Apple iPad (7th Generation) เพื่อการศึกษา มาพร้อมราคาที่ย่อมเยาว์ เหมาะกับนักเรียกและนักศึกษา หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นการใช้งาน ขนาดกำลังพอเหมาะ ไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป ด้วยวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ตามคอนเซิปต์รักโลกของ Apple
Apple iPad (7th Generation) หน้าจอกว้าง 10.2 นิ้ว ใช้ขุมพลังตัวแรงอย่าง A10 Fusion ที่เป็นสถาปัตยกรรม 64 บิต ดีไซน์แบบ 4 คอร์ และยังรองรับอุปกรณ์เสริมทั้ง Apple Pencil และ iPad Smart Cover เรียกได้ว่า iPad เครื่องเดียว สามารถแทนคอมพิวเตอร์พีซีได้เลย
รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design
รูปทรงดีไซน์ของ Apple iPad (7th Generation) มีการออกแบบเหมือนกับรุ่นที่ผ่านๆ ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมขอบมนทั้ง 4 ด้าน ไม่สามารถเปิดฝาหลังได้ โดยมีขนาดตัวเครื่อง 250.6 × 174.1 × 7.5 มิลลิเมตร สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular น้ำหนักตัวอยู่ที่ 493 กรัม และสำหรับ รุ่น Wi-Fi น้ำหนักตัวอยู่ที่ 483 กรัม
หน้าจอแสดงผล Retina Multi-Touch แบ็คไลท์แบบ LED ขนาด 10.2 นิ้ว ความละเอียด 2160 x 1620 พิกเซล ความละเอียดพิกเซลอยู่ที่ 264 พิกเซลต่อนิ้ว พร้อมเคลือบสารลดรอยนิ้วมือ และยังรองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
ด้านบนหน้าจอ มีกล้องเซลฟี่ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ใช้ไฟแฟลชแบบ Retina Flash (แสงจากหน้าจอ) บันทึกวิดีโอได้สูงสุดระดับ HD 720p
ด้านล่างหน้าจอ มีปุ่มโฮมอยู่ตรงกลาง โดยปุ่มโฮมยังเป็นที่สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกเข้าใช้งานเครื่องอีกด้วย
ฝั่งซ้ายตัวเครื่องมี Smart Connector ไว้สำหรับรองรับ Smart Keyboard ขนาดมาตรฐาน
ฝั่งขวาตัวเครื่อง มีปุ่มลดและเพิ่มเสียงอยู่ด้านบน ส่วนข้างล่างเป็นช่องใส่ถาดซิม (จะมีเฉพาะรุ่น Wi-Fi + Cellular) โดยถาดซิมรองรับซิมแบบ Nano ซิม เพียงซิมเดียวเท่านั้น และยังรองรับ eSIM
ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง มีลำโพงเสียงคู่ และตรงกลางระหว่างลำโพงเป็นช่องเสียบสาย USB Lightning สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่หรือโอนถ่ายข้อมูล
ส่วนบนตัวเครื่อง มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรอยู่ทางซ้ายสุด ตรงกลางเป็นรูไมโครโฟนสำหรับตัดสัญญาณรบกวน และขวาสุดเป็นปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิดและปิดเครื่อง รวมถึงพักหน้าจอ
มากันที่ด้านหลังตัวเครื่อง มีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลอยู่ข้างบนทางซ้าย ส่วนตรงกลางที่เป็นแถบที่ดำจะมีไมโครโฟนตัดสัญญาณรบกวน สุดท้ายตรงกลางตัวเครื่องมีโลโก้ Apple สีเงาสะท้อนแสงแปะอยู่
อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับกล่อง
ขนาดตัวเครื่อง : 250.6 × 174.1 × 7.5 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 493 กรัม
หน้าจอแสดงผล : Retina 10.2 นิ้ว ความละเอียด 2160 x 1620 พิกเซล ความละเอียดพิกเซล 264ppi พร้อมเคลือบสารลดรอยนิ้วมือ
หน่วยประมวลผลหลัก : A10 Fusion สถาปัตยกรรม 64 บิต ดีไซน์แบบ 4 คอร์ ทำงานร่วมกับชิป M10
ROM : 32GB และ 128GB
กล้องหลัง : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 พร้อมระบบป้องกันการสั่นไหว
กล้องหน้า : ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ไฟแฟลช Retina
ระบบปฏิบัติการ : iPadOS 13
เครื่อข่ายเซลลูลาร์และระบบไร้สาย
