เปิดตัวแล้ว 3 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก vivo X200 Series

เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก vivo X200 Series ประกอบด้วย vivo X200, vivo X 200 Pro และ X200 Pro mini โดยรุ่น X200 มาพร้อมหน้าจอ LTPS AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ส่วนรุ่น X200 Pro และรุ่น X200 Pro mini มาพร้อมหน้าจอ 8T LTPO AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว และ 6.31 นิ้วตามลำดับ ความละเอียด 1.5K รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz

ทั้ง 3 รุ่น มีความสว่างสูงสุดถึง 4500 nits รองรับการปรับแสง PWM ที่ความถี่สูงถึง 2160Hz ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต Dimensity 9400 ซึ่งทำคะแนนได้ถึง 3.04 ล้านคะแนน ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Origin OS 5.0 และได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 + IP69

จับคู่ RAM แบบ LPDDR5 สูงสุด 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน UFS 4.0 สูงสุด 1TB โดยรุ่น X200 Pro ที่มาพร้อมพื้นที่ 1TB จะรองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม Beidou และใช้ RAM แบบ LPDDR5X Ultra Pro

ในด้านการถ่ายภาพ กล้องหลักของ vivo X200 Series จะใช้เซนเซอร์ vivo x Sony LYT-818 ขนาด 1/1.28 นิ้ว เคลือบ T* coating ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 22nm มีความสามารถในการถ่ายภาพ HDR แบบเนทีฟสำหรับหลายช่วงระยะโฟกัส พร้อมการเพิ่มช่วงไดนามิกสูงสุดถึง 400% และรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K แบบ Backlit Portrait, 4K 60fps Dolby Vision, 4K 120fps Slow-motion และ 4K 60fps 10-bit Log สำหรับทุกช่วงระยะโฟกัส

กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 50MP ใช้เซนเซอร์ Samsung JN1 ขนาด 1/1.27 นิ้ว รูรับแสง f/2.0 และกล้องหน้า ความละเอียด 32MP รูรับแสง f/2.0

สำหรับรุ่น X200 Pro จะมาพร้อมกล้อง Telephoto ความละเอียด 200MP ใช้เซนเซอร์ ISOCELL HP9 ที่พัฒนาร่วมกับ Samsung แบบเดียวกับรุ่น X100 Ultra เซนเซอร์ขนาด 1/1.4 นิ้ว รูรับแสง f/2.67 ระยะโฟกัสเทียบเท่า 85 มม. รองรับการซูมออปติคอลสูงสุด 3.7 เท่า และซูมเทเลโฟโต้มาโครสูงสุด 20 เท่า พร้อมระบบกันสั่น CIPA 4.5 เทเลโฟโต้ขั้นสูง นอกจากนี้ยังมีการเคลือบ Zeiss T* และได้รับการรับรอง APO เพื่อเพิ่มความคมชัดและลดแสงสะท้อน

ส่วนรุ่น X200 และ X200 Pro mini มาพร้อมกล้อง Zeiss Super Telephoto ความละเอียด 50MP เคลือบ T* coating รูรับแสง f/2.57 รองรับการซูมออปติคอลเพียง 3 เท่าและเทคโนโลยีการปรับปรุงคุณภาพของภาพขนาดใหญ่ ช่วยให้ภาพชัดเจนขึ้นแม้ซูมเกิน 10 เท่า

ในด้านแบตฯ รุ่น X200 มีแบตฯ ความจุ 5800mAh ที่สามารถใช้งานได้ในสภาพอากาศเย็นถึง -20°C รองรับชาร์จเร็ว 90W ส่วนรุ่น X200 Pro มีแบตฯ ความจุ 6000mAh และรุ่น X200 Pro mini มีแบตฯ ความจุ 5700mAh ทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จไว 90W และการชาร์จไร้สาย 30W

ราคาและการวางจำหน่าย

vivo X200 Series รุ่น X200 และ X200 Pro มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สี Sapphire Blue, สี Titanium White และสี Moonlight Night Black ส่วนรุ่น X200 Pro mini จะมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สี Titanium Blue, สี Pink, สี White และสี Simple Black เปิดให้สั่งจองแล้วในประเทศจีน โดยรุ่น X200 และรุ่น X200 Pro วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม เป็นต้นไป ส่วนรุ่น X200 Pro mini จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 ตุลาคม เป็นต้นไป ราคาและความจุมีดังนี้

vivo X200

• ความจุ 12GB+256GB ราคา 4,299 หยวน หรือประมาณ 20,1xx บาท
• ความจุ 12GB+512GB ราคา 4,699 หยวน หรือประมาณ  22,0xx บาท
• ความจุ 16GB+512GB ราคา 4,999 หยวน หรือประมาณ 23,4xx บาท
• ความจุ 16GB+1TB ราคา 5,499 หยวน หรือประมาณ 25,8xx บาท

vivo X200 Pro mini

• ความจุ 12GB+256GB ราคา 4,699 หยวน หรือประมาณ  22,0xx บาท
• ความจุ 16GB+512GB ราคา 5,299 หยวน หรือประมาณ 24,4xx บาท
• ความจุ 16GB+1TB ราคา 5,799 หยวน หรือประมาณ 27,2xx บาท

vivo X200 Pro

• ความจุ 12GB+256GB ราคา 5,299 หยวน หรือประมาณ 24,4xx บาท
• ความจุ 16GB+512GB ราคา 5,999 หยวน หรือประมาณ 28,1xx บาท
• ความจุ 16GB+1TB ราคา 6,499 หยวน หรือประมาณ 30,4xx บาท
• ความจุ 1TB Satellite Edition ราคา 6,799 หยวน หรือประมาณ 31,9xx บาท