การทำงานจะราบรื่นทันทีเมื่อได้สัมผัส Huawei MatePad Pro แท็ปเล็ตคู่ใจสำหรับสายทำงาน รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับเคสคีย์บอร์ด Huawei Smart Magnetic และปากกา Huawei M-pencil เพื่อยกระดับการทำงานให้สะดวกไปอีกระดับ ใช้งานได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุดด้วยชุมพลัง Kirin 990 ไม่พอแค่นั้น Huawei MatePad Pro ยังเป็นแท็บเล็ตที่ใช้งานด้านความบันเทิงได้เช่นกัน ด้วยการเล่นเกมแบบเต็มพลัง และพลังเสียงแบบ 4 ลำโพง ถูกปรับแต่งด้วย Harman Kardon เสียงดังกระหึ่มถูกใจสายบันเทิงอย่างแน่นอน
ตัวเครื่อง Huawei MatePad Pro จะใหญ่ตามฉบับแท็บเล็ต ด้วยขนาด 246x159x7.2 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักถึง 460 กรัม แต่ก็ยังจับใช้งาน 2 มือได้สบายๆ
หน้าจอแสดงผลเป็นจอ LCD กว้าง 10.8 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560x1600 พิกเซล) พร้อมดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรูอยู่มุมบนขวาของหน้าจอ
เหนือหน้าจอแสดงผล จะมีเพียงรอยแหว่งของหน้าจออยู่มุมบนขวา โดยเป็นแบบจอเจาะรู ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ล่างหน้าจอแสดงผล จะไม่มีปุ่มนำทางใดๆ ทั้งสิ้น โดยปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ในหน้าจอแสดงผล หรือจะสั่งการแบบท่าทางก็ได้เช่นกัน
ข้างซ้ายตัวเครื่อง มีช่องสำหรับใส่ถาด NanoSD Card ซึ่งรองรับความจุสูงสุด 256GB และขยับมาตรงกลางจะเป็นแม่เหล็กเพื่อทำการติดกับเคสคีย์บอร์ด
ข้างขวาตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียงทางด้านบน ถัดลงมาด้านล่างเป็นแถบแม่เหล็กสำหรับชาร์จปากกา Huawei M-Pencil
ส่วนบนตัวเครื่อง ทางขวาสุดจะเป็นปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิดปิดเครื่อง หรือพักหน้าจอแสดงผล ถัดมาทางซ้ายเป็นลำโพงเสียง 2 ตัว
ส่วนใต้ตัวเครื่อง จะพบกับพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง และทั้ง 2 ฝั่งซ้ายขวาเป็นลำโพงเสียง
ฝาหลังตัวเครื่อง จะพบกับกล้องหลังอยู่มุมบนซ้ายของตัวเครื่อง ซึ่งมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีไฟแฟลช LED และรูไมโครโฟน ทั้งหมดถูกจัดเรียงกันแบบแนวตั้ง ส่วนสีของฝาหลังจะเป็นแบบสีด้านให้ความพรีเมี่ยมสูง
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สเปคทั้งหมดของ Huawei MatePad Pro
RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
สำหรับตัวเลือก RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในของ Huawei MatePad Pro จะมีตัวเลือกเดียวคือ RAM 6GB + ROM 128GB เมื่อเปิดเครื่องมาครั้งแรกจะพบว่าระบบมีการกินพื้นที่ไปกว่า 14GB ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานจริงๆ ประมาณ 114GB เท่านั้น แต่หากมงว่ายังไม่พอ ก็สามารถเพิ่ม NanoSD Card ได้อีก 256GB
ระบบปฏิบัติการ
