รีวิว iPhone 16e ทรงพลังเกินคาด จัดเต็มทุกฟีเจอร์ในราคาเข้าถึงได้

iPhone 16e สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก iPhone 16 Series ออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพอันทรงพลังในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่ต้องการอัปเกรดจาก iPhone รุ่นเก่า และผู้ที่เปลี่ยนมาใช้ iPhone เป็นครั้งแรก ตัวเครื่องผลิตจากอะลูมิเนียมเกรดอากาศยาน ให้ความแข็งแรงทนทาน พร้อมกระจกหน้าแบบ Ceramic Shield ที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟน มาพร้อมหน้าจอ Super Retina XDR OLED ให้สีสันที่สดใสและความละเอียดสูง ขับเคลื่อนด้วยชิปฯ A18 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่รุ่นใหม่ล่าสุดของ Apple ในตอนนี้ ให้ประสิทธิภาพระดับคอนโซลเกม รองรับการใช้งานที่หลากหลายตั้งแต่การเล่นเกมที่มีกราฟิกหนักๆ ไปจนถึงการใช้ฟีเจอร์ AI อัจฉริยะที่ล้ำหน้าของ Apple

สั่งซื้อคลิก!

Lazada : https://c.lazada.co.th/t/c.YSPl8m

Shopee : https://s.shopee.co.th/2B0HQuBZx4

Jaymart : https://siamph.co/9fkdi

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

วัสดุระดับพรีเมียมกับความทนทานระดับสูง

iPhone 16e ถูกออกแบบให้มีความแข็งแกร่งและทนทาน ด้วยตัวเครื่องอะลูมิเนียมรีไซเคิล 85% ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกระจกด้านหลังที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้ทนทานต่อแรงกระแทกมากกว่ารุ่นก่อนๆ อย่าง iPhone 11 ถึง 4 เท่า อีกทั้งยังมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 สามารถอยู่ในน้ำลึก 6 เมตรได้นานสูงสุด 30 นาที

HDR ที่แท้จริง รับชมคอนเทนต์ระดับภาพยนตร์บน iPhone 16e

หน้าจอของ iPhone 16e ใช้เทคโนโลยี Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ OLED ที่มีความละเอียดสูง ให้สีสันที่คมชัด สมจริง และมีระดับคอนทราสต์ที่สูง รองรับมาตรฐาน HDR10 และ Dolby Vision เพื่อให้การรับชมวิดีโอและภาพถ่ายมีคุณภาพดีที่สุด ความสว่างสูงสุดที่ 1,200 nits ทำให้สามารถใช้งานกลางแจ้งได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องการสะท้อนของแสง และเทคโนโลยี True Tone ยังช่วยปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ ลดอาการเมื่อยล้าสายตาเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน

A18 ชิปอัจฉริยะ ประสิทธิภาพแรงขึ้น ประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม

iPhone 16e มาพร้อมกับชิป A18 ใช้เทคโนโลยีการผลิต 3 นาโนเมตร เจนเนอเรชันที่ 2 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านความเร็วและการใช้พลังงานให้คุ้มค่ามากขึ้น CPU 6 คอร์ที่อัปเกรดขึ้นสามารถทำงานได้เร็วขึ้นถึง 80% เมื่อเทียบกับ A13 Bionic บน iPhone 11 และประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 55% GPU 4 คอร์ถูกออกแบบมาให้รองรับการเล่นเกมที่ต้องใช้กราฟิกสูงๆ สามารถประมวลผล Ray Tracing เพื่อให้แสงและเงาในเกมมีความสมจริงมากขึ้น นอกจากนี้ Neural Engine แบบ 16 คอร์ ยังช่วยให้ iPhone 16e สามารถจัดการกับงานที่ต้องใช้ AI อย่างการประมวลผลภาพ การจดจำใบหน้า และการสั่งงานด้วยเสียงได้ดีขึ้นถึง 6 เท่า

แบตเตอรี่อึดทน ใช้งานได้ตลอดทั้งวันกว่าที่เคย

iPhone 16e ให้แบตเตอรี่ที่อึดที่สุดในบรรดา iPhone ขนาด 6.1 นิ้ว โดยสามารถเล่นวิดีโอได้นานถึง 26 ชั่วโมง ซึ่งเทียบกับ iPhone 11 แล้ว ถือว่าใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว การออกแบบภายในใหม่ ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงเแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ Apple ยังใช้ระบบจัดการพลังงานขั้นสูงของ iOS 18 ควบคู่กับชิป A18 ที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดียิ่งขึ้น ทำให้ iPhone 16e ใช้งานแบบต่อเนื่องได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น รองรับการชาร์จเร็วผ่าน USB-C และยังสามารถใช้ชาร์จอุปกรณ์อื่น เช่น AirPods หรือ Apple Watch ผ่านสาย USB-C ได้อีกด้วย

