www.siamphone.com
เป็นอีกหนึ่งบริการคอนเทนต์สตรีมมิ่งที่ชาวไทยรอคอยมานานแสนนานแล้ว เพราะรวมคอนเทนต์ระดับโลกมากมาย ประกอบไปด้วยคอนเทนต์คุณภาพจากหลายประเภท ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมสตรีมมิ่งแล้ว เริ่มวันที่ 30 มิถุนายนเป็นต้นไป ดิสนีย์ พลัส ฮอทสตาร์ (Disney+ Hotstar) ทั้งมีราคาที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อนเลยในราคาเพียง 799 บาทต่อปีเท่านั้น ถ้าหากเทียบกับ Netflix หรือ Mono Max, HBO Go ก็มีราคาที่แพงกว่า ส่งผลให้เกิดข้อดี เกิดการแข่งขัน อาจเป็นไปได้ว่าคู่แข่งข้างต้นอาจลดราคาก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามเรามาเจาะลึกกันหน่อยว่า Disney+ Hotstar มีอะไรน่าสนใจบ้าง
ทำความรู้จัก Disney+ Hotstar คือใคร
สำหรับ Disney คือบริษัทผู้ผลิตคอนเทนต์ชื่อดังระดับโลกอยู่แล้ว แต่ว่าในโลกของสตรีมมิ่งคอนเทนต์วิดีโอ หากอยู่แค่ในค่ายของตนเอง ก็ไม่เป็นผลดี พูดง่ายๆ ว่ามีคอนเทนต์ไม่หลากหลาย จึงต้องมีการร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทอื่นๆ เพื่อให้มีคอนเทนต์ต่างๆ จากทุกมุมโลกนั่นเอง ก่อให้เกิดเป็น Disney+
ส่วน Hotstar เป็นบริการวีดีโอสตรีมมิ่ง จากการควบรวมกิจการของผู้ให้บริการสตรีมมิ่งสองรายใหญ่ กล่าวคือ ปีพ.ศ. 2562 Disney ซื้อกิจการ 21st Century Fox บริษัทแม่ของ Hotstar ก่อตั้งโดยบริษัทในประเทศอินเดีย Star India ที่ให้บริการสตรีมมิ่งในประเทศอินเดีย ด้วยมูลค่ากว่า 52,400 ล้านเหรียญสหรัฐ และรวมตัวกันเป็น Disney+ Hotstar เพื่อให้บริการคอนเทนต์ในภูมิภาคอื่น ๆ
Disney+ Hotstar มีดีอย่างไร
Disney+ Hotstar ศูนย์กลางความบันเทิงรวบรวมคอนเทนต์จากทั่วโลก เอเชีย และไทยไว้ที่เดียว พร้อมให้คุณโลดแล่นสู่จินตนาการไม่รู้จบไปกับภาพยนตร์และซีรีส์ชื่อดังระดับฮอลลีวู้ด หรือภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ จาก Disney, Marvel, Star Wars, Pixar, National Geographic รวมถึงภาพยนตร์และซีรีย์จากสตูดิโอชั้นนำ
รับชมความบันเทิงจาก Disney+ Hotstar ผ่านอุปกรณ์ได้หลากหลาย ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่มีโฆษณาคั่น เพลิดเพลินไปกับซีรีย์ชื่อดัง อาทิ The Mandalorian, The Falcon and The Winter Soldier, WandaVision และภาพยนตร์ชื่อดัง เช่น Avengers: Endgame, Frozen 2 และ Maleficent: Mistress of Evil หรือจะเป็นภาพยนตร์และซีรีย์ยอดนิยมจากโซนเอเชียและไทย อย่าง Seobok, Shin Godzilla, 24: Japan, Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน, น้อง.พี่.ที่รัก, อิน-จัน และอื่น ๆ อีกมากมาย
หากใครมีคำถามว่าแล้วคอนเทนต์ภาพยนตร์ในประเทศไทยล่ะจะมีไหม ต้องตอบว่าชั้นนำกันเลยทีเดียว เพราะ Disney+ Hotstar ได้ร่วมมือกับสตูดิโอผู้สร้างภาพยนตร์และซีรีย์ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นจีดีเอช 559, สหมงคลฟิล์ม, กันตนา กรุ๊ป และ One31 เป็นต้น
