[คัมภีร์] มือถือปี 2023 ต้องซื้อแบบไหน? 5G จำเป็นไหมต่อเราจริงไหม รวมทุกข้อมูลไว้ให้แล้ว

สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ไว้ใช้งาน บทความนี้จะช่วยแนะนำให้คุณช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าอะไรที่จำเป็นบ้าง ในการที่เราต้องเลือกรุ่นใดรุ่นหนึ่ง โดยมือถือปี 2023 ต้องซื้อแบบไหน แล้ว 5G จำเป็นไหม แค่ไหนที่เรียกว่าจำเป็นต้องมี ส่วนสายเกม สเปคมือถือเล่นเกมเป็นอย่างไรบ้าง มาอ่านคัมภีร์เล่มนี้กัน แล้วอย่าลืม Save เก็บไว้ด้วยนะ! จะอัปเดตตลอด

ข้อสงสัยที่ว่า ไม่ใช้ 5G แล้วเชยไหม 5G สำคัญมากน้อยแค่ไหน แล้วจำเป็นในชีวิตประจำวันหรือไม่?

คำตอบ : สำหรับ 5G อย่างที่ใครๆ ทราบกันมีประโยชน์ในแง่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การเชื่อมต่อไม่ติดขัด แค่พฤติกรรมใช้งานระหว่างวัน ใช้ทั่วไป เล่นเกม หรือเล่นโซเชียล อินเทอร์เน็ต 5G นั้นแทบไม่จำเป็นเลย หรือรับชมซีรีย์ความละเอียดสูง ถ้าไม่ได้ใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตไม่จำกัด คุณจะไม่เหลืออินเทอร์เน็ตไว้ใช้งานสิ้นเดือนแน่นอน

ในทางกลับกันการใช้งานข้างต้นจะเหมาะกับอินเทอร์เน็ต 4G LTE มากกว่า เพราะราคาแพ็กเกจอย่างน้อยก็ราคาถูกกว่า อีกทั้งสมาร์ทโฟนที่เราต้องเลือกซื้อจะมีตัวเลือกกว้างขึ้น ไม่ต้องซื้อรุ่นแพงๆ มาใช้งานเกินความจำเป็น แม้ปัจจุบันราคาไม่เกินหมื่นของ 5G มีให้จับจองเป็นเจ้าของ แต่ชิปเซ็ตก็ไม่เร็วแรง ถ้าเลือกสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้แค่ 4G LTE ดูจะคุ้มค่ากว่ามาก

จากข้อความข้างต้น หากใครยังนึกภาพไม่ออกเปรียบเทียบง่ายๆ

ราคาแพ็กเกจ 5G แบบไม่จำกัด (Unlimited) ราคา 1,5xx++ ต่อเดือน หากคุณมีงบถึงและใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตดังกล่าว การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนอย่างน้อยต้องราคา 20,xxx ขึ้นไป ด้วยปัจจัยช่วงราคานั้นมีประสิทธิภาพการใช้งานสูงทั้งแง่สเปคและจุดเด่น มีความสอดคล้องกัน เช่น ประสิทธิภาพหน้าจอหรือชิปเซ็ตประมวลผล

หากไม่เลือก Unlimited และคุณเปิดใช้งาน YouTube หรือสตรีมมิ่งคอนเทนต์ต่างๆ รับรองอินเทอร์เน็ตคุณไม่เหลือถึงสิ้นเดือนแน่นอน ดังนั้นต้องถามตนเองใช้งาน 5G เพราะอะไร เหมาะและจำเป็นสำหรับคุณแล้วหรือยัง ?

วิธีการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน Android ปี 2023 ต้องดูอะไรบ้าง?

เผื่อบ้างท่านยังไม่ทราบสมาร์ทโฟน Android คืออะไร สำหรับสมาร์ทโฟน Android เป็นแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ หากเปรียบเทียบง่ายๆ คือ Windows บนคอมพิวเตอร์นั่นเอง เช่น Windows 10 หรือ Windows 11 หากสมาร์ทโฟน Android ปัจจุบันก็จะเป็นเวอร์ชั่น Android 12 และ Android 13 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ควรซื้อมาใช้งานเท่านั้น ห้ามต่ำกว่านี้...