Huawei MatePad Pro ก็เป็นอีก 1 รุ่นที่ต้องรับชะตากรรมอดใช้งาน GMS หรือ Google Mobile Service เหมือนกับอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ของ Huawei แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวเครื่องก็ยังรันด้วยระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1.0 บนพื้นฐาน Android 10 ซึ่งมีฟีเจอร์ต่างๆ รองรับการใช้งานได้อย่างเต็มที่ และมีการบริการ HMS หรือ Huawei Mobile Service คอยให้บริการแทน
หน้าจอหลัก
ในส่วนหน้าจอหลัก รูปร่างหน้าตา UI หรือ UX จะมีการดีไซน์ไปตามฉบับ EMUI 10 เหมือนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่รันบน EMUI 10 ซึ่งมีความสวยงามแบบเรียบๆ น่าใช้งาน และสามารถใช้งานได้ง่าย ส่วนอนิเมชั่นการขยับต่างๆ จะดูมีความลื่น และเป็นธรรมชาติมากขึ้น
การควบคุมทิศทาง
ในส่วนการควบคุมเครื่อง หรือการควบคุมทิศทาง เมื่อเริ่มแรก Huawei MatePad Pro จะให้ใช้แบบท่าทางเป็นค่าเริ่มต้น ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งการด้วยการปัดหน้าจอ (จะมีการสอนตอนแรก) แต่หากยังติดการใช้งานปุ่มนำทาง 3 ปุ่มแบบเก่า ก็สามารถเข้าไปปรับเปลี่ยนแบบเดิมได้ที่ การตั้งค่า > ระบบและอัปเดต > การควบคุมทิศทางระบบ
AppGallery
ในเมื่อไม่มีการบริการของ GMS ติดตั้งมาให้ ทำให้ Play Store ก็ไม่มีใน Huawei MatePad Pro ด้วยเช่นกัน ทำให้ทาง Huawei ต้องส่ง AppGallery มาให้ใช้งานแทน เพื่อทำการดาวน์โหลดแอพฯ ต่างๆ แต่ก็ว่ากันตามตรง AppGallery ยังไม่ตอบโจทย์แอพฯ ยอดฮิตในประเทศไทยมากนัก จะมีเพียงแอพฯ จากธนาคารต่างๆ , การท่องเที่ยว, ซื้อของออนไลน์ เป็นต้น ที่เริ่มทะยอยลงมาสู่ AppGallery ให้ดาวน์โหลดกัน อย่างไรก็ตามแอพฯ ที่ไม่มีใน AppGallery ผู้ใช้งานก็สามารถดาวน์โหลดไฟล์แบบ .Apk เพื่อมาติดตั้งด้วยตัวเองได้อยู่
โหมดมืด
โหมดมืดของ EMUI 10 จะช่วยให้ใช้งานได้สบายตามากกว่าปกติ เนื่องจากมีการปรับแต่ง และใช้โทนสีที่เป็นมิตรกับสายตา โดยเฉพาะตัวหนังสือที่ตัดกับสีดำของธีมจะไม่ได้ขาวสว่าง แต่จะขาวแบบสบายตาเมื่อใช้งานตอนกลางคืน หรือที่แสงน้อย
การแบ่งหน้าจอ
ระบบแบ่งหน้าจอของ Huawei MatePad Pro สามารถแบ่งหน้าจอได้อย่างอิสระมากๆ โดยสามารถแบ่งหน้าจอได้ถึง 2 แบบคือ แบ่งหน้าจอเป็น 2 หน้าจอ หรือแบ่งหน้าจอแบบป็อปอัพวินโด้ขึ้นมา ทั้งนี้ยังสามารถใช้ทั้ง 2 อย่างพร้อมกันได้อีกด้วย เรียกว่ามีให้ทำงานพร้อมกันถึง 3 หน้าจอเลยทีเดียว
ที่สำคัญยังมีแถบด้านข้าง เพื่อเปิดแอพฯ ต่างๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องกลับไปที่หน้าจอหลัก ตรงนี้ยังสามารถใช้ช่วยในการแบ่งหน้าจอได้ทันทีอีกด้วย โดยผู้ใช้งานสามารถเพิ่มแอพฯ ต่างๆ ลงไปในแถบด้านข้างตรงนี้ตามที่ต้องการ การใช้งานก็ง่ายๆ เพียงเลื่อนหน้าจอจากด้านข้างแล้วกดนิ้วข้างเอาไว้ แถบด้านข้างก็จะปรากฏขึ้นให้เอง
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
Huawei MatePad Pro เพื่อสายลุยงานโดยเฉพาะ
