www.siamphone.com

ข่าว

รีวิว OPPO Reno13 Series 5G นำทุกเทรนด์ด้วย OPPO AI อัปเกรดด้วย AI Livephoto ที่ดีที่สุด

สมาร์ทโฟน (Smartphone)   |   วันที่ : 3 กุมภาพันธ์ 2568

OPPO Reno13 F 5G และ OPPO Reno13 5G สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก OPPO Reno13 Series ผสานลวดลายผีเสื้ออันงดงาม นำพาไปสู่โลกกว้างใหญ่ เสมือนการเปลี่ยนแปลงและการเริ่มต้นใหม่ครั้งใหญ่ในเอกลักษณ์ใหม่ของ Reno Series ที่ได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ตโฟนให้เหนือกว่า ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี AI อันทรงพลังและฟีเจอร์อันล้ำสมัย ทั้งในด้านการถ่ายภาพ, การเล่นเกม, การเชื่อมต่อ 5G, และประสิทธิภาพโดยรวม ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวที่รองรับการถ่ายภาพที่หลากหลายและเทคโนโลยี AI Livephoto ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพและวิดีโอเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ ในขณะเดียวกัน AI HyperBoost และ AI LinkBoost 2.0 ก็ช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหลและเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วไม่มีสะดุด แบตเตอรี่ขนาดใหญ่และการชาร์จไว ทำให้ OPPO Reno13 Series เป็นสมาร์ตโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่พร้อมมอบประสบการณ์และความคุ้มค่าตลอดการใช้งาน

สั่งซื้อคลิก!

OPPO Reno13 F 5G

OPPO Reno13 5G

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ประสบการณ์การถ่ายภาพสมบูรณ์แบบด้วย AI และฟีเจอร์ล้ำสมัย

OPPO Reno13 F 5G และ OPPO Reno13 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่

  • กล้องหลัก : ความละเอียด 50MP พร้อมรูรับแสง f/1.8 รองรับการกันสั่น OIS
  • กล้อง Ultra-Wide : ความละเอียด 8MP พร้อมรูรับแสง f/2.2 รองรับการกันสั่น EIS
  • กล้อง Macro : ความละเอียด 2MP พร้อมรูรับแสง f/2.4

ในส่วนของกล้องหน้า OPPO Reno13 F 5G มีกล้องหน้า ความละเอียด 32MP พร้อมรูรับแสง f/2.4 ส่วน OPPO Reno13 5G มีกล้องหน้า ความละเอียด 50MP พร้อมรูรับแสง f/2.0 รองรับ AF

   

AI Livephoto

เปิดประสบการณ์ใหม่ของการถ่ายภาพด้วย AI Livephoto บน OPPO Reno13 Series 5G ที่สามารถบันทึกวิดีโอ 1.5 วินาทีก่อนและหลังการกดชัตเตอร์ พร้อมเทคโนโลยีลดการสั่นไหว (EIS) และการขยายเฟรมแบบไดนามิก ช่วยให้คุณได้ภาพถ่ายและวิดีโอที่คมชัด สมบูรณ์แบบในทุกสถานการณ์

 

ยกระดับการแสดงผลด้วยการอัปเกรดวิดีโอจาก 1080P เป็น 2K พร้อมเทคโนโลยี Pro XDR ที่เพิ่มความคมชัดและความสดใสในทุกคีย์เฟรม อีกทั้งยังมีเอฟเฟกต์รีทัชและฟิลเตอร์ที่หลากหลายให้คุณปรับแต่งภาพถ่ายได้ตามสไตล์ของตัวเอง นอกจากการถ่ายภาพแล้ว AI Livephoto ยังช่วยให้การปรับแต่งภาพเป็นเรื่องง่าย ด้วยฟิลเตอร์ เอฟเฟกต์แต่งหน้า และการแก้ไขแบบเรียลไทม์ คุณสามารถเพิ่มลายน้ำ ใส่กรอบภาพ หรือแปลงภาพ Livephoto เป็น GIF และวิดีโอ พร้อมแชร์บนโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่าง Instagram และ WhatsApp ได้ทันทีผ่าน O+ Connect ที่เชื่อมต่อกับ iOS อย่างไร้รอยต่อ