1. ระบบปฏิบัติการ Android มีอัปเดตไหม : มองย้อนกลับไปในอดีตหลายๆ รุ่น ซื้อแล้วโดนลอยแพจบแน่นอน แต่ช่วง 1-2 ปีมานี้ หลายๆ แบรนด์ต่างเน้นการอัปเดตมากขึ้น ทว่าไม่ใช่กับทุกรุ่น อย่างน้อยหากคุณสนใจรุ่นไหน คุณควรศึกษาว่า รุ่นนี้ได้ไปต่อไหม อย่างน้อยก็ใช้เวอร์ชั่นแอนดรอยด์ล่าสุดเสมอ

2. Bloatware : ปัจจัยสำคัญทำให้สมาร์ทโฟนของคุณทำงานช้า ถูกติดตั้งจาก UI ของแบรนด์นั้นๆ ก่อนซื้อลองเล่นก่อน มีแอปฯ อื่น ติดตั้งมาเกินความจำเป็นหรือไม่ หากเยอะมาก แนะนำให้มองข้าม นอกจากไม่ได้ใช้งานแล้ว ยังเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งานด้วย

3. 5G หรือ 4G LTE : อย่างที่เปรียบเทียบข้างต้น ปัจจัยสำคัญคือราคาแพ็กเกจและลักษณะการใช้งาน จะช่วยจำกัดรุ่นสมาร์ทโฟนได้แคบขึ้น

4. ชิปเซ็ตประมวลผล : ปัจจุบันมีตัวเลือกมากขึ้น แต่ที่เห็นส่วนใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา จะเหลือแค่สองฝั่งแล้วคือ Qualcomm Snapdragon กับ MediaTek เพิ่มเติมด้วยชิปเซ็ต Unisonic แต่ประสิทธิภาพยังไม่สูงเท่าประเภทสองชิปเซ็ตข้างต้น คำถามคือระหว่าง Snapdragon กับ MediaTek ควรเลือกอะไรดี?

คำตอบ : คงต้องหาคำตอบด้วยการนำชื่อชิปเซ็ตไปค้นหาใน Google ซึ่งมีเว็บไซต์ทดสอบอยู่ ปัจจัยหลักในการดูคือ ความเร็ว Clock Speed กับ GPU Speed เท่านั้น หากรุ่นไหนที่คุณหมายตาไว้ ใช้วิธีนี้ได้เลย เช่น Snapdragon 778G+ vs MediaTek Helio G99 เป็นต้น

5. หน้าจอแสดงผล : ขนาดหน้าจอแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ทว่าความละเอียด ขั้นต่ำต้องเป็นความละเอียด HD+ หากแย่กว่านั้นคือสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าและคุณกำลังถูกหลอกให้ซื้อ นอกจากนี้อัตรารีเฟรช 60Hz-90Hz ถ้ามองหารุ่น 90Hz จะดีมาก อย่างน้อยช่วยลดอาการเมื่อยล้าสายตาจากการใช้งาน ส่วนประเภทหน้าจอ LCD-IPS-OLED-AMOLED ในปี 2023 นี้ คุณต้องเลือกซื้อประเภทหน้าจอ IPS-OLED-AMOLED โดย LCD ถือว่าเก่ามากเกินไป สีสันจืดไม่เหมาะกับยุคปัจจุบัน สรุปวิธีการเลือกสเปคหน้าจอ

• ประเภทหน้าจอ : IPS-OLED-AMOLED
• ความละเอียด : ขั้นต่ำ HD+
• อัตรารีเฟรชเรท : 90Hz
• ความสว่างหน้าจอ : มากกว่า 350nits เอาไว้สู้แดดกลางแจ้งนะ แดดบ้านเราแรงมาก เผื่อโอกาสไหนอยู่กลางแจ้งแล้วต้องใช้ ระวังหน้าจอไม่สู้แสง จะมองอะไรไม่เห็นที่หน้าจอ

6. RAM กับพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) : สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ควรมี RAM ขั้นต่ำ 4GB หรือเหมาะสมคือ 6GB จะเป็นสเปคที่เหมาะสม หากเป็นไปได้ควรมองรุ่นที่มีสเปค 6GB เพราะ 4GB ถือว่าไม่เหมาะสมต่อการใช้งานระยะยาว

พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) ควรต้องใช้ 64GB เป็นขั้นต่ำ แค่รูปหรือเพลง ก็ไม่พอจะใช้แล้ว เนื่องจากแอปพลิเคชั่นในปัจจุบัน กินพื้นที่เก็บข้อมูลอย่างมาก รวมถึงเหล่าแอปฯ โซเชียลต่างๆ อีกด้วย ทางที่ดีควรเป็นรุ่นพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB

สรุป : สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ควรเลือกซื้อ RAM 6GB+ROM 128GB

7. แบตเตอรี่ขั้นต่ำควรมีเท่าไหร่ : เหมือนความจุแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนหลายๆ แบรนด์จะอยู่ที่มาตรฐานความจุ 5000mAh ซึ่งหากไม่ได้ใช้งานหนักวัน ในหนึ่งวันก็น่าจะเพียงพอแล้ว ดังนั้นหากจะซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องหนึ่งคุณควรหารุ่นที่มีแบตฯ ความจุดังกล่าว พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว หากไม่มีเลย ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่จะนานมาก

สรุป : ควรหารุ่นสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh หรือมากกว่า พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว จะมากน้อยแค่ไหนก็ขอให้มี ดีกว่าไม่มีเลย

ข้อควรรู้ : อะแดปเตอร์และสายชาร์จ ควรใช้ยี่ห้อมาตรฐานเป็นที่รู้จักและเชื่อถือปลอดภัยได้ หลีกเลี่ยงการซื้อจากแหล่งที่ไม่รู้ที่มา เพราะอาจเป็นความสุ่มเสี่ยงทั้งแง่ทรัพย์สินและความปลอดภัย

8. กล้องถ่ายภาพ : คิดว่าในเทรนด์ปี 2023 อาจยังไม่มีข้อแตกต่าง จนต้องนำมาเป็นปัจจัยในการซื้อ ซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละคนเลย ไม่ว่าจะเป็นสเปคกล้อง, ฟีเจอร์การถ่ายภาพ หรือการบันทึกวิดีโอ ทุกอย่างใกล้เคียงกันหมด

9. พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน : มาถึงเวลานี้ เราต้องเลิกมองหาสมาร์ทโฟนที่ยังใช้พอร์ต MicroUSB 2.0 ได้แล้ว เพราะเทรนด์ในอนาคตตามประกาศของต่างประเทศ จะต้องใช้พอร์ตแบบเดียวเท่านั้นคือ USB Type-C แม้ยังไม่ใช่ในเวลาอันใกล้นี้ แต่ถ้าคุณกะจะใช้งานสมาร์ทโฟนที่เล็งไว้ 3-4 ปี ก็เปลี่ยนความคิดได้เลย

10. ชอบใช้เคส ต้องเลือกแบรนด์ตลาดๆ และได้รับความนิยม : คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนมาไวไปไวมาก รุ่นที่คุณเพิ่งซื้อ บางทีอีกไม่กี่เดือนก็เปิดตัวใหม่แล้ว นั่นหมายความคุณตกรุ่นโดยทันที จากที่เคยมีตัวเลือกเคสมากๆ สักพักก็หมดตลาด หาซื้อแทบไม่ได้ ถ้าเป็นคนชอบใช้เคสมากๆ เปลี่ยนบ่อย แนะนำว่าควรเลือกแบรนด์ที่ได้รับความนิยม จะหาเคสได้ง่ายกว่า

ปิดท้ายด้วยประเด็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของแบรนด์นั้นๆ ว่ามีในพื้นที่ที่คุณอยู่หรือไม่ อย่างน้อยเผื่อว่าสมาร์ทโฟนคู่ใจของคุณเป็นอะไร จะได้นำไปให้ศูนย์บริการตรวจสอบได้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเหตุผลข้างต้นที่หยิบยกมาเล่าสู่กันฟัง มีหลายๆ ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ไม่เหมือนในอดีตแล้ว เพราะปัจจุบันมีตัวเลือกเทียบมากขึ้น อะไรที่คุ้มค่า อะไรที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์เราก็จัดได้เลย ไม่ต้องจ่ายแพงก็ใช้งานได้เหมือนกันนะ ถ้าเราคิดว่าตรงใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  รีวิว HUAWEI MatePad Pro 13.2” ชิป Kirin 9000W จอใหญ่สะใจ ดีไซน์บางเบา ครอบคลุมทุกการใช้งาน คุณภาพระดับโปร
• 
  Infinix HOT 40 Pro เปิดตัวในไทย โดดเด่นด้วยกล้อง 108MP มีจอใหญ่รีเฟรชสูง

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่