สมัครสมาชิกอย่างไร
Disney+ Hotstar ประกาศเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการและมีกำหนดจะเปิดให้บริการในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ สามารถสมัครได้ที่แอปพลิเคชัน Disney+ Hotstar ในราคา 799 บาทต่อปี หรือเฉลี่ยราคาค่าบริการเพียง 66.5 บาทต่อเดือน
พิเศษกว่าเดิม! ลูกค้าเอไอเอส สมัครสมาชิกได้ผ่านเว็บไซต์ ais.th/disney/ ตั้งแต่วันนี้ - 27 มิถุนายนนี้ ในราคาพิเศษเพียง 35 บาทต่อเดือน นาน 12 เดือน โดย 1 บัญชีสามารถรับชมได้ 2 อุปกรณ์ อีกทั้งรับสิทธิ์ดูฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 1 เดือน (รับสิทธิ์เดือนที่ 2)
วิธีรับชมทำได้อย่างไร
จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Disney+ Hotstar ผ่าน Google Play Store สำหรับสมาร์ทโฟนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ โดยจะต้องเป็นเวอร์ชั่น 4.4 ขึ้นไป ส่วน iOS ต้องเวอร์ชั่น 10 ขึ้นไป สำหรับอุปกรณ์ IDevice ผ่าน App Store
หากรับชมผ่านเบราว์เซอร์รับชมผ่านเบราว์เซอร์ไหนได้บ้าง รับชมผ่าน Hotstar.com
ถ้าเป็นสมาร์ททีวีจะต้องเป็น Android TV OS 7 ขึ้นไป ส่วนคำถามสำคัญเลย หากเป็น AIS PLAYBOX ล่ะจะได้หรือยัง เพราะจะได้ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น คำตอบคือยังไม่ได้ แต่กำลังพัฒนาร่วมกันอยู่ ดังนั้นเร็วๆ นี้ได้แน่นอน
ทั้งนี้ Disney+ Hotstar จะรองรับการใช้งานทั้งคอมพิวเตอร์ ทีวี แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการAndroid และ iOS โดย 1 บัญชีจะสามารถสามารถรับชมได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์
วันที่ : 13 มิถุนายน 2564
Redmi Note 15 Pro อาจมีรุ่น 4G ให้เลือก คาดใช้ชิป Helio G200 Ultra กล้องหลัง 200MP4 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว BMB Entry Level ตำนานเครื่องเสียงญี่ปุ่น ครบจบเรื่องคาราโอเกะ20 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว iPad Pro M5 เพิ่มความแรงอีกขั้นกับชิป M5 ใครเครื่องเดิมอยู่ดีๆ เริ่มช้า ต้องเปลี่ยน20 ชั่วโมงที่แล้ว
Redmi Note 15 Series หลุดทั้งภาพ และข้อมูลสเปคก่อนเปิดตัวแบบ Global15 ธ.ค. 68 07:00
vivo Y31 5G สมาร์ตโฟน 5G รุ่นทนทานยันแบตเตอรี่ เริ่มวางขายในประเทศไทย14 ธ.ค. 68 15:00
Redmi Note 15 Pro อาจมีรุ่น 4G ให้เลือก คาดใช้ชิป Helio G200 Ultra กล้องหลัง 200MP
Redmi Note 15 Series หลุดทั้งภาพ และข้อมูลสเปคก่อนเปิดตัวแบบ Global
vivo Y31 5G สมาร์ตโฟน 5G รุ่นทนทานยันแบตเตอรี่ เริ่มวางขายในประเทศไทย
Nothing Phone (3a) Lite เริ่มวางขายในไทย ชิปเซ็ต Dimensity 7300 Pro หน้าจอ AMOLED รีเฟรช 120Hz
Nubia Fold สมาร์ตโฟนจอพับ ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite กล้องหลัง 3 ตัว 50MP
Nubia V80 Design ได้หน้าจอกว้างขึ้น 6.75 นิ้ว และเพิ่ม Dynamic RAM ได้สูงสุด 20GB