โหมดถ่ายภาพใต้น้ำ

OPPO Reno13 Series เป็นสมาร์ตโฟนราคาระดับกลางรุ่นเดียวจาก OPPO ที่มาพร้อม โหมดถ่ายภาพใต้น้ำโดยเฉพาะ สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการถ่ายภาพผ่านมือถือ ที่ไม่ได้มีดีแค่การถ่ายภาพใต้น้ำ แต่ยังช่วยให้การบันทึกภาพเป็นเรื่องง่ายและได้คุณภาพสูงสุด

ด้วยมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP69 สมาร์ตโฟนรุ่นนี้สามารถใช้งานใต้น้ำได้ลึกถึง 2 เมตร นานสูงสุด 30 นาที โดยโหมดถ่ายภาพใต้น้ำจะช่วยปรับการทำงานของกล้องให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เช่น การโฟกัส สี และคอนทราสต์ เพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนสีและการบิดเบือนของสีที่เกิดขึ้นใต้น้ำ ทำให้ได้ภาพถ่ายและวิดีโอที่คมชัด สีสันสดใส และดูเป็นธรรมชาติ

เปรียบเทียบ ภาพถ่ายเหนือน้ำ กับ ภาพถ่ายใต้น้ำ

 

นอกจากนี้ การควบคุมกล้องในโหมดนี้ยังทำได้สะดวกด้วยปุ่มปรับระดับเสียง เพิ่มความคล่องตัวในการถ่ายภาพหรือวิดีโอใต้น้ำโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอโดยตรง พร้อมมอบความอิสระในทุกการถ่ายภาพใต้น้ำอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน ระบายน้ำออกจากตัวเครื่องที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว เพียงแตะแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

 

โหมด Master Filters

โหมดฟิลเตอร์พิเศษนี้ ช่วยเพิ่มความพิเศษให้กับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต ด้วยฟิลเตอร์ที่มีโทนสีที่สวยและโดดเด่น เหมือนถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม ฟิลเตอร์จะปรับสีและคอนทราสต์ให้ภาพดูมีมิติและสวยงามขึ้น เพิ่มความลึกให้กับภาพและเน้นรายละเอียดใบหน้าและพื้นหลัง ช่วยสร้างบรรยากาศเฉพาะตัวได้อย่างมีสไตล์ โดยไม่ต้องใช้การแต่งภาพเพิ่มเติม

 

AI Editor ฟีเจอร์ AI สำหรับการถ่าย/แต่งภาพที่น่าสนใจ

หลังจากถ่ายภาพด้วยฟีเจอร์ AI Livephoto เสร็จแล้ว สามารถนำภาพมาแก้ไขได้เลยทันทีใน AI Editor เพื่อปรับแต่งและยกระดับคุณภาพของภาพถ่ายได้อย่างง่ายดาย ด้วยฟีเจอร์ที่ทันสมัยและหลากหลาย

  • AI Clarity Enhancer : ปรับความคมชัดของภาพให้ดีขึ้น โดยการเพิ่มรายละเอียดที่เบลอหรือขาดหายไป ทำให้ภาพดูชัดเจนและสมจริงมากขึ้น
  • AI Unblur : แก้ไขภาพที่เบลอจากการเคลื่อนไหวหรือการสั่นของกล้อง โดยใช้ AI ในการคาดเดารายละเอียดที่สูญหายและทำให้ภาพกลับมาคมชัด
  • AI Reflection Remover : ลบแสงสะท้อนหรือสะท้อนที่ไม่ต้องการออกจากภาพ โดยเฉพาะในภาพที่ถ่ายผ่านกระจกหรือพื้นผิวที่สะท้อนแสง
  • AI Eraser 2.0 : ช่วยวิเคราะห์รูปภาพและแทนที่วัตถุที่ต้องการลบให้มีความเนียนและเป็นธรรมชาติที่สุด เพียงแค่วงบริเวณที่ไม่ต้องการ ก็สามารถลบวัตถุหรือคนที่ไม่ต้องการ ออกไปได้อย่างง่ายดาย
  • AI Best Face : เป็นการใช้เทคโนโลยี AI ตรวจจับและแก้ไขภาพบุคคลที่หลับตาในขณะถ่ายภาพแบบอัตโนมัติ ทำให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบและเป็นธรรมชาติ
   

