สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 22 กรกฎาคม 2563

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Infinix Smart 4 Plus ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศอินเดีย โดยมีจุดเด่นที่ความใหญ่ของหน้าจอแสดงผล 6.82 นิ้ว พร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ และแบตเตอรี่ถึง 6,000mAh เรียกว่ามีการอัปเดตสเปคขึ้นมากทีเดียวจาก Infinix Smart 3 Plus ที่เปิดตัวไปในปี 2019

ตัวเครื่องของ Infinix Smart 4 Plus จะใช้วัสดุในการผลิตเป็นโพลีคาร์บอเนต มาพร้อมหน้าจอแสดงผล LCD กว้าง 6.82 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1640x720 พิกเซล) อัตราส่วน 20.5:9 มีดีไซน์รอยแหว่งแบบทรงหยดน้ำ ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และมีไฟแฟลชแบบ Dual-LED สำหรับการเซลฟี่อีกด้วย

ด้านกล้องหลังมาด้วยกันถึง 2 เลนส์ โดยมีเลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และเลนส์ Depth เพื่อช่วยในการเบลอพื้นหลัง นอกจากนี้ยังมีไฟแฟลชแบบ Triple-LED และมีการทำงานร่วมกับ AI ในการปรับแต่งภาพให้สวยงามขึ้น

สเปคภายในของ Infinix Smart 4 Plus จะถูกขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง MediaTek Helio A25 ใช้ RAM 3GB + ROM 32GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้ ส่วนซอฟแวร์จะใช้ระบบปฏิบัติการ XOS 6.2 บนพื้นฐาน Android 10 ทั้งนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000mAh โดยทาง Infinix เคลมไว้ว่า สามารถดูวิดีโอติดต่อกันได้ 23 ชั่วโมง, เล่นเพลงติดต่อกันได้ 44 ชั่วโมง และเล่นเกมติดต่อกันได้ 15 ชั่วโมง

สเปคทั้งหมดของ Infinix Smart 4 Plus

  • ขนาดตัวเครื่อง : 717.82 x 77.96 x 8.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 207 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : LCD กว้าง 6.82 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1640x720 พิกเซล) อัตราส่วน 20.5:9 และมีดีไซน์รอยแหว่งแบบทรงหยดน้ำ
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Helio A25 แบบ 12 นาโนเมตร Octa-Core
  • RAM : 3GB
  • ROM : 32GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้
  • ระบบปฏิบัติการ : XOS 6.2 บนพื้นฐาน Android 10
  • กล้องหลัง 2 เลนส์ : 13 ล้านพิกเซล + เลนส์ Depth พร้อมไฟแฟลชแบบ Triple-LED
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช Dual-LED
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนลายนิ้วมือหลังตัวเครื่อง, สแกนใบหน้า
  • ระบบเสียง : DTS-HD
  • เครือข่าย : รองรับซิมแบบ Nano SIM 2 ช่อง แบบ 4G VoLTE
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.2, GPS, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต Micro USB
  • แบตเตอรี่ : 6,000mAh รองรับการชาร์จ 10W

สุดท้าย Infinix Smart 4 Plus จะมีให้เลือกด้วยกัน 4 สีคือ Midnight Black, Ocean Wave, และ Violet โดยมีราคาอยู่ที่ 7,999 รูปี หรือประมาณ 3,500 บาท จะเริ่มวางขายในประเทศอินเดียวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ส่วนในประเทศไทยต้องรอลุ้นกันต่อไป

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่