ถ่ายคมทุกช็อต เก็บครบทุกมิติด้วย Fusion Camera

iPhone 16e ใช้กล้อง Fusion 48MP ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์แบบ Quad-Pixel ที่สามารถรวมพิกเซลเพื่อให้ภาพมีความละเอียดสูงสุด 24MP เป็นค่าเริ่มต้น โหมด Telephoto 2x ใช้ส่วนกลางของเซ็นเซอร์ 12MP เพื่อให้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพระดับออปติคอลโดยไม่สูญเสียรายละเอียด นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ถ่ายภาพขั้นสูง เช่น Smart HDR 5 ที่ช่วยให้ภาพมีรายละเอียดที่คมชัดและสีสันที่สมจริงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายในสภาพแสงน้อยหรือภาพถ่ายที่มีคอนทราสต์สูง มี Night Mode เปิดอัตโนมัติเมื่อถ่ายในที่มืด และ Portrait Mode ช่วยแยกบุคคลออกจากฉากหลังพร้อมปรับโฟกัสเองได้ทันทีหลังถ่ายเสร็จ

เซลฟี่คมชัดทุกมุมมองด้วยกล้อง TrueDepth 12MP

กล้องหน้า TrueDepth 12MP รองรับ ที่มีออโต้โฟกัส สามารถถ่ายเซลฟี่ได้อย่างคมชัดแม้มีหลายคนในเฟรม รองรับ Night Mode สำหรับกล้องหน้า เพื่อให้การเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้รูปที่ดูสว่างและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และยังสามารถถ่ายวิดีโอ 4K Dolby Vision ที่ 60fps พร้อมเสียง Spatial Audio Capture ให้คุณภาพระดับมืออาชีพ เหมาะสำหรับทั้งการวิดีโอคอล ถ่ายคอนเทนต์ และสตรีมมิ่ง

Action Button ปุ่มเดียวที่ปรับแต่งได้ตามใจคุณ

แทนที่สวิตช์ Silent Mode แบบเดิมๆ iPhone 16e มาพร้อม Action Button ที่สามารถตั้งค่าการทำงานตามที่ต้องการ เช่น เปิดไฟฉาย, เปิดกล้อง, ใช้งานโหมดโฟกัส หรือแม้กระทั่งเปิดแอป Shortcut เพื่อเรียกใช้ฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อยได้ทันที

Apple Intelligence ผู้ช่วยที่คิดและทำทุกอย่างให้ง่ายขึ้น

Apple Intelligence เป็นระบบ AI ที่ฝังอยู่ใน iPhone 16e ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบและแก้ไขไวยากรณ์ของข้อความ การสรุปอีเมลที่สำคัญ หรือการปรับแต่งภาพถ่ายด้วย Clean Up เพื่อให้ภาพดูเรียบร้อยขึ้นโดยอัตโนมัติ *ภาษาไทยยังไม่รองรับ หากต้องการใช้งาน ต้องปรับเป็นภาษาอังกฤษ*

ยกระดับประสบการณ์เสียงด้วย Audio Mix และ Spatial Audio

iPhone 16e มอบประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยมทั้งในการบันทึกและเล่นวิดีโอ ด้วยเทคโนโลยี Spatial Audio ที่ให้เสียงรอบทิศทางเสมือนอยู่ในสถานที่จริง ช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับคอนเทนต์ที่คุณรับชม นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Audio Mix ยังช่วยให้คุณสามารถควบคุมเสียงของวิดีโอที่บันทึกไว้ได้มากขึ้น โดยมีโหมดปรับแต่งเสียงหลากหลาย เช่น In-Frame ซึ่งเน้นเสียงของบุคคลที่อยู่ในเฟรม ขจัดเสียงรบกวนรอบข้างออกไป หรือ Studio Mode ที่ช่วยให้เสียงพูดคมชัดเหมือนบันทึกในสตูดิโอ ทำให้วิดีโอที่ถ่ายด้วย iPhone 16e ไม่เพียงแต่มีคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม แต่ยังมาพร้อมระบบเสียงที่โดดเด่นอีกด้วย

เชื่อมต่อไร้ขีดจำกัดด้วยเครือข่ายที่เร็วและเสถียรที่สุด

iPhone 16e มาพร้อมโมเด็ม C1 ซึ่งเป็นโมเด็มรุ่นแรกที่ออกแบบโดย Apple ทำให้รองรับเครือข่าย 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่, การเล่นเกมออนไลน์ หรือการสตรีมวิดีโอความละเอียดสูง ทั้งหมดนี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ฉุกเฉินอย่าง Emergency SOS และ Crash Detection ด้วย