สัมผัสพรีเมี่ยมและดีไซน์การออกแบบที่เหนือชั้น

OPPO Reno13 F 5G มาพร้อมฝาหลังกระจกผิวด้านดีไซน์ใหม่ ด้วยความที่เป็นผิวด้าน เวลาใช้งานจึงไม่ค่อยขึ้นรอยนิ้วมือ ทำให้จับได้ถนัดมือมากขึ้นและยังช่วยให้เวลาถือใช้งานไม่ลื่นไหลหรือหลุดออกจากมือง่ายๆ อีกด้วย

เครื่องที่ทาง Siamphone ได้มารีวิวในรุ่นนี้ จะเป็นตัวเครื่องสี Plume Purple ความพิเศษของสีนี้จะเป็นพื้นผิวขนนกที่สร้างขึ้นโดยแสงเลเซอร์เขียนโดยตรงแบบเฉดสีเทาบนเลเยอร์ของพื้นผิว สร้างการไหลของแสงและเงา ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ลวดลายปีกผีเสื้ออันงดงามและเป็นเอกลักษณ์ใหม่สำหรับ OPPO Reno13 Series ซึ่งสื่อให้นึกถึงการเปลี่ยนแปลงและการเริ่มต้นใหม่

ส่วน OPPO Reno13 5G ที่ทาง Siamphone ได้มารีวิว จะเป็นตัวเครื่องสี Plume White ซึ่งจะมีดีไซน์ใหม่เป็นลวดลายปีกผีเสื้อเหมือนกับ OPPO Reno13 F 5G

สำหรับ OPPO Reno13 F 5G มีมาให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่

  • สีม่วง Plume Purple
  • สีเทา Graphite Grey
  • สีฟ้า Luminous Blue

ส่วน OPPO Reno13 5G จะมีมาให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 สี ได้แก่

  • สีขาว Plume White
  • สีฟ้า Luminous Blue

OPPO เพิ่มความพิเศษให้กับ OPPO Reno13 Series 5G โดยตัวเครื่องสีฟ้า Luminous Blue จะมีดีไซน์วงแหวน Luminous Loop ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งวงแหวนนี้เปล่งแสงรอบกล้องสะท้อนการออกแบบที่ล้ำสมัย ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังเป็นการต่อยอดนวัตกรรมจากรุ่นก่อน ๆ และมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้อีกด้วย

OPPO Reno13 Series 5G มาพร้อมดีไซน์ขอบเหลี่ยม ช่วยให้ขณะใช้งานสามารถถือจับได้อย่างถนัดมือมากขึ้น กรอบรอบเครื่องของ OPPO Reno13 F 5G เป็นกรอบโลหะผสมที่ความทนทานและแข็งแรงสูง จับแล้วรู้สึกได้ถึงความพรีเมี่ยม ส่วนกรอบรอบเครื่องของ OPPO Reno13 5G จะเป็นวัสดุเช่นเดียวกับ OPPO Reno13 F 5G แต่เสริมด้วยกรอบอลูมิเนียมเกรดอากาศยาน ทำให้มีความเบาบาง และแข็งแรงมากกว่า

ในส่วนของหน้าจอ OPPO Reno13 F 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400  พิกเซล) อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 92.2% รองรับอัตราการรีเฟรชเรทถึง 120Hz และความสว่างสูงสุดถึง 1200 nits แสดงผลลื่นไหล ชวนให้ดื่มด่ำกับคอนเท้นต์ที่กำลังรับชมอยู่ ช่วยให้มองเห็นได้ดีแม้เล่นกลางแจ้งในวันที่แสงแดดจ้า มีโหมดแสงน้อย ช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตาในช่วงดึก อีกทั้งยังรองรับการสัมผัสหน้าจอโดยตรงได้อย่างแม่นยำและราบรื่นแม้สวมจะถุงมือหนาถึง 5 มิลลิเมตรอยู่ก็ตาม

ส่วน OPPO Reno13 5G มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.59 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1256 × 2760 พิกเซล) อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.4% รองรับอัตราการรีเฟรชเรทถึง 120Hz และความสว่างสูงสุดถึง 1200 nits แสดงผลภาพออกมาได้อย่างสดใสและคมชัด อีกทั้งยังได้รับการรับรองจาก HDR10+, Amazon HD&HDR และ Netflix HD&HDR อีกด้วย

