• แบตเตอรี่ : 6,000mAh

ในตอนนี้ Infinix Hot 10S มีวางจำหน่ายแล้วที่ประเทศอินโดนิเซีย พร้อมตัวเลือก 4 สีคือ 95° Black, Morandi Green, Heart of Ocean และ 7° Purple ราคาเริ่มต้น 130 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4,000 บาท ส่วน Infinix Hot 10S ก็มีวางจำหน่ายในประเทศอินโดนิเซียเช่นกัน สนนราคาอยู่ที่ 120 ดอลลาร์ ประมาณ 3,800 บาท ทั้งนี้ในประเทศไทยได้ผ่านการรับรองจาก กสทช. เป็นที่เรียบร้อย อาจจะเปิดตัว พร้อมวางขายเร็วๆ นี้