สเปคเบื้องต้นของ iPhone 16e

• ขนาดตัวเครื่อง : 146.7 x 71.5 x 7.8 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 167 กรัม
• หน้าจอแสดงผล : Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532x1170 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 1,200nits
• ชิปเซ็ต : A18 — CPU แบบ 6-core มีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ + GPU แบบ 4-core + Neural Engine แบบ 16-Core
• รองรับ Apple Intelligence
• ระบบปฏิบัติการ : iOS 18
• กล้องหลัง : Fusion 48MP พร้อมไฟแฟลช LED ระยะโฟกัส 26 มม. รูรับแสง f/1.6 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Optical รองรับภาพถ่ายความละเอียดสูงพิเศษ (24MP และ 48MP) มีเลนส์เทเลโฟโต้ในตัว ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัส 52 มม. รูรับแสง f/1.6 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Optica ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 10 เท่า
• กล้องหน้า : TrueDepth ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.9
• Face Time : ความละเอียดสูงสุด FullHD (1080p)
• รองรับไฟล์วิดีโอ : HEVC, H.264, MPEG-4 Part 2 และ Motion JPEG
• รูปแบบไฟล์เสียงที่รองรับ : AAC, MP3, Apple Lossless, FLAC, Dolby Digital, Dolby Digital Plus และ Dolby Atmos
• เครือข่าย : 5G / 4G LTE / 3G / 2G รองรับ NanoSIM + eSIM หรือ eSIM+eSIM
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC, GPS, พอร์ต USB Type-C 3.0
• ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo รองรับ Apple Lossless, Dolby Atmos
• มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
• รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว สามารถชาร์จได้สูงสุด 50% ในระยะเวลา 30 นาที ด้วยอะแดปเตอร์ขนาด 20 วัตต์ (ต้องซื้อแยก), ชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi สูงสุด 7.5 วัตต์
• พอร์ต : USB Type-C สำหรับชาร์จ, ถ่ายโอนข้อมูล และใช้เป็น Display Port มีมาตรฐานความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล 480Mb/s

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

 iPhone 16e ที่ทาง Siamphone ได้มารีวิวในวันนี้จะเป็นสีดำ มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 146.7 x 71.5 x 7.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 167 กรัม มาพร้อมหน้าจอ Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 1,200nits หน้าจอได้รับการปกป้องด้วยกระจก Ceramic Shield ที่มีความแข็งแรงและทนทานสูง ด้านบนของหน้าจอ ยังคงดีไซน์รอยบาก ไม่มี Dynamic Island มาพร้อมกล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12MP และแผงเซนเซอร์สำหรับ FaceID เหนือขึ้นไปบริเวณขอบจอเป็นลำโพงเสียง โดยที่รอบเครื่องประกอบไปด้วย

• ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ
• ด้านซ้ายของตัวเครื่อง เรียงจากบน-ล่าง บนสุดเป็นปุ่ม Action ถัดมาเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง และล่างสุดเป็นช่องใส่ซิมกาดแบบ Nano SIM
• ด้านขวาตัวเครื่องมีเพียงปุ่ม Power สำหรับล็อคและเปิด-ปิดหน้าจอ จะไม่มี Camera Control เหมือนกับรุ่นอื่นใน iPhone 16 Series
• ด้านล่างของตัวเครื่อง มาพร้อมพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง ประกบซ้าย-ขวาด้วยช่องลำโพงเสียงและไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
• ด้านหลังของตัวเครื่องจะพบกับกล้องหลังแบบ Fusion 48MP มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Optical รองรับภาพถ่ายความละเอียดสูงพิเศษ (24MP และ 48MP) พร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนและไฟแฟลช LED

ราคาและการวางจำหน่าย

iPhone 16e มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำและสีขาว วางขายอย่างเป็นทางการบนเว็บไซต์ของ Apple ประเทศไทยและตัวแทนชั้นนำทั่วประเทศ ราคาและความจุมีดังนี้

• ความจุ 128GB วางจำหน่ายในราคา 22,900 บาท
• ความจุ 256GB วางจำหน่ายในราคา 26,900 บาท
• ความจุ 512GB วางจำหน่ายในราคา 34,900 บาท

อัปเกรดเป็น iPhone รุ่นล่าสุด Apple Trade In ให้เครดิตมูลค่าสูงสุด 3,500 บาท เมื่อลูกค้านำ iPhone 11 มาแลก หรือสูงสุด 4,500 บาท เมื่อลูกค้านำ iPhone 12 มาแลก สามารถรับสิทธิประโยชน์จากข้อเสนอเหล่านี้ได้โดยไปที่ Apple Store Online หรือ Apple Store หากต้องการตรวจสอบมูลค่าของอุปกรณ์ รวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขของ Apple Trade In สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ apple.com/th/shop/trade-in