เล่นเกมราบรื่น ด้วยประสิทธิภาพ AI ขั้นสูงและการเชื่อมต่อที่เหนือกว่า

  • AI LinkBoost 2.0

เทคโนโลยี AI LinkBoost 2.0 เป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลเครือข่ายที่ทาง OPPO พัฒนาขึ้นเอง เพิ่มความเร็วในการสลับสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือเครือข่ายมือถือ เพื่อรักษาการเชื่อมต่อที่ราบรื่น และลดอาการแล็กขณะเล่นเกม แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณเครือข่ายที่ไม่ดี เช่น รถไฟใต้ดิน หรือในลิฟต์

  • AI HyperBoost

AI HyperBoost ที่ช่วยให้เฟรมเรตคงที่และประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่น สามารถเล่น Mobile Legends Bang Bang ได้ถึง 8 ชั่วโมง ด้วยเฟรมเรตเฉลี่ย 59.6 FPS และมีฟังก์ชัน AI Frame Stabilizer ที่ลดความล่าช้าแม้ใช้งานหนัก นอกจากนี้ OPPO Reno13 Series 5G ยังได้รับการจัดอันดับ S-Class จากการทดสอบของ TÜV South Deutsche Group

 

แบตเตอรี่ยาวนาน ชาร์จไว พร้อมใช้งานตลอดทั้งวัน

ในส่วนของแบตเตอรี่ OPPO Reno13 F 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,800mAh อายุการใช้งานยาวนานถึง 4 ปี ทาง OPPO เผยว่าเป็นแบตเตอรี่ที่อึดที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน OPPO Reno Series และเป็นหนึ่งในแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟนระดับราคาเดียวกัน สามารถใช้งานได้นานถึง 2.16 วัน และเล่นเกม CandyCrush ได้นานถึง 14.4 ชั่วโมง และเมื่อชาร์จ 5 นาที สามารถเล่น Youtube ได้นานถึง 1.23 ชั่วโมง ซึ่งแบตเตอรี่ขนาดเท่านี้ เพียงพอสำหรับใช้งานตลอดทั้งวันแน่นอน อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไว 45W SUPERVOOC รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน

ส่วน OPPO Reno 13 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,600mAh อายุการใช้งานยาวนานถึง 5 ปี สามารถชาร์จได้ถึง 17% ภายใน 5 นาที และชาร์จเต็ม 100% ได้ภายในประมาณ 47 นาที และเมื่อชาร์จ 10 นาที สามารถเล่น Youtube ได้นานถึง 4.0 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไว 80W SUPERVOOC ถือว่าไวมากจริงๆ

ขุมพลังอันทรงพลัง เสริมด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

OPPO Reno13 F 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon® 6 Gen 1 ควบคู่ RAM 12GB + ROM 256GB / 512GB ซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในการใช้งานทุกประเภท ทั้งการเล่นเกม, การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน และการเชื่อมต่อ 5G อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในด้านการประหยัดพลังงานและการจัดการความร้อนที่ดีกว่า ทำให้สามารถใช้งานได้นานโดยไม่เกิดปัญหาความร้อนสูงหรือการกระตุกในระหว่างการใช้งานหนัก

ส่วน OPPO Reno13 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8350 ควบคู่ RAM 12GB + ROM 256GB / 512GB ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีในด้านการประมวลผลกราฟิกและการเชื่อมต่อ 5G ซึ่งจะโดดเด่นในเรื่องการประหยัดพลังงานและการใช้งานที่ยาวนาน เมื่อเทียบกับ OPPO Reno13 F 5G

