iPad OS กับ 7 ฟังก์ชั่นใหม่ที่ทำให้คุณติดใจ

iPadOS ประกาศให้ดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ Apple ได้บอกไว้ว่า สามารถทำงานได้เร็วกว่า iOS 12 ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Face ID ที่สามารถปลดล็อคได้เร็วขึ้น 30% รวมถึงแอพฯ ต่างๆ จะสามารถเรียกเปิดใช้งานได้เร็วกว่าเดิมถึง 2 เท่า ในวันนี้เราจะขอมาแนะนำ 7 ฟังก์ชั่นใหม่ที่ทำให้คุณติดใจใน iPadOS กัน แต่ก่อนที่จะดูว่ามีฟังก์ชั่นอะไรเด็ดอะไรโดน เรามาทำความรู้จัก iPadOS กันก่อนดีกว่า ว่าคืออะไร!!

iPadOS คือ ระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานอยู่บน iPad โดยเฉพาะ ซึ่งมีการพัฒนามาจากระบบของ iOS ทั้งนี้ iPadOS จะมีโหมดการทำงานบางอย่างที่มีความสามารถคล้ายกับ iOS 13 อาทิเช่น โหมดมืด หรือ Dark Mode รวมไปถึงการตั้งค่าของระบบในส่วนต่างๆ

สำหรับผู้ที่สนใจในส่วนของ iOS 13 สามารถย้อนอ่านข่าวได้ที่ อัพเดต iOS 13 เกริ่นมาพอสมควรแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่าว่า 7 ฟังก์ชั่นใหม่ที่ทำให้คุณติดใจ iPad OS มีอะไรบ้าง

1.หน้าจอโฮม (Home screen)

มีการปรับลุครูปแบบการจัดวางเลย์เอาท์ใหม่ พร้อมจัดเรียงให้ไอคอนแอพฯ เป็นสัดส่วน ดูเป็นระเบียบยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกในการเรียกเปิดใช้แอพฯ และยังเพิ่มฟีเจอร์ปักมุดวิดเจ็ตให้เป็นรายการโปรดสำหรับเราได้โดยเฉพาะ

2.งานมัลติทาสก์ (Multitasking)

สามารถใช้งาน Multitasking สะดวกขึ้น สำหรับฟีเจอร์ Slide Over เรียกใช้เพื่อเลือกขยายแอพฯ ดู หรือเลือกเปิดสลับไปมาระหว่างแอพฯ ต่างๆ มีการตอบสนองคำสั่งได้เร็วขึ้น

Split View เรียกใช้งานพร้อมกันภายในแอพฯ เดียวกันได้ เช่น เราสามารถเปิดแอพฯ เพื่ออ่าน และจดโน้ตไปพร้อมกันในอีกฝั่งหนึ่งของแอพฯ เดียวกันได้ทันที

แอพพลิเคชั่น Exposé ฟีเจอร์ที่จะเป็นผู้ช่วยให้ได้รู้ว่า มีหน้าต่างอะไรบ้างที่เปิดค้างไว้ภายในแอพฯ และสำหรับวิธีการใช้งานเพียงแค่แตะที่ไอคอนของแอพฯ นั้นๆ ที่อยู่ตรง Dock ก็จะเด้งเตือนขึ้นมาให้เราเห็นทันที

3.Apple Pencil 

Apple Pencil มีการปรับค่าใหม่ พร้อมลดความหน่วงเป็น 9 มิลลิต่อวินาที เพื่อให้เวลาเราเขียนแล้วรู้สึกเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นให้เหมือนเขียนอยู่บนกระดาษจริงๆ

และตอนนี้สามารถใช้ Apple pencil แคปเจอร์ภาพจากหน้าจอ iPad ได้แล้วทันที โดยวิธีการเพียงแค่ใช้ Apple pencil ลากจากมุมด้านล่างของ iPad มุมใดมุมหนึ่งของหน้าจอ โดยจะเลือกถ่ายทั้งหมดหรือเฉพาะส่วนก็ย่อมทำได้ และยังสามารถเพิ่มข้อความหรือขีดเขียนเครื่องหมายต่างๆ ลงไปในภาพได้เลย พร้อมแชร์ส่งให้เพื่อนได้ทันที

นอกจากนี้แผงเครื่องมือสามารถย้าย ย่อและลากไปด้านใดด้านหนึ่งของหน้าจอได้ ทั้งได้เพิ่มจำนวนถาดสีและรูปทรงเรขาคณิตต่างๆ เข้ามาใหม่ในแผงเครื่องมือนี้ด้วย

4.Files 

แอพฯ Files ออกแบบคอลัมน์ใหม่ ให้สะดวกต่อการเลือกดูไฟล์ในโฟลเดอร์ได้สบายตายิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถแชร์ iCloud Drive ได้แล้ว 

5.การแก้ไขข้อความ (Edit text)

การแก้ไขข้อความ หรือ Edit text ปรับให้ใช้งานคำสั่งนิ้วเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตัด คัดลอก วาง และเลิกทำข้อความหรือประโยคต่างๆ ก็ประหยัดเวลายิ่งขึ้น เช่น แตะที่ประโยคสองครั้งเพื่อเลือกคำหนึ่งคำ หรือแตะสามครั้งเพื่อเลือกทั้งประโยค และแตะสี่ครั้งเพื่อเลือกทั้งย่อหน้า 

วิธีการงานใช้งานคำสั่ง 3 นิ้ว 

• ใช้การหนีบสามนิ้ว เพื่อคัดลอกข้อความหรือประโยคที่ต้องการ

• ใช้การปล่อยสามนิ้ว เพื่อวางข้อความหรือประโยค

• ใช้การปัดสามนิ้วไปทางซ้าย เพื่อยกเลิกการทำ

 

6.คีย์บอร์ด (Keyboard)

คีย์บอร์ด สามารถย้ายและย่อลากไปตามมุมต่างๆ ที่ต้องการได้ (QuickType) เพียงหนีบนิ้วเพื่อย่อคีย์บอร์ดแล้วลากย้ายไปมุมใดมุมหนึ่งของหน้าจอก็ได้

ทั้งนี้ทำให้ไม่รำคาญสายตาและยังเพิ่มพื้นที่ในการทำงานอีกด้วย นอกจากนี้ยังเพิ่มคำสั่งคีย์บอร์ดลัดมาใหม่อีกด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกใช้งานมากขึ้น 

7.Sidecar

Sidecar ออกแบบใหม่ เพื่อให้ iPad และ Mac สามารถทำงานร่วมกันบนหน้าจอเดียวกันได้ เช่น การเลือกเปิดโหมดพรีเซนต์งาน เพื่อให้เห็นภาพที่ในรูปแบบหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ทั้งนี้การทำงานของอุปกรณ์ทั้งสองนี้จะแยกการเรียกใช้ออกจากกัน โดยเราสามารถเลือกเปิดแอพฯ อื่นๆ ได้ในขณะที่ iPad ยังใช้งานในโหมดนำเสนอนั้นอยู่ได้ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ อุปกรณ์ทั้งสองจะต้องอัพเดตเป็น iPadOS และ macOS Catalina ก่อนแล้วเท่านั้น

iPadOS จะติดตั้งมาพร้อมกับ iPad ใหม่ล่าสุด และจะมีให้บริการเป็นฟรีซอฟต์แวร์อัพเดทรุ่นอื่นๆ ได้ในวันที่ 25 กันยายนนี้ สำหรับ iPad Air 2 และรุ่นหลังจากนั้น รวมถึง iPad Pro ทุกรุ่น, iPad รุ่นที่ 5 หรือหลังจากนั้น และ iPad mini 4