Vivo X80 และ X80 Pro ใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปจาก 2 ค่าย พร้อมกล้องพัฒนากับ ZEISS เหมือนเดิม

Vivo ในประเทศจีนทำการเปิดตัว Vivo X80 Series สมาร์ทโฟนตัวแรงที่มีความโดดเด่นในเรืองของสเปค และกล้องถ่ายรูปที่มีการร่วมพัฒนากับแบรนด์ ZEISS โดยในปี 2021 รุ่น Vivo X70 Series ทำไว้ได้ดีพอสมควร และได้รับความสนใจในประเทศไทยมากๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่ง Vivo X80 Series ก็มาเพื่อสานต่อรุ่นก่อน พร้อมเปิดตัวในช่วงแรกด้วยกันถึง 2 รุ่นคือ Vivo X80 Pro และ Vivo X80

Vivo X80 Pro
สำหรับ Vivo X80 Pro ที่เปิดตัวในประเทศจีน จะมีชิปเซ็ตให้เลือกใช้งาน 2 เวอร์ชั่นคือ Qualcomm 8 Gen 1 และ MediaTek Dimensity 9000 ส่วนการวางขายแบบ Global ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า จะมีให้เลือก 2 แบบเหมือนในประเทศจีนหรือไม่ ส่วน RAM สูงสุด 12GB LPDDR5 และ ROM สูงสุด 512GB UFS 3.1 รันบนระบบปฏิบัติการ OriginOS บนพื้นฐาน Android 12

หน้าจอแสดงผลจัดเต็มด้วยพาแนล E5 AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3200x1440 พิกเซล) ปรับอัตรา Refresh RAte สูงสุดได้ที่ 120Hz และมีเทคโนโลยี LTPO 2.0 ช่วยในการปรับอัตรา Refresh Rate ตามความเหมาะสมในการใช้งาน ได้ตั้งแต่ 1Hz จนถึง 120Hz นอกจากนี้หน้าจอยังรองรับการสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Ultrasonic พร้อมกับพื้นที่การสแกนที่มากขึ้นถึง 38.7%

ต่อกันที่กล้องถ่ายรูป ซึ่งเป็นจุดเด่นตั้งแต่ Vivo X70 Series โดย Vivo X80 Pro มีการพัฒนากล้องร่วมกับแบรนด์เลนส์กล้องชื่อดังอย่าง ZEISS และกล้องทุกเลนส์มีการเคลือบด้วยเทคโนโลยี ZEISS T* ช่วยให้ภาพที่ถ่ายออกมาดูชัดเจน และรับแสงได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีชิป Vivo V1 + ISP ช่วยในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยอีกแรง

สำหรับกล้องหลังถูกติดตั้งมา 4 กล้อง ประกอบไปด้วยกล้องหลัก เซนเซอร์ Samsung ISOCELL GNV ขนาด 1/1.3 นิ้ว ความละเอียด 50MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 48MP, เลนส์ Pro Portrait เซนเซอร์ Sony IMX663 ความละเอียด 12MP พร้อมระบบกันสั่น OIS และเลนส์ Ultra-Telephoto ความละเอียด 8MP ในขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 32MP

รายละเอียดอื่นๆ จะมีระบบระบายความร้อนด้วยแผ่น Vapor Chamber ขนาดใหญ่ ลำโพงคู่ Stereo ใช้ชิปเสียง HiFi ตัวเครื่องได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 รองรับ NFC และมีแบตเตอรี่ขนาด 4,700mAh สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 80W และชาร์จไร้สาย 50W

Vivo X80 Pro ทั้งรุ่น Qualcomm หรือ MediaTek ก็จะมีมีให้เลือก 3 สีคือ สีดำ, สีส้ม และสีเขียว โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5,499 หยวน หรือประมาณ 28,500 บาท ส่วนการขายแบบ Global ยังไม่มีกำหนดออกมา แต่แว่วๆ มาว่าเตรียมเดินทางเปิดตัวในประเทศไทยเร็วๆ นี้

Vivo X80
รูปร่างดีไซน์ของ Vivo X80 ยังคล้ายๆ Vivo X80 Pro แต่จะมีขนาดตัวเครื่องที่เล็กลงมาหน่อย ส่วนชิปเซ็ตจะมีให้เลือกเพียง MediaTek Dimensity 9000 เพียงอย่างเดียว และหน้าจอแสดงผล E5 AMOLED จะมีขนาดเล็กลงเหลือ 6.78 นิ้ว แต่ยังมีอัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz พร้อมเทคโนโลยี LTPO 2.0

กล้องหลังยังมีการจับมือกับแบรนด์ ZEISS และเคลือบ ZEISS T* เช่นเดิม แต่ก็มีการเปลี่ยนเซนเซอร์ใหม่ และกล้องหลังมี 3 เลนส์ โดยกล้องหลักใช้เซนเซอร์ Sony IMX866 ขนาด 1/1.49 นิ้ว พร้อมกันสั่น OIS ความละเอียด 50MP, กล้อง  Ultra-Wide ความละเอียด 12MP, และกล้อง Pro Portrait ความละเอียด 12MP ในขณะที่กล้องหน้า ยังมีความละเอียด 32MP เหมือนเดิม

ข้อมูลอื่นๆ Vivo X80 มีแบตเตอรี่ลดลงมาเล็กน้อยที่ 4,500mAh สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 80W และตัดการชาร์จไร้สายออก ไม่มีมาตรฐาน IP68 และใช้การสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบเก่า หรือแบบ Optical

Vivo X80 มีให้เลือก 3 สีเหมือนตัว Pro คือ สีส้ม, สีดำ และสีเขียว โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 3,699 หยวน หรือประมาณ 19,200 บาท ส่วนการวางขายแบบ Global ยังไม่มีกำหนดออกมา แต่ในประเทศไทยอาจจะมาเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นรุ่น Vivo X80 หรือ Vivo X80 Pro

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  สรุปจุดเด่นและสเปค HONOR 90 5G กล้อง 200MP เน้นกล้อง ช็อตไหนก็ปัง ฟรีหูฟังไร้สาย!!
• 
  ทำความรู้จัก Samsung Galaxy A25 5G หน้าจอ 120Hz ลำโพงสเตอริโอ Dolby ATMOS ราคาไทยหมื่นต้นๆ

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่