สเปคเบื้องต้นของ OPPO Reno13 F 5G

  • ขนาด : 162.20 x 75.05 x 7.76 มม. (สี Graphite Grey & สี Plume Purple) และ 162.20 x 75.05 x 7.82 มม. (สี Luminous Blue)
  • น้ําหนัก : 192 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล :  AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400 พิกเซล), รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1200nits, อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 92.2%, ความหนาแน่นของพิกเซล 394 PPI, ความเร็วในการตอบสนองต่อการกดของหน้าจอ 240Hz,
  • ชิปเซ็ต : Snapdragon® 6 Gen 1 Octa-core 2.2GHz (4mm)
  • GPU : Adreno 710 @676MHz
  • RAM : 8GB / 12GB (LPDDR4X)
  • พื้นที่จัดเก็บภายใน : 256GB / 512GB (UFS 3.1)
  • microSD Card : สูงสุด 2TB
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับด้วย ColorOS 15
  • ซิม : รองรับ Dual SIM (nano + nano)
  • กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่
    • กล้องหลัก : ความละเอียด 50MP พร้อมรูรับแสง f/1.8, รองรับกันสั่น OIS
    • กล้อง Ultra-Wide : ความละเอียด 8MP พร้อมรูรับแสง f/2.2 รองรับกันสั่น EIS
    • กล้อง Macro : ความละเอียด 2MP พร้อมรูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 32MP พร้อมรูรับแสง f/2.4
  • ระบบความปลอดภัย : เซนเซอร์ลายนิ้วมือบนหน้าจอ, สแกนใบหน้า
  • การเชื่อมต่อ : WiFi 5G, WiFi 2.4G, WiFi 5 (802.11ac), 802.11 b/g/a/n, WLAN 2.4GHz + 5GHz, 5G SA/NSA, 4G LTE, Bluetooth 5.1, USB Type-C, GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, NFC
  • ระดับการทนน้ำทนฝุ่น : IP69
  • พอร์ต : USB Type-C
  • แบตเตอรี่ : 5800 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC

สเปคเบื้องต้นของ OPPO Reno13 5G

  • ขนาด : 157.90 x 74.73 x 7.24 มม. (สี Plume White) และ 157.90 x 74.73 x 7.29 มม. (สี Luminous Blue)
  • น้ําหนัก : 181 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล :  AMOLED (Flexible) ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1256 x 2760 พิกเซล), รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1200nits, อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.4%, ความลึกของสี 1.07 พันล้านสี, ความหนาแน่นของพิกเซล 460 PPI, ความเร็วในการตอบสนองต่อการกดของหน้าจอ 240Hz, ป้องกันด้วย Corning® Gorilla® Glass 7i
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 8350
  • GPU : ARM Turse G615
  • RAM : 8GB / 12GB (LPDDR5X)
  • พื้นที่จัดเก็บภายใน : 256GB / 512GB (UFS 3.1)
  • microSD Card : สูงสุด 2TB
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับด้วย ColorOS 15
  • ซิม : รองรับ Dual SIM (nano + nano)
  • กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่
    • กล้องหลัก : ความละเอียด 50MP พร้อมรูรับแสง f/1.8, รองรับกันสั่น OIS
    • กล้อง Ultra-Wide : ความละเอียด 8MP พร้อมรูรับแสง f/2.2 รองรับกันสั่น EIS
    • กล้อง Macro : ความละเอียด 2MP พร้อมรูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 32MP พร้อมรูรับแสง f/2.4
  • ระบบความปลอดภัย : เซนเซอร์ลายนิ้วมือบนหน้าจอ, สแกนใบหน้า
  • การเชื่อมต่อ : WiFi 6 (802.11ax), WiFi 5G, WiFi 5 (802.11 ac), 802.11 b/g/a/n, WiFi 2.4G, WLAN 2.4GHz + 5GHz, 5G SA/NSA, 4G LTE, Bluetooth 5.4, USB Type-C, GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, NFC
  • ระดับการทนน้ำทนฝุ่น : IP69
  • พอร์ต : USB Type-C
  • แบตเตอรี่ : 5600 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 80W SUPERVOOC

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

OPPO Reno 13 F 5G และ OPPO Reno 13 5G มีความแตกต่างกันเพียงบางจุดเท่านั้น โดยรุ่นน้องอย่าง OPPO Reno 13 F 5G มีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 162.20 x 75.05 x 7.76 มม. (สี Graphite Grey & สี Plume Purple) และ 162.20 x 75.05 x 7.82 มม. (สี Luminous Blue) น้ำหนัก 192 กรัม มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 × 2400 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรซเรทสูงสุด 120Hz

ส่วน OPPO Reno 13 5G มีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 157.90 x 74.73 x 7.24 มม. (สี Plume White) และ 157.90 x 74.73 x 7.29 มม. (สี Luminous Blue) น้ำหนัก 181 กรัม มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.59 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1256 × 2760 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรซเรทสูงสุด 120Hz 