Huawei MatePad Pro ถือว่าเป็นแท็บเล็ตสำหรับการทำงานอย่างแท้จริง เพราะมีการทำงานที่รวดเร็วจากชิปเซ็ต Kirin 990 พร้อมกับจอใหญ่ใช้ทำงานได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมรอบด้าน ทั้งเคสคีย์บอร์ด Huawei Smart Magnetic เพื่อสายพิมพ์งาน และ Huawei M-Pencil ปากกาอัจฉริยะสำหรับสายกราฟฟิกออกแบบ โดยทั้ง 2 อุปกรณ์มีการเชื่อมต่อกับ Huawei MatePad Pro ที่รวดเร็วมากๆ เพียงทำการติดเข้ากับตัวเครื่อง ระบบก็จะทำการเชื่อมต่อให้ทันที
ปากกา Huawei M-Pencil
สำหรับปากกาอัจฉริยะ Huawei M-Pencil จะมีการดีไซน์แบบ 6 เหลี่ยม ทำให้รู้สึกเหมือนใช้งานดินสอ และใช้วัสดุคอมโพสิตอย่างดีในการผลิต ทั้งนี้ยังมีความไวต่อแรงกดระดับ 4096 เรียกว่าจับถนัดใช้งานลื่นสุดๆ ส่วนการชาร์จก็สามารถนำไปติดกับข้างขวาของตัวเครื่อง Huawei MatePad Pro ก็จะเป็นการชาร์จแขตเตอรี่ทันที สามารถชาร์จเพียง 30 วินาที ก็ใช้งานได้ถึง 10 นาที
เคสคีย์บอร์ด Huawei Smart Magnetic
เพื่อการปรับเปลี่ยนให้ Huawei MatePad Pro เหมือนกับใช้งานแล็ปท็อปอยู่ ทางก็ Huawei ก็มี Huawei Smart Magnetic เคสคีย์บอร์ดสุดเจ๋งไว้ใช้คู่กับ Huawei MatePad Pro ส่วนการเชื่อมต่อก็แสนง่าย เพียงสวมเคสเข้ากับตัวเครื่อง และจับตัวเครื่องข้างซ้ายไว้ทำตัวแหน่ง ระบบก็จะทำการเชื่อมต่อทันทีผ่านระบบไร้สายอย่าง NFC
แต่การใช้งานจริงปรากฏว่า แป้นพิมพ์ยังทำงานไม่สมบูรณ์แบบ เพราะเวลาพิมพ์ภาษาไทยตรงแถบด้านบนสุด (ที่เป็นตัวเลข) กลับไม่สามารถพิมพ์ภาษาไทยจากตรงนั้นได้ แม้เปลี่ยนภาษาแล้วก็ตาม *** เปลี่ยนภาษากด Ctrl + รูปโลก ****
โหมด Desktop
บอกแล้วว่า Huawei MatePad Pro ถูกออกแบบมาเอาใจสายทำงานโดยเฉพาะ เพราะมีการปรับเปลี่ยนโหมดให้เป็นโหมด Desktop มาด้วย ซึ่งหน้าตาตะเหมือนใช้งาน PC หรือแล็ปท็อปมากๆ เพิ่มความสะดวกในการทำงานไปอีกขั้น สามารถเริ่มใช้งานโหมด Desktop ได้ที่ แถบแอพฯ ด่วน (รูปหน้าจอข้างบนลงล่าง) > เลือกเมนูโหมดเดสก์ท็อป
รวมหน้าจอทั้งแท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน
นี้เป็นอีกฟีเจอร์ทีเด็ดของ Huawei MatePad Pro ด้วยการนำหน้าจอสมาร์ทโฟนมาปรากฏในหน้าจอแท็บเล็ต และยังใช้งานต่างๆ พร้อมกันในหน้าจอเดียว ซึ่งวิธีการเริ่้มใช้งานก็แสนง่าย เพียงเปิดสัญญาณ Bluetooth ทั้ง 2 เครื่อง จากนั้นเปิดถาดแอพฯ ด่วน และเลือกเมนู การทำงานร่วมกันแบบหลายหน้าจอ เท่านี้ระบบจะทำการเชื่อมต่อให้อัตโนมัติ (จะต้องเป็นสมาร์ทโฟน Huawei ที่มีระบบปฏิบัติการ EMUI 10 หรือสูงกว่านั้น)
ทดสอบการเล่นเกม
การใช้งานด้านเล่นเกม Huawei MatePad Pro ก็นำมาเล่นเกมได้อย่างไม่มีปัญหา ด้วยขุมพลัง Kirin 990 ผสมกับระบบ GPU Turbo ทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมอยู่ในระดับสูง สามารถนำไปแล้วเกมที่ต้องการสเปคแรงได้ทั้งหมด และยังปรับกราฟฟิกได้ระดับสูงได้อีกด้วย
โดยเกม ROV สามารถปรับกราฟฟิกในระดับสูง พร้อมกันเฟรมเรตระดับสูงได้เช่นกัน ในการตีป้อมจริงๆ ก็ปรากกฏว่าทำเฟราเรตได้อยู่ที่ 59-60fps ตลอดเวลา ไม่ว่าจะตอนเดินแก็งค์ เข้าปะทะแบบทีม ก็ยังไม่มีอาการเฟรมเรตตกให้เห็น
ส่วน PUBG Mobile ก็สามารถปรับกราฟฟิกสูงสุดที่ระดับ HDR HD เลยทีเดียว แล้วยังดันเฟรมเรตได้ระดับ Ultra เรียกว่าได้ทั้งภาพสวย และความลื่นไปพร้อมๆ กัน ส่วนการเล่นจริงก็มีความลื่นเป็นอย่างมาก ไม่มีการอาการกระตุก หรือเฟรมเรตตกตลอดทั้งแมตช์
ความบันเทิงแบบจัดเต็ม
ในการใช้งานความบันเทิงก็ยังให้ความเพลิดเพลินแบบบเต็มสูบ ด้วยหน้าจอแสดงผลสุดกว้างถึง 10.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ WQXGA (2560 x 1600 พิกเซล) ทำให้การรับชมคอนเทนด์วิดีโอมีความพึ่งพอใจระดับสูงเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอด้านระบบเสียง ยังมาพร้อมลำโพงถึง 4 ตัว ถูกปรับแต่งเสียงด้วยแบรนด์ชื่อดังอย่าง Harman Kardon ซึ่งลำโพงเสียงค่อนข้างทรงพลัง และมีมิติในการรับฟังอย่างมาก
การสแกนใบหน้า
ระบบความปลอดภัยของ Huawei MatePad Pro จะมีระบบสแกนใบหน้าให้ใช้งาน ซึ่งการใช้งานก็มีความรวดเร็วมากทีเดียว แต่อาจจะสแกนในที่แสงน้อย หรือในที่มืดได้ไม่ดี เพราะไม่มีเซนเซอร์ IR Camera มาด้วย ทั้งนี้สามารถจดจำใบหน้าได้สูงสุดถึง 5 ใบหน้า
แบตเตอรี่จุใจ 7,250mAh
Huawei MatePad Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7,250mAh ทำให้การใช้งานพื้นฐาน หรือการทำงานมีความราบรื่นตลอดทั้งวัน ส่วนด้านการชาร์จแบตเตอรี่ตัวเครื่องเองจะรองรับการชาร์จสูงสุดที่ 40W แต่น่าเสียดายตรงอะแดปเตอร์ที่แถมมาให้ดันเป็นแบบจ่ายไฟ 20W เท่านั้น ใครที่อยากได้การชาร์จเร็วระดับ 40W จะต้องไปหาซื้อมาเพิ่มเอง
การใช้งานกล้องถ่ายรูป
ความสามารถในการใช้งานกล้องถ่ายรูปของ Huawei MatePad Pro อาจไม่ใช่จุดเด่นอะไรมากนัก เนื่องจากมีกล้องหลังมาเพียงเลนส์เดียว ด้วยความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และมีกล้องหน้าเลนส์เดียวเช่นกัน ด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แต่ยังมีการทำงานรวมกับ AI ในการจดจำซีน เพื่อปรับแต่งภาพให้สวย ส่วนการบันทึกวิดีโอสามารถบันทึกด้วยความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30fps
การถ่ายรูปตอนกลางคืน หรือที่แสงน้อย จะมีโหมดกลางคืนมาให้ใช้งาน แต่จากการใช้งานจริง รูปยังไม่สวยเท่าที่ควร แสงออกเป็นโทนสีส้มๆ และบางซีนมี Noise ปรากฏขึ้นเยอะพอสมควร แต่ก็อย่างว่าตัวเครื่องเหมาะกับการทำงานมากกว่า ทำให้ส่วนนี้ไม่ได้ถูกเน้นมากนัก
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
ขอขอบคุณ : Huawei Technologies (Thailand) Co., Ltd. โทร 0-2654-3622
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ Huawei MatePad Pro
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=461285
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/huawei/matepad_pro.htm
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip 6 ครั้งแรกมือถือจอพับกันน้ำได้ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเฉดสีสไตล์มินิมอล สดใส เก๋ไก่ น่ารักเอามากๆ มี 4 เฉดสีใ...