- Wi-Fi (802.11a/b/g/n/ac), สองย่านความถี่ (2.4GHz และ 5GHz), HT80 พร้อม MIMO
- เทคโนโลยี Bluetooth 4.2
- UMTS/HSPA/HSPA+/DC‑HSDPA (850, 900, 1700/2100, 1900, 2100 MHz); GSM/EDGE (850, 900, 1800, 1900 MHz)
- CDMA EV‑DO Rev. A (800, 1900 MHz)
- LTE (ย่านความถี่ 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 12, 13, 17, 18, 19, 20, 25, 26, 28, 29, 30, 38, 39, 40, 41)
- การโทรผ่าน Wi-Fi
ระบบเสียง
- การตอบสนองย่านความถี่: 20Hz ถึง 20,000Hz
- รูปแบบไฟล์เสียงที่รองรับ: AAC (8 ถึง 320 Kbps), Protected AAC (จาก iTunes Store), HE-AAC, MP3 (8 ถึง 320 Kbps), MP3 VBR, Dolby Digital (AC-3), Dolby Digital Plus (E-AC-3), Audible (รูปแบบ 2, 3, 4, Audible Enhanced Audio, AAX และ AAX+),
Apple Lossless, AIFF และ WAV
- ผู้ใช้สามารถกำหนดระดับเสียงสูงสุดเองได้
แบตเตอรี่ : 8827mAh
ระบบปฏิบัติการ iPadOS 13
หน้าจอหลัก / Control Center / การแจ้งเตือน
หน้าจอหลักและอินเตอร์เฟสส่วนต่างๆ ยังคงมีหน้าตาไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก ส่วนแถบ Dock ที่อยู่ทางด้านล่างยังมีไอคอนเครื่องมือให้เรียกใช้งานได้สะดวกขึ้นเหมือนเดิม iPadOS นอกจากจะให้เป็นระบบเพื่อ iPad โดยเฉพาะแล้วยังมีหน้าที่สำคัญอีกอย่างคือ การสะท้อนภาพหน้าจอ จากอุปกรณ์พกพาส่งไปยังอุปกรณ์ตั้งโต๊ะอย่าง iMac เพื่อให้เห็นภาพที่ใหญ่ขึ้นตามขนาดหน้าจอของอุปกรณ์อีกด้วย จะเห็นได้ว่าในส่วน Control Center เพิ่มแถบไอคอน "การสะท้อนภาพหน้าจอ" ขึ้นมาเพิ่มเติม เพื่อให้ iPad และ Mac สามารถทำงานร่วมกันบนหน้าจอเดียวกันได้ ทั้งนี้การทำงานของอุปกรณ์ทั้งสองนี้จะแยกการเรียกใช้ออกจากกัน โดยเราสามารถเลือกเปิดแอพฯ อื่นๆ ได้ และทั้งหมดที่กล่าวมานี้ อุปกรณ์ทั้งสองจะต้องอัพเดตเป็น iPadOS และ macOS Catalina ก่อนแล้วเท่านั้น
ความสามารถของ iPadOS 13
แน่นอนว่า iPadOS 13 ระบบปฎิบัติการใหม่ที่ Apple ปล่อยออกมาใช้งานเฉพาะกับ iPad เท่านั้น แต่ทว่ามีพื้นฐานการทำงานมาจาก iOS ที่มีใช้งานอยู่ใน iPhone สำหรับความสามารถที่ปรับมาใหม่คือ การใช้งาน Multitasaking , แถบ Dock ที่ปรับใหม่ และความสามารถอื่นๆเพิ่มเติมอ่านได้ที่
ความสามารถของ iPadOS
App Store สำหรับ iPad
ด้วยหน้าตา App Store ที่ออกแบบมาใหม่ในการเลือกดาวน์โหลดตามประเภท สำหรับอุปกรณ์พกพาจาก Apple เพราะเป็นแหล่งรวมซื้อและดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อมาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ iPad และ iPhone แต่สำหรับ iPad ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้แอพฯ ต่างๆ ต้องถูกออกมาแบบมาเป็นพิเศษ ซึ่งตอนนี้ก็มีแอพฯ มากกว่าหนึ่งล้านแอพฯ ที่ออกแบบมาเพื่อ iPad และยังมีการออกแบบหน้าตาอินเตอร์เฟสภายใน App Store ให้ใช้งานง่ายขึ้น ที่โดดเด่นเลยก็จะเป็น Arcade ที่มีให้เลือกกว่า 100 เกม
รองรับระบบ Wifi + Cellular ออนไลน์ได้ทุกทีไม่มีข้อแม้
ด้วยรุ่นที่มารีวิวเป็นรุ่น
Apple iPad (7th Generation) Wi-Fi + Cellular ทำให้สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi และอินเตอร์เน็ตสัญญาณมือถือ ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วงเลยว่าจะอยู่ที่ไหน โดย Wi-Fi จะมีความเร็วสูงสุดที่ 866Mbps และ 4G LTE จะมีความความเร็วสูงสุด 300Mbps
การทดสอบความเร็ว และการแสดงผลของเครื่อง
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark ได้ 259,938 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3D Marks (Sling Shot Extreme) 2,590 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด
มาพร้อมชิปเซ็ต A10 Fusion
การทำงานทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยความลงตัวระหว่างชิปเซ็ต A10 Fusion และระบบปฏิบัติการ iPadOS 13 ไม่ว่าการทำงานไหนๆ ก็ไม่มีสะดุด โดยเฉพาะการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multitasking) เช่นการแบ่งหน้าจอ ก็ทำงานได้อย่างดีเหมือนเดิม
เทคโนโลยี AR
อุปกรณ์พกพา
Apple iPad (7th Generation) Wi-Fi + Cellular สามารถใช้งาน AR หรือ เทคโนโลยีเสมือนจริง เพื่อการเรียนรู้และตื่นเต้นกับใช้งานผ่านแอพฯ ที่ออกมาใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เช่น แอพฯ Night Sky หรือแอพฯ ท้องฟ้าจำลองแบบส่วนตัวที่จะเห็นกลุ่มดาวต่างๆ ในแบบที่ตื่นตาตื่นใจ เห็นได้ดั่งใจเพียงส่องไปตามจุดต่างๆ
หรือจะสนุกไปกับแอพฯ AR Toy หรือกล้องของเล่น ที่จะทำให้แยกไม่ออกเลยทีเดียวว่าอันนี้จำลองมา เพราะเสมือนจริงมาก และยังสามารถบันทึกรูปลงมาในอัลบั้มได้อีกด้วย
Apple Pencil และ Smart Keyboard
อุปกรณ์พกพา
Apple iPad (7th Generation) Wi-Fi + Cellular ยังรองรับปากกาอัจฉริยะ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) และยังคงคอนเซิปต์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเขียนอยู่บนสมุดโน้ตของจริง แถมยังมีแอพพลิเคชั่นที่รองรับการใช้งานกับ Apple Pencil อีกมากมาย
นอกจากนี้ยังรองรับ Smart Keyboard ขนาดมาตรฐาน ที่ติดตั้งด้วย Smart Connector หรือแถบแม่เหล็กด้านข้าง เพียงนำ Smart Keyboard ไปติดข้างๆ iPad แถบแม่เหล็กจะทำการดูดติดกันทันที ทั้งนี้ Smart Keyboard ไม่ต้อง ชาร์จหรือจับคู่ อะไรทั้งสิ้น และเมื่อใช้งานเสร็จแล้ว ก็สามารถ พับเก็บให้กลายเป็น เคสป้องกันหน้าจอได้ ขนาดพกพาสะดวกและน้ำหนักเบา อีกด้วย
กล้องถ่ายรูป
ด้วยการที่เป็น iPad ทำให้ทาง Apple ดูไม่ค่อยจะเน้นในเรื่องกล้องถ่ายรูปซักเท่าไหร่ โดย
Apple iPad (7th Generation) Wi-Fi + Cellular จะมีกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 สามารถบันทึกวิดีโอได้ในระดับ HD 720p ส่วนกล้องหลัง มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 สามารถบันทึกวิดีโอในความละเอียดสูงสุด HD 1080p พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ ซึ่งดูแล้วคุณภาพกล้องที่ออกมาจะไปในทางติดลบ
โหมดต่างๆ ของกล้อง
สามารถมาปรับแต่งรูปภายหลัง
เมื่อได้ภาพถ่ายมาแล้ว ผู้ใช้งานสามารถกลับมาปรับแต่งรูปภาพนั้นได้จากแอพฯ รูปภาพ ซึ่งจะมีใส่ฟิลเตอร์, ปรับตาแดง, ปรับความสว่าง, ปรับโทนสี, หรือทำเครื่องหมายบนภาพ
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
ความละเอียดของภาพจากกล้องหลัง : 3264x2448 (รูปภาพ), 2448x2448 (จัตุรัส) พิกเซล
ความละเอียดของภาพจากกล้องหน้า : 1280x960 (รูปภาพ), 960x960 (จัตุรัส) พิกเซล
Live Photo : ปิด, เปิด (สีเหลือง)
HDR : เปิด, ปิด
ตัวจับเวลา : ปิด, 10 วินาที, 3 วินาที
ปุ่มสลับกล้องหน้า-หลัง
โหมดกล้อง : รูปภาพ, จัตุรัส, พาโน
คุณสมบัติการถ่ายภาพวีดีโอ
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 1920x1080 ที่ 30fps (วิดีโอ) , 1280x720 ที่ 120fps (สโลว์โมชั่น), 1280x720 (ไทม์แลปส์) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 1280x720 ที่ 30fps (วิดีโอ) พิกเซล
สลับกล้องหน้าและหลัง
ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo
ภาพตัวอย่างกล้องหลัง 1 ภาพตัวอย่างกล้องหลัง 2 ภาพตัวอย่างกล้องหลัง 3 ภาพตัวอย่างกล้องหลัง 4 ภาพตัวอย่างกล้องหลัง 5 ภาพตัวอย่างกล้องหลัง 6