ด้านบนของหน้าจอทั้ง 2 รุ่น เป็นกล้องหน้าเจาะรูแบบ Punch-hole โดย OPPO Reno13 F 5G มีความละเอียด 32MP พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.4 ส่วน OPPO Reno 13 5G มีความละเอียด 50MP พร้อมรูรับแสง f/2.0 เหนือขึ้นไปบริเวณขอบจอเป็นลำโพงเสียง ซึ่งรุ่น OPPO Reno 13 F 5G จะมีความใหญ่เล่นเห็นชัดมากกว่า รอบตัวเครื่องของทั้ง 2 รุ่น ประกอบไปด้วย

  • ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน โดยรุ่น OPPO Reno 13 5G จะมี IR blaster เพิ่มเข้ามาให้ด้วย
  • ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ
  • ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power สำหรับล็อคหน้าจอและเปิด-ปิด, รีสตาร์ทเครื่อง
  • ด้านล่างของตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ Dual SIM รองรับ Nano SIM 2 ช่อง ถัดมาเป็นไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน พอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง และทางขวาเป็นลำโพงเสียง
  • ด้านหลังของตัวเครื่องจะพบกับ โมดูลกล้องดีไซน์สี่เหลี่ยมขอบโค้งมนที่สมมาตรกับดีไซน์ของตัวเครื่อง ทั้ง 2 รุ่น จะมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก ความละเอียด 50MP พร้อมรูรับแสง f/1.8 รองรับการกันสั่น OIS, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP พร้อมรูรับแสง f/2.2 รองรับการกันสั่น EIS และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP พร้อมรูรับแสง f/2.4 และจะมีความแตกต่างกันแค่การจัดวางตำแหน่งไฟแฟลชเท่านั้น

ราคาและการวางจำหน่าย

OPPO Reno13F 5G

  • ความจุ 12GB + 256GB ราคา 12,999 บาท
  • ความจุ 12GB + 512GB ราคา 14,999 บาท

OPPO Reno13 5G

  • ความจุ 12GB + 256GB ราคา 17,999 บาท
  • ความจุ 12GB + 512GB ราคา 19,999 บาท

OPPO ได้ดำเนินการอัปเดตซอฟต์แวร์ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งสมาร์ตโฟนรุ่น Find X8, Reno 13, Reno 12 และ A3 ได้รับการอัปเดตผ่าน OTA และจะไม่มีแอปพลิเคชันสินเชื่อ “Fineasy” และ “สินเชื่อความสุข” อีกต่อไป โดย OPPO ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายปัจจุบันไม่มีการติดตั้งแอปสินเชื่อเหล่านี้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้เพิ่มมาตรการกำกับดูแลแอปพลิเคชันจากบุคคลที่สาม โดยจะไม่ติดตั้งแอปสินเชื่อล่วงหน้า และแอปสินเชื่อที่ไม่ได้รับการรับรองจากธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่ปรากฏใน OPPO App Market อีกต่อไป

ในด้านความปลอดภัยของข้อมูล OPPO ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับด้านข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ตามหลักการ “ถูกต้องตามกฎหมาย (Legality), ชอบธรรม (Legitimacy), และ Minimization” บริษัทให้ความเคารพต่อการตัดสินใจของผู้ใช้ และจะไม่เก็บรวบรวมหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างชัดเจน ทั้งนี้ OPPO ได้จัดตั้งระบบปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่ครอบคลุม พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล เช่น ISO 27001, ISO 27701, ISO 27018, PCI DSS และ CSA

เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับ OPPO ในฐานะแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ โดยในอนาคต บริษัทมุ่งมั่นปรับปรุงระบบการประเมินคุณสมบัติของแอปพลิเคชันจากบุคคลที่สาม และจะไม่ร่วมมือกับบริษัทที่ไม่ผ่านมาตรฐาน นอกจากนี้ OPPO จะเสริมสร้างความร่วมมือกับองค์กรด้านความปลอดภัยชั้นนำเพื่อพัฒนามาตรการทางเทคนิค ลดความเสี่ยง และยกระดับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง

วันที่ : 3 กุมภาพันธ์ 2568

147
อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข่าวล่าสุด

ไฮไลท์ข่าว

หมวดข่